การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ และความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้ของมนุษย์...ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ถึงอย่างนั้น ตลอดหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่าน มนุษย์ต่างมีความพยายามที่จะเอาชนะกฎเกณฑ์ความเจ็บป่วยและความตาย เหตุนี้ ยาและการรักษาในรูปแบบต่างๆ จึงถูกคิดค้นมาเพื่อ ‘การไม่เจ็บป่วยและการไม่ตาย’ และด้วยเทคโนโลยีและงานวิจัยที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้น ทำให้มีการตั้งความหวังไว้ว่า หากคนสามารถท้าทายกฎธรรมชาติได้ในอนาคต มาดูกันว่าเราเข้าใกล้ความจริงมากเพียงใด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. การวิเคราะห์เซลล์เดียว
การวิเคราะห์เซลล์เดียวจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาเซลล์แต่ละเซลล์ในสภาพแวดล้อมปกติได้เป็นครั้งแรก
ความสามารถในการตรวจสอบว่ายีนใดถูกเปิดหรือปิดในแต่ละเซลล์ และในการถอดรหัสว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันโจมตีเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดีอย่างไร
จะเปลี่ยนวิธีที่เราเข้าใกล้โรคแพ้ภูมิตัวเองและวิธีที่เราต่อสู้กับกระบวนการแพร่กระจายของมะเร็ง
2. แผนที่สมองวิเคราะห์โรคในอนาคต
แม้สมองของมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์
แต่การวิจัยสมองผ่านการพัฒนานวัตกรรมระบบประสาท กำลังเร่งความเข้าใจของเราเกี่ยวกับอวัยวะที่ซับซ้อนและสำคัญที่สุด
ภายในหนึ่งทศวรรษนักวิจัยจะทำแผนที่วงจรที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับการทำงานของเซนเซอร์ตรวจจับการมองเห็นความจำและอารมณ์
สิ่งนี้จะนำไปสู่แนวทางใหม่ในการรักษาความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ออทิสติก โรคลมบ้าหมู
การบาดเจ็บที่สมอง พาร์กินสัน อัลไซเมอร์และการบาดเจ็บที่ไขสันหลังได้
3. ทำนายโรคอัลไซเมอร์
นักวิจัยระบุว่าภายในหนึ่งทศวรรษข้างหน้า
เราจะสามารถระบุบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ก่อนที่อาการจะปรากฏขึ้น
การแทรกแซงในช่วงต้นจะชะลอหรือเปลี่ยนเส้นทางของโรค ซึ่งให้ประโยชน์ต่อมนุษย์และเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง
4. รักษาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
การพัฒนาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
จากนั้นการวิจัยที่ก้าวล้ำซึ่งได้ทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงไปสามารถขยับขาได้
โดยใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่ฝังในการผ่าตัด ซึ่งจะข้ามไขสันหลังที่ถูกตัดขาด
ในไม่ช้าผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกที่เผชิญกับความเสียหายของไขสันหลัง อาจได้รับอิสระในการเคลื่อนไหวกลับคืนมา
5. การจัดการความเจ็ดปวด
ความเจ็บปวดอาการปวดเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ร้ายแรงและมีค่าใช้จ่ายสูง
ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายสิบล้านคนทั่วโลก
น่าเสียดายที่การรักษาในปัจจุบันอาจทำให้เสพติดได้ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเศร้า NIH เพิ่งเปิดตัวโครงการ Help to End Addiction
Long-Term (HEAL) ควบคุมจีโนมิกส์ประสาทวิทยาและชีววิทยาโครงสร้าง เพื่อค้นพบเป้าหมายใหม่ทั้งหมดสำหรับการรักษาอาการปวดเรื้อรัง
6. เวชศาสตร์ฟื้นฟูร่างกาย
การวิจัยที่น่าตื่นเต้นถึงวิธีการเปลี่ยนหรือสร้างเนื้อเยื่อและอวัยวะของมนุษย์เมื่อได้รับความเสียหาย
วิธีการต่างๆ มีตั้งแต่การกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมของร่างกายไปจนถึงการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและอวัยวะในห้องปฏิบัติการ
ในทศวรรษที่ผ่านมายาปฏิชีวนะสามารถเปลี่ยนแนวทางของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและขจัดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อและอวัยวะ
7. การบำบัดด้วยภูมิคุ้มกันมะเร็ง
การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมะเร็ง
ด้วยการรวบรวมเซลล์ ภูมิคุ้มกัน และสร้างแอนติเจนไปต่อสู้กับมะเร็ง จะสามารถช่วยชีวิตผู้ใหญ่และเด็กที่เป็นมะเร็งในเลือดที่ไม่สามารถรักษาได้
8. วัคซีนใหม่
ในอีก 10 ปีข้างหน้าความก้าวหน้าที่สำคัญจะเกิดขึ้นในการป้องกันเอชไอวี
ไข้หวัดใหญ่ และโรคติดเชื้ออื่นๆ ซึ่งกำลังให้ทุนสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สากล
ที่จะป้องกันที่จากไข้หวัดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์
สิ่งนี้จะเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการระบาดทั่วโลกในครั้งต่อไป ซึ่งอาจช่วยชีวิตคนได้หลายล้านคน
9. การแก้ไขยีนเพื่อรักษาโรค
โมเลกุลของโรคในมนุษย์มีเกือบ 6,500
โรค แต่ปัจจุบันมีการรักษาเพียงประมาณ 500 โรคเท่านั้น ภายในปี 2573
เทคโนโลยีทางพันธุกรรมในการรักษาโรค ที่ครั้งหนึ่งดูเหมือนจะไม่สามารถเข้าถึงได้
เครื่องมือแก้ไขยีน เช่น ช่วยให้สามารถแก้ไขการกลายพันธุ์ของยีนได้ โดยการรักษาโรคเคียวเซลล์เป็นหนึ่งในเป้าหมายแรก
จากข้อมูลจากรายงานดัชนีนวัตกรรมระดับโลกปี 2019 ปัจจุบันมีการรักษาสำหรับโรคในมนุษย์ประมาณ
500 โรคที่มีสาเหตุทางโมเลกุล
10. การแพทย์ที่มีความแม่นยำขึ้น
ด้วยระบบการแพทย์ทีทมีความทันสมัย
ทำให้มีการประเมินว่าในอีก 10 ข้างหน้า เทคโนโลยียาและการแพทย์จะมีความแม่นย่ำสูงขึ้นอย่างมาก
และเป็นประโยชน์ต่อวงการสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของคนในยุคนี้ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า
ผู้คนจากทุกเพศทุกวัยทั่วโลกจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น
แหล่งอ้างอิง :