เราคุ้นเคยกับคำว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI สมองกลอัจฉริยะ ที่กล่าวกันว่าจะมาเปลี่ยนผ่านงานยุคเก่าสู่ยุคใหม่
เราทราบอีกว่า AI จะเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มีบทบาทสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ
และเราอาจทราบอีกว่า โลกการทำงานยุคใหม่ คืองานที่คน (อาจจะ) สามารถทำงานร่วมกับ AI
ได้
แต่ทราบหรือไม่ว่า ทุกวันนี้ AI ถูกนำไปใช้ในฟังก์ชันธุรกิจอย่างไรบ้าง? หลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ที่ AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกๆ ฟังก์ชันธุรกิจ และกรณีศึกษาที่เราหยิบยกมาให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจบริบทการทำงานของ AI มากยิ่งขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. งานด้านการตลาด
ปัจจุบัน AI ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้น
แต่ยังมีส่วนช่วยในการจัดประเภทลูกค้าตามความสนใจหรือตามข้อมูลประชากร สามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังพวกเขาตามประวัติการเข้าชมเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มต่างๆ
ได้ โดยการประมวลผลข้อมูลจาก Big Data และกำหนดผลลัพธ์ตามที่ธุรกิจต้องการ
เพื่อนำข้อมูลวิเคราะห์ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์
อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ AI ในการตลาดคือผ่าน ‘แชทบอท’ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการสนับสนุนการขาย แถมยังสนับสนุนนักการตลาด
ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สามารถช่วยให้ธุรกิจปรับเปลี่ยนแคมเปญการตลาด
เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือวางแผนที่ดีขึ้นสำหรับอนาคต
2. งานด้านฝ่ายขาย
ทุกวันนี้มีการนำซอฟต์แวร์ AI มาใช้งานในด้านการขายผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่สามารถปรับปรุงฟังก์ชันการขายได้ ซึ่ง AI ช่วยปรับปรุงการพยากรณ์ยอดขายทำนายความต้องการของลูกค้า และปรับปรุงการวิธีการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
สามารถช่วยให้จัดการเวลาและระบุได้ว่า ลูกค้าต้องการสินค้าอะไร เมื่อไหร่ และปริมาณเท่าไหร่ได้อีกด้วย
ล้ำใช่มั้ยล่ะ
3. การวิจัยและพัฒนา (R&D)
หากถามว่า AI เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างไร?
ด้วยข้อดีที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ
ทำให้สามารถช่วยเราในการค้นคว้าข้อมูลและยังสามารถพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่เราไม่เคยคิดมาก่อนได้อีกด้วย
เรียกได้ว่าในงานด้านวิจัยและพัฒนาในทุกวันนี้ AI คือประตูบานแรกที่นักวิจัยต้องเปิดเข้าไปสู่การค้นพบใหม่ๆ
แถมช่วยให้กิจกรรม R&D มีกลยุทธ์และประสิทธิผลมากขึ้นอีกด้วย
4. ปฏิวัติวงการไอที
คุณรู้จัก AIOps หรือไม่ ชื่อเต็มๆ คือ
Artificial Intelligence for IT Operation ซึ่งเป็น AI สำหรับงาน IT Operation โดยการนำความสามารถของ
Big Data, Analytics และ Machine
Learning มาช่วย ทำให้สามารถมอนิเตอร์ Infrastructure ได้แบบ End-to-end ช่วยให้เราสามารถช่วยดำเนินการเชิงรุกได้ โดย AI มักใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของล็อกไฟล์ระบบไอที
พร้อมด้วยฟังก์ชันการจัดการระบบไอที เพื่อทำให้กระบวนการประจำต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ
สามารถช่วยระบุปัญหาเพื่อให้ทีมไอทีสามารถแก้ไขได้ในเชิงรุกก่อนที่ระบบไอทีจะล่ม
เนื่องจากระบบไอทีเพื่อสนับสนุนธุรกิจในทุกวันนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่ง AI
ก็ได้เข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้
5. การจัดการทรัพยากรมนุษย์
ทุกวันนี้มีการนำศักยภาพของ AI มาเปลี่ยนแปลงกิจกรรมด้าน HR มากมาย
ตั้งแต่การสรรหาบุคลากรไปจนถึงการจัดการความสามารถบุลากร ซึ่ง AI สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดเงินได้อย่างแน่นอน อาทิกรณี
เป๊ปซี่โคใช้หุ่นยนต์ Robot Vera โทรศัพท์และสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อเปิดรับตำแหน่งฝ่ายขายได้
นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยฝ่ายทรัพยากรบุคคลในการตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลและทำการคัดกรองผู้สมัครและกระบวนการสรรหาได้ง่ายขึ้น
และ Chatbots ยังสามารถใช้เพื่อตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับนโยบายและผลประโยชน์ของบริษัทได้ด้วย
6. งาน Call center
ระบบ Call
center ขององค์กรอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องคิดให้ดีหากจะใช้ AI เพราะงานในส่วนที่ต้องรับฟังและแก้ปัญหาให้กับลูกค้า แต่ก็มีข้อดีที่ AI
มีความเก่งกว่าคน อาทิ การใช้ AI ในการรวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สามารถใช้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า
และ AI ยังสามารถทำนำข้อร้องเรียนของลูกค้ามาปรับปรุง แก้ไข รวมทั้งยังสามารถวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของลูกค้าในด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
7. การบำรุงรักษาอาคาร
อาคารสำนักงานในทุกวันนี้มีการนำ AI มาใช้ในด้านการบำรุงรักษาอาคารและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย
การสร้างระบบจัดการอาคารและควบคุมระบบแสงสว่างและระบบทำความร้อน/ความเย็น ใช้อุปกรณ์และเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตจากสิ่งต่างๆ
ตลอดจนการมองเห็นด้วยจอมอนิเตอร์เพื่อตรวจสอบอาคาร แถมยังทำหน้าที่เสมือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในอาคารได้อีกด้วย
8. การผลิต
อย่างกรณีของ ไฮเนเก้นที่ใช้ซอฟต์แวร์
AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่ซัพพลายเชนไปจนถึงการติดตามสินค้าคงคลังบนชั้นวางของร้านค้า
ข้อมูลเชิงคาดการณ์ของ AI ไม่เพียงสามารถคาดการณ์ความต้องการและการผลิตทางลาดขึ้นหรือลงได้
แต่เซ็นเซอร์บนอุปกรณ์สามารถทำนายความต้องการในการบำรุงรักษาได้ แถมยังช่วยตั้งค่าสถานะข้อกังวลในกระบวนการผลิตก่อนที่ปัญหาราคาแพงจะปะทุขึ้น
และยังสนับสนุนกระบวนการควบคุมคุณภาพที่โรงงานผลิตได้ด้วย
9. บัญชีและการเงิน
หลายองค์กรกำลังค้นหาคำมั่นสัญญาของการลดต้นทุนและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดใจหลักสำหรับปัญญาประดิษฐ์ในที่ทำงาน และจากการให้คำปรึกษาของ Accenture การทำงานอัตโนมัติของกระบวนการหุ่นยนต์สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในพื้นที่เหล่านี้
สำหรับอุตสาหกรรมการบัญชีและการเงินและแผนกต่างๆ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของมนุษย์จะได้รับการปลดปล่อยจากงานซ้ำๆ
เพื่อให้สามารถมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมระดับสูง ในขณะที่การใช้ AI ในการบัญชีจะช่วยลดข้อผิดพลาด AI ยังสามารถให้สถานะทางการเงินแบบเรียลไทม์แก่องค์กรได้
เนื่องจากสามารถตรวจสอบการสื่อสารผ่านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ
10. สร้างประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย
อีกวิธีหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยี AI และBig Data ในธุรกิจปัจจุบันคือการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า
อาทิ Burberry แบรนด์แฟชั่นสุดหรูที่ใช้ Big Data และ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและความสัมพันธ์กับลูกค้า
บริษัท รวบรวมข้อมูลของนักช้อปและนำเสนอแคมเปญหรือคำแนะนำที่เหมาะกับลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าทางออนไลน์หรือในร้านค้าที่มีหน้าร้านจริง
รวมทั้งการใช้แชทบอทก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
ข้อมูลเหล่านี้สำหรับ SMEs บางรายอาจมองไม่ออกว่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร แต่ถ้าเราบอกว่าทุกวันนี้มีซอฟต์แวร์ AI ฟรีให้เลือกใช้ หรืออาจเสียเงินจำนวนเล็กน้อยก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI หรือ Big Data ได้ไม่ยาก ดังนั้นอาจปรับงบประมาณในการพัฒนาการตลาด หรือเพิ่มงบส่วนการพัฒนาธุรกิจขึ้นมาสัก 10% ของงบประมาณด้านการลงทุน เพื่อปรับธุรกิจให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<