ดิจิทัลยุคปัจจุบัน และสิ่งสำคัญที่ Startup ต้องรู้ กับกูรูเอก rgb72
ดิจิทัลในปัจจุบันเข้ามาอยู่ในชีวิตเราเต็มไปหมด ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งชีวิตเราต่อจากนี้ก็ต้องผูกติดกับสื่อดิจิทัลต่อไป ทั้งเรื่องสื่อ เรื่องโฆษณา และการใช้ชีวิตประจำวัน ในอนาคตก็จะมีมากขึ้นกว่านี้อีก โดยข้อดีของการมีดิจิทัลเข้ามาก็คือ ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น ถ้าผู้ประกอบการ SME รู้จักสื่อดิจิทัลมากขึ้น จะทำให้สามารถต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้ และทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด แต่ข้อเสียก็คือ ความรวดเร็ว ถ้าผู้ประกอบการ SME ไม่รู้จักดิจิทัลดีพอก็อาจเกิดผลเสียได้เหมือนกัน เช่น โซเชียลมีเดีย ถ้าผู้ประกอบการ SME ที่ไม่ได้ระวังมากเมื่อ PR อะไรที่ผิดพลาดลงไป ก็จะแก้ไขไม่ทัน เพราะความไวของเจ้าสิ่งนี้นี่เอง หรือหมกมุ่นแต่กับดิจิทัลมากไป ทำให้อาจหลงทางในการทำธุรกิจโดยรวมได้
ทุกวันนี้หลายคนคงเคยได้ยินศัพท์คำว่า Startup มากขึ้น ทำให้เกิดความสงสัยว่าจริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่ และแตกต่างจากการเป็นผู้ประกอบการ SME อย่างไร โดยคุณเก่งได้ให้ข้อมูลว่า "คอนเซ็ปต์ของ Startup ก็คือการทำธุรกิจ แต่มีโอกาสเติบโตได้รวดเร็ว และทำซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง หมายความว่าเวลาผลิตสินค้าสักชิ้น ต้องไปถึงมือผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไม Startup ส่วนใหญ่ถึงเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและดิจิทัล เช่น แอพพลิเคชั่น เพราะสามารถกระจายไปถึงมือทุกคนได้รวดเร็วมากกว่าการทำสินค้าออกมาอย่างผู้ประกอบการ SME เพราะกว่าจะไปถึงคนคนหนึ่งได้ มันยาก" นอกจากนี้คุณเก่งยังให้ความรู้เสริมอีกว่า "การเติบโตที่รวดเร็วนี้ไม่ใช่แค่กับเพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่สามารถขยายออกไปต่างประเทศ ออกไปทั่วโลกได้ เหมือนอย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม"
กระแสการทำ Startup ที่เพิ่งเข้ามาเป็นที่รู้จักในประเทศไทยเมื่อ 2-3 ปีก่อนนั้น เป็นเพราะเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นมา บวกกับการที่ต่างประเทศได้มีผู้คนให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก และนักลงทุนต่าง ๆ เห็นถึงความสำคัญของ Startup เมืองไทยว่ามีศักยภาพน่าลงทุน ประกอบกับเทเลคอมของไทยเริ่มมีกระแสตอบรับกับเหล่า Startup มีการจัดงานพิทชิ่งขึ้น จัดการประกวดต่าง ๆ ทำให้กระแส Startup บูมขึ้นมา
โดยส่วนมาก Startup จะใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก ทำให้การพัฒนาของโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีมีผลอย่างมากในการเคลื่อนตัวของ Startup ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แต่ข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีก็ไม่ได้หมดไป โดยคุณเก่งให้ความเห็นกับเรื่องนี้ไว้ว่า "Startup ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เป็นเพราะพวกเขาโฟกัสที่เทคโนโลยีมากเกินไป ไม่เน้นทางด้านธุรกิจ สร้างสินค้าสักชิ้นขึ้นมาตั้งนาน หมดเงินไปตั้งหลายบาท เสียเวลาไปตั้งหลายปี แต่กลับไม่มีคนอยากใช้ เพราะไม่ตอบโจทย์ ฉะนั้นควรเริ่มจากน้อย ๆ ก่อน เก็บผลลัพธ์ และนำไปพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมในภายหลัง"
แล้วสำหรับคนทั่วไปล่ะ ควรระวังอะไรบ้างจากการใช้งานเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้?
"ในมุมผม ผมคิดว่าเรื่องความปลอดภัย ทุกอย่างในดิจิทัลมันเป็นสาธารณะมาก การเล่นเฟซบุ๊กทุกวัน ทุกสื่อที่เราเข้า มันเก็บข้อมูลเราหมด ดังนั้นถ้าเข้าใช้งานอะไรต่าง ๆ แล้วเห็นข้อความเตือนขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลของเรา เราก็ควรอ่านก่อน"
แทบจะเรียกได้ว่าเทคโนโลยีกับ Startup นั้นเป็นสิ่งที่คู่กันเลยก็ว่าได้ ทำให้ไม่มีปัญหาในการใช้งานเท่าไหร่ แต่สิ่งที่คุณเก่งเป็นห่วงก็คือ ด้านธุรกิจ ด้านการตลาด ด้านการบริหารบุคคล "ผมคิดว่าพวกนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Startup ไม่ประสบความสำเร็จ บางครั้งอาจไม่ได้เกิดจากสินค้าที่มีไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะการบริหารจัดการไม่เก่งพอมากกว่า ส่วนหนึ่งผมคิดว่าเพราะเด็กไทยไม่ค่อยได้ออกไปหาประสบการณ์การทำงานอย่างจริงจัง ทำให้มองไม่เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในการทำธุรกิจ และทำให้พวกเขาล้มเหลวในครั้งแรกที่ทำ Startup หลังจากจบมหาวิทยาลัยมา"
ซึ่งสิ่งที่คุณเก่งเสนอเพื่อเป็นวิธีแก้ไขในปัญหานี้ก็คือ การเข้าร่วมงานสัมมนา หรือคอร์สเรียนเกี่ยวกับธุรกิจ "ผมว่าถ้าเค้าไปลงพวกนี้ไว้มันก็ดีนะ บางคลาสราคาอาจจะสูง แต่ผมมองว่า เรายอมเสียสามสี่หมื่นตอนนี้ ดีกว่าเราลงทุนไปเป็นแสนแล้วมันเจ๊ง"
ก่อนจะจากกันไป เราขอให้คุณเก่งช่วยแนะนำคุณสมบัติที่ Startup ที่ดีควรจะมี เพื่อให้เหล่าน้อง ๆ หรือพี่ ๆ ที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ได้ปรับตัว และประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กัน "คุณสมบัติของ Startup ที่ผมคิดว่าจะประสบความสำเร็จได้ก็คือ มีทัศนคติที่ดี มองโลกไม่แคบ เพราะเราต้องฟังลูกค้า การทำ Startup ก็เหมือนการทำธุรกิจ ถ้าเราไม่มองโลกในด้านดี ถ้าเราคิดแต่จะทำเงินให้เข้าตัวได้อย่างเดียว ไม่สนใจในสิ่งอื่น ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็คงไม่น่าไปด้วยดีได้"
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษา Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้านทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333

