เรื่องที่ควรใส่ใจ! เมื่อร้านอาหาร ให้บริการห่อกลับบ้าน
สถานการณ์โควิด 19 รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร
เนื่องจากความต้องการสั่งอาหารเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้านมีเพิ่มมากขึ้น จึงป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการในการหาแนวทางการส่งเสริมการตลาด
เพื่อให้ได้มาซึ่งผลกำไรและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
ผู้ให้บริการอาหารที่ต้องการประสบความสำเร็จในการให้บริการห่อกลับบ้านต้องแน่ใจว่า อาหารที่จะส่งให้ลูกค้านั้นมีคุณภาพเสมือนการรับประทานที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ รสชาติ และรสสัมผัส นั่นหมายถึงการให้ความสำคัญกับรายการอาหาร การปรุงและจัดแต่งอาหาร การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย (เช่น การสั่งซื้อและการชำระเงินออนไลน์) ความถูกต้องในการจัดส่งตามคำสั่งซื้อ รวมถึงการควบคุมดูแลการดำเนินงานอื่นๆ ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า ความพึงพอใจของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะลดลงเล็กน้อย เมื่อสั่งซื้อสำหรับรับประทานนอกสถานที่ ดังนั้นเป้าหมายของผู้ประกอบการคือ การทำให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นน้อยที่สุด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
บรรจุภัณฑ์
เมื่อกล่าวถึงบริการซื้ออาหารกลับบ้าน บรรจุภัณฑ์คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงมากที่สุด
เพราะอาหารที่สั่งกลับบ้านนั้นจะต้องมีคุณภาพ รสชาติ
และความสดใหม่เช่นเดียวกับการนั่งรับประทานที่ร้าน โดยจะต้องทดสอบและคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
ที่เหมาะกับประเภทอาหารของร้าน
บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้องมีความทนทานต่อการแตกร้าว การเจาะทะลุ
และการย่อยสลายด้วยความร้อน
เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากยังใช้บรรจุภัณฑ์ในการจัดเก็บและอุ่นอาหาร
ซึ่งหมายความว่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้โฟม
แต่ใช้กระดาษหรือพลาสติกที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้
นอกจากนี้ผู้ประกอบการอาจเลือกใช้บรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดสำหรับเมนูต่างๆ
ของร้านได้ เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ทำจากกระดาษทนทานสำหรับใส่ของทอด
หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีฝาแบบใสสามารถมองเห็นส่วนประกอบของอาหารด้านในได้
หรือแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์ที่มีช่องแบ่งสำหรับแยกส่วนอาหารและบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กสำหรับใส่ซอสและน้ำสลัด
เป็นต้น
การจัดส่ง
แม้ว่าการบริการจัดส่งอาหารจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น
แต่ก็เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้เช่นเดียวกัน
การใช้บริการจัดส่งอาหารโดยบริษัทเอกชนกำลังเติบโตขึ้น
เนื่องจากผู้ประกอบการเลือกที่จะหลีกเลี่ยงค่าประกันที่สูงและความรับผิดชอบอื่นๆ
ที่เกิดจากการส่งอาหารด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญคือ เมื่ออาหารออกจากร้านไปแล้ว
การควบคุมคุณภาพอาหารได้ตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่สาม
เช่นเดียวกับการเลือกบรรจุภัณฑ์
ผู้ประกอบการจะต้องทดสอบและประเมินผู้ให้บริการจัดส่ง โดยต้องเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ในเรื่องความรวดเร็ว
คุณภาพของอาหารเมื่อถึงมือผู้รับ และการบริการลูกค้า ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
เช่น การนำเสนอทางออนไลน์ และความสะดวกในการสั่งซื้อ ความช่วยเหลือด้านการตลาด
และส่วนร่วมในการช่วยให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ
ไอเดียสำหรับการให้บริการซื้อกลับบ้าน
- เตรียมบรรจุภัณฑ์สำหรับห่อกลับบ้านให้มีจำนวนใกล้เคียงกับส่วนประกอบอาหารที่เตรียมไว้
และจัดเก็บในพื้นที่ที่ความสะอาด
- เพิ่มเมนู add-ons ให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น
- เปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกส่วนประกอบอาหารเองได้
เช่น ผักกาดหอมและมะเขือเทศสำหรับเบอร์เกอร์ รวมทั้งการเลือกน้ำสลัดและซอสต่างๆ
- นำเสนอรายการอาหารที่มีปริมาณและขนาดเล็กลง
เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่มีเด็กๆ
- จัดกิจกรรมการกุศลที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
เช่น การบริจาคอาหาร 1 มื้อให้โครงการสำหรับเด็กด้อยโอกาส
จากการสั่งอาหารซื้อกลับบ้านในแต่ละมื้อ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลือกคำสั่งซื้อกลับบ้านบนเว็บไซต์มีสถานะออนไลน์
ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่เมนูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ
ให้พร้อมใช้งานและมีรูปภาพประกอบ
- ตรวจสอบผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร
เพื่อพิจารณาว่าบริษัทพันธมิตรเหล่านี้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
- ให้พนักงานร้านทดสอบการให้บริการห่อกลับบ้าน
เพื่อรายงานและประเมินความพึงพอใจ สำหรับนำไปปรับปรุงใช้จริง
แหล่งอ้างอิง : Thai Business Information Center in
USA