ความฉลาดของ AI อาจจะยังไม่ถึงขั้นเฉลียว

SME in Focus
22/02/2021
รับชมแล้วทั้งหมด 1819 คน
ความฉลาดของ AI อาจจะยังไม่ถึงขั้นเฉลียว
banner

ช่วงการระบาดของโควิด 19 ได้กระตุ้นให้เกิดจุดเปลี่ยนทางธุรกิจในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมีการนำเทคโนโลยีมาผสานประโยชน์ทางธุรกิจในหลายด้าน ก่อให้เกิดการเร่งเร้าการเติบโตของเทคโนโลยี ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีทีมีการกล่าวถึงมาก นั่นคือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือระบบสมองจักรกลอัจฉริยะ) เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถหลากหลายและถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ทำให้มีการคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงสังคมและเศรษฐกิจอย่างมากในโลกอนาคต ซึ่งหลายประเทศต้องการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของตนเองเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำในเทคโนโลยีดังกล่าว แต่จะเป็นไปได้อย่างไรว่า AI จะสามารถคำนวณหรือประเมินได้ทุกอย่าง ทำให้ปัจจุบันก็มีการตั้งคำถามถึงความสามารถที่แท้จริงของ AI ซึ่งอาจเป็นแค่เทคโนโลยีเลียนแบบสมองมนุษย์ ซึ่งหากไม่มีการป้อนข้อมูลหรือมีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ก็อาจจะเป็นอะไรที่มากเกินความสามารถของ AI ก็เป็นได้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

รวมทั้งข้อกังวลสำคัญของเทคโนโลยี AI ที่ไม่อาจมองข้าม คือผลกระทบต่อตลาดแรงงาน หากธุรกิจและอุตสาหกรรมมีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ทำงานแทนมนุษย์มาก ทั้งได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ ด้านการบริการ ผลิตภัณท์ต่างๆ ทั้งเพื่อการอุปโภคและบริโภค รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยี AI ในเชิงธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร เทคโนโลยีคลาวด์ และแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการตลาดต่างๆ

ซึ่งประโยชน์ของ AI นั้นเห็นได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ภายหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เนื่องจากผู้บริโภคต่างหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เพื่อความบันเทิง เช่นดูหนังและฟังเพลงเป็นต้น และจะเห็นได้ว่าผู้บริโภคในภาคพื้นเอเชียยอมรับและใช้งานเทคโนโลยี AI อย่างแพร่หลาย พร้อมทั้งตระหนักถึงประโยชน์ของ AI ที่มีต่อการดำเนินชีวิต

 

AI อาจไม่สามารถคาดการณ์ได้ทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจจำเป็นต้องตระหนักถึงผลกระทบของโควิด 19 ต่อเทคโนโลยี AI และระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) นั้นเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ โดยทำการหารูปแบบจากข้อมูล (pattern recognition) เพื่อนำมาคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่จะเห็นได้ว่าไม่มีบุคคลหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ใดที่สามารถคาดการณ์ถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากโควิด 19 ได้ เนื่องจากไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ระบบ AI จึงไม่มีข้อมูลในอดีตที่จะนำมาศึกษา

ด้วยเหตุนี้ ระบบ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาส่วนใหญ่นั้นมีการป้อนข้อมูลอย่าง real-time รวมทั้งมีความยืดหยุ่นและปรับใช้ได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในระดับที่ปกติ แต่ในกรณีที่ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในระดับที่สูงมาก เช่นในกรณีของโควิด 19 ระบบจะไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ ดังนั้นธุรกิจต่างต้องมีการปรับเปลี่ยนโมเดลการทำงานของ AI เพื่อให้รองรับสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ รวมถึงปรับโมเดลให้สามารถรับกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดต่อไปในยุค New Normal ได้ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะสามารถทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและสร้างความยั่งยืนได้

 

AI แค่ทำให้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น

จากข้อมูล Google Hong Kong และเคพีเอ็มจี ในงานวิจัยเรื่อง Smarter Digital City – AI for Everyone ซึ่งมีการกล่าวถึงมาตรวัดความพร้อมด้านการใช้ AI (AI Readiness Index) ซึ่งผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า 65% เชื่อว่า AI จะช่วยพัฒนาสังคมโดยรวมได้ ในขณะที่ 63% กล่าวถึงเหตุผลในการใช้ AI ว่าเกิดจากความสะดวกสบายและความสะดวกในการใช้งาน 

โดย 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามดังกล่าวใช้เทคโนโลยี AI ในการแปลภาษา และ 79% ใช้ในการเดินทาง ซึ่งเป็นสองกรณีที่ผู้ใช้งาน AI มากที่สุด สำหรับภาคธุรกิจแล้ว 78% เชื่อว่า AI สามารถทำประโยชน์ให้แก่ธุรกิจได้ โดยเฉพาะในเชิงของการพัฒนาคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันนั้นงานวิจัย Pulse survey of C-Levels ซึ่งวิจัยผู้บริหารในประเทศไทย พบว่าธุรกิจ 67% ได้มีการเร่งลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างเปิดรับการใช้และเล็งเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวัน

สำหรับประเทศไทย เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะระบบ Chatbot และ Robot Process Automation (RPA) ที่เป็นระบบงานที่องค์กรต่างๆ ในไทยนิยมนำมาใช้ ประกอบกับวิกฤตโควิด 19 ที่ทำให้ข้อจำกัดในการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงล็อกดาวน์การใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาช่วยในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งมีการคาดว่า AI อาจกลายเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจสามารถกลับมาฟื้นตัว

กระนั้นอย่างที่ระบุไว้ในตอนต้น AI อาจเป็นความชาญฉลาดด้านเทคโนโลยี แต่ยังไม่ถึงขั้นฉลาดเฉลียวมากเกินไปกว่าสมองของมนุษย์ ดังนั้นอาจจะยังไม่สามารถประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้ ดังนั้นการใช้งานจึงต้องมีความยืดหยุ่นมากพอ และอาจจะนำประโยชน์เด็ดนี้ไปปรับใช้ 'ให้ AI ทำงานของ AI และมนุษย์ก็ทำงานของมนุษย์' จะได้ไม่ล้ำเส้นกัน

 

แหล่งอ้างอิง : เคพีเอ็มจี ประเทศไทย 



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ยนต์ผลดี จากโรงงานผลิตเครื่องสีข้าว สู่ ‘โรงเรียนโรงสี’ และเป้าหมายการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวให้เข้มแข็ง

ยนต์ผลดี จากโรงงานผลิตเครื่องสีข้าว สู่ ‘โรงเรียนโรงสี’ และเป้าหมายการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวให้เข้มแข็ง

โรงเรียน ‘โรงสีข้าว’ แห่งแรกของไทย โรงเรียน ‘โรงสีข้าว’ หรือ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าว จัดตั้งโดย บริษัท ยนต์ผลดี จำกัด…
pin
251 | 25/03/2024
3 ผู้บริหารหญิงยุคใหม่ กับแนวคิดใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ

3 ผู้บริหารหญิงยุคใหม่ กับแนวคิดใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ

ไขเคล็ดลับและแนวคิดที่ผลักดันให้ผู้นำหญิงในโลกธุรกิจขึ้นมายืนแถวหน้า นักธุรกิจหญิงแกร่งที่ทรงพลังต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ จนทำให้พวกเธอสามารถขึ้นมายืนแถวหน้าอย่างภาคภูมิ…
pin
417 | 22/03/2024
พลังหญิง เปลี่ยนโลก 3 บทบาทของผู้บริหารหญิงในการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวที่สร้างแรงบันดาลใจด้านสิ่งแวดล้อม

พลังหญิง เปลี่ยนโลก 3 บทบาทของผู้บริหารหญิงในการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวที่สร้างแรงบันดาลใจด้านสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อธุรกิจ เมื่อหลายประเทศทั่วโลกเริ่มออกกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น…
pin
333 | 20/03/2024
ความฉลาดของ AI อาจจะยังไม่ถึงขั้นเฉลียว