อยากให้ทุกคนลองเปิดใจแล้วอ่านถึงประโยชน์ที่จะได้รับจริง ๆ แล้วจะรู้ว่าการ ร่วมมือกันกับคู่แข่ง นั้น นอกจากจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรขึ้นมาแล้ว ยังมีแต่สร้างประโยชน์มากมายตามมาอีกด้วย
1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมากเชียวล่ะ
Startup ที่มีความคล้ายคลึงกันหรือเป็นคู่แข่งที่มีสินค้าชนิดเดียวกัน มักจะมีพื้นที่ขายของหรือกลุ่มเป้าหมายที่ทับซ้อนกันอยู่เสมอ ซึ่งตรงจุดนี้เองที่จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการโฆษณาลูกค้า เพื่อให้ชนะคู่แข่งรอบตัวได้ แล้วจะไม่ดีกว่าเหรอถ้าคุณจะเจรจาต่อรองกับเขาเหล่านั้นให้มาเป็นหุ้นส่วนกัน เพื่อพัฒนาและลดต้นทุนการโฆษณาต่าง ๆ รวมทั้งขยายกิจการไปพร้อม ๆ กัน2. เสริมจุดแข็งให้แก่กัน เพื่อการขยายตลาด
คนที่เริ่มต้นทำ Startup ทุกคนจะโฟกัสไปเพียงแค่จุดเด่นหรือจุดแข็งของตัวเอง เช่น การเป็นเจ้าของช่องทางการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว แต่อย่าลืมว่าคู่แข่งของคุณเอง ก็อาจจะมีจุดแข็งที่สมบูรณ์ ที่สามารถเติมเต็มการค้าของคุณให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกได้ ดังนั้นการ ร่วมมือกับคู่แข่ง แบ่งปันกำไรให้แก่กัน จะเป็นเหมือนโอกาสในการเติบโตสำหรับการขยายตลาดให้กับทั้งคู่ได้3. มีโอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้า
ทุกธุรกิจจะมีฐานลูกค้าเป็นของตัวเอง หรือมีข้อมูลของลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้ว ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ที่สนใจในกลุ่มสินค้าที่มีลักษณะเดียวกัน ทำให้การรวมตัวกันของสองคู่แข่ง อาจจะเป็นเหมือนการแบ่งปันฐานลูกค้าให้แก่กัน เพื่อเพิ่มยอดขายให้ทั้งสองได้อีกด้วย4. รวมจุดแข็งสินค้าและพัฒนาไปพร้อมกัน
มีหลายครั้งที่คู่แข่งทั้งสองต้องเข้าห้ำหั่นกัน เพื่อแย่งชิงเก้าอี้แห่งความเป็นหนึ่งในธุรกิจ และสุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ด้วยกันทั้งคู่ แต่ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์กัน พวกเขาสามารถรวมจุดแข็งสินค้าเข้าด้วยกันไปพร้อม ๆ กับราคาและเวลาในการผลิตที่ต่ำลง ดีกว่าไปพัฒนาตรงส่วนอื่นเพื่อแข่งขันกันเองต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ตรงนี้จะทำให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งใหม่ ๆ และเติบโตไปด้วยกันต่อไป5. ส่งต่อลูกค้าให้แก่กัน
มีผู้ประกอบการมากมายที่ยุ่งเกินกว่าจะมองเห็นว่า ร่วมมือกับคู่แข่ง นั้นเป็นโอกาสในการเติบโตที่ดี แต่อยากให้ใส่ใจในจุดนี้สักนิดว่ามีความสำคัญจริง ๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่หุ้นส่วนไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ เขาก็สามารถส่งต่อลูกค้านั้น ๆ ให้กับเราได้นั่นเอง ซึ่งถ้าต่างคนต่างทำแบบนี้กันทั้งคู่ ผลประโยชน์ที่ได้ก็จะตกเป็นของพวกเขาต่อไป
10 ขั้นตอนในการเริ่มเป็นผู้ประกอบการ