2 กูรูสตาร์ทอัพ เผยเคล็ดลับการก้าวกระโดด ในแวดวง อี-คอมเมิร์ซไทย
ธุรกิจ SiamOutlet เป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยงานหลักคือให้บริการรับส่งสินค้า และติดต่อซื้อขายผ่านโลกออนไลน์
ธุรกิจ Fixzy เป็นธุรกิจที่รวบรวมช่างมืออาชีพไว้ในระบบ เพื่อรองรับลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องบ้านทุกเวลา เช่น ต้องการซ่อมแซมหลังคา ท่อน้ำ และอุปกรณ์ที่ชำรุดภายในบ้านต่าง ๆ เป็นต้น
มาทำความรู้จักธุรกิจ SiamOutlet และ Fixzy กัน
SiamOutlet บริหารงานโดยคุณปอนด์ หรือคุณธีรวีร์ ศิรินภสวัสดิ์ ได้มาเล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า “ช่วงอายุ 7 ขวบ ได้เจอของสิ่งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นถือว่าเป็นของที่มหัศจรรย์มาก ก็เลยศึกษาสิ่ง ๆ นั้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งแตกต่างจากเด็กคนอื่นที่เล่นของเล่นทั่วไป จนมาอายุ 13 เป็นเด็กพิเศษกว่าคนอื่น ตอนนั้นได้เดินเข้าห้องคอมฯ พอดีเจออาจารย์กำลังพิมพ์ข้อสอบ เลยมีไอเดียว่า ฉันต้องเอาข้อสอนนั้นมาให้ได้ จากนั้นจึงแฮกตัวเน็ตเวิร์คเพื่อเอาข้อสอบมา แต่บังเอิญโดนอาจารย์จับได้ โดยอาจารย์พูดมาประโยคหนึ่งว่า ถ้าคุณมีความรู้เหนือคนอื่น จะเอาความรู้นี้ไปช่วยคนอื่น หรือจะเอาไปทำร้ายคนอื่น จากคำพูดของอาจารย์ก็เลยทำให้ผมคิดได้”
“กระทั่งอายุ 14 ปี ไปสมัครทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ได้รู้จักผู้คนในแวดวงมากขึ้น พอเข้ามหาวิทยาลัยยุคนั้นเริ่มเจออินเทอร์เน็ต และปี 2000 เขียนซอฟต์แวร์ให้เสื้อยี่ห้อหนึ่ง จนเรียนจบมหาวิทยาลัยไปทำงานเว็บไซต์สุขภาพระยะหนึ่ง และย้ายไปทำงานดูแลระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งชีวิตผมทำงานตั้งแต่พาร์ทไทม์ ฟูลไทม์ สุดท้ายหันมาเปิดธุรกิจเป็นของตนเอง เนื่องจากได้ไอเดียมาจากน้องคนหนึ่งที่อยากขายของ และตอนนั้นผมได้ติดต่อไปยังเพื่อนที่ขายของเหมือนกันให้มาแนะนำความรู้ แต่เขาไม่มีเวลาว่างเลย ฉะนั้น ฉุดคิดขึ้นมาว่า ถ้าทำธุรกิจการขายของให้ง่ายขึ้น และเรามีเวลามากขึ้นก็จะดี ดังนั้น จึงกลายเป็นธุรกิจ SiamOutlet เป็นต้นมา”
ส่วน Fixzy บริหารงานโดยคุณรัช หรือคุณ รัชวุฒิ พิชยาพันธ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า “หลังเรียนจบทำงานที่บริษัทซอฟต์แวร์เฮ้าท์ เป็นโปรแกรมเมอร์ 2-3 ปี เลยออกมาทำธุรกิจของตนเองในรูปแบบซื้อมาขายไปก่อน แต่ก็เจ๊ง จากนั้นกลับมามองตัวเองใหม่ ดึงเพื่อนออกจากงานมาลำบากด้วยกัน เปิดธุรกิจซอฟต์แวร์ด้วยกัน 2-3 ปี รับจ้างทำสินค้า ซึ่งตอนนั้น เหมือนเรามีนายจ้างหลายคน แทนที่จะมีนายจ้างเพียงคนเดียวเหมือนตอนทำงานประจำ เลยตัดสินใจทำสตาร์ทอัพดีกว่า เนื่องจากเล็งเห็นถึงปัญหาว่า เวลาที่อุปกรณ์ภายในบ้านชำรุดไม่ว่าจะเป็น ท่อน้ำเสีย ห้องน้ำอุดตัน เพดานแหว่ง เป็นต้น พอโทรไปตามช่างเขากลับไม่ว่าง ดังนั้น เราพยายามรวบรวมช่างเหล่านี้ เพื่อให้เขารู้ว่า เราเป็นแอพพลิเคชั่นรองรับปัญหาของคุณได้”
“นอกจากนี้ ช่างที่เรารวบรวมมาไว้ในระบบล้วนคัดกรองมาเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะไปให้บริการลูกค้าทุกเมื่อ ซึ่งหากช่างคนไหนที่อยู่ภายในระบบของเราเกเรก็จะลดระดับเป็น 3 ดาว พร้อมให้เขาหยุดทำงานแล้วไปปรับปรุงตัวใหม่ ส่วนค่าจ้างนั้นก็จะได้สมน้ำสมเนื้อกับงานที่เขาทำด้วยเช่นกัน”
ในฐานะที่ทั้ง 2 ธุรกิจเป็นสตาร์ทอัพ วิธีการหาแหล่งรายได้คืออะไร?
คุณปอนด์ เล่าว่า “ธุรกิจเราชัดเจน ทุกวันนี้ทำธุรกิจติดต่อซื้อขาย ซึ่งมีน้องน็อต (เพจสมหมายขายกางเกง) เป็น CEO โดยน้องรู้ว่ากระบวนการทำงานนั้นเป็นอย่างไร และรู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ติดต่อมาทางไหน และช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาบ่อยคือ เฟซบุ๊ก ไลน์ และอินสตราแกรม ส่วนทางโทรศัพท์มาจะน้อยมาก”
คุณรัช เล่าว่า “ธุรกิจของเรา Control ได้ดี ทำงานเป็นระบบแบบแผน จ่ายค่าจ้างตามความสามารถของช่าง ไม่มีกำหนดว่าทำ 2 ชม. ได้ค่าจ้างเท่านี้ไม่ใช่”
การแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร?
คุณรัช เล่าว่า “ตอนนี้เราเป็นสตาร์ทอัพ การทำแคมเปญถือเป็นการสร้างรากฐานให้ตนเอง ถ้าเราเปิดร้านขายของ แต่กลับมีร้านขายของอีกร้านหนึ่ง มันต้องมีการตัดราคา ปัญหาของสตาร์ทอัพก็เช่นกัน ต้องรู้ลึกและต้องคิดให้รอบคอบ”
คุณปอนด์ เล่าว่า “ในส่วนความคิดเห็นผมมองว่า การตัดราคาเป็นเรื่องปกติ และต้องดูว่าการตัดราคาจะเป็นปัญหาอะไรไหม แต่สิ่งที่จะโฟกัสคือ ดูกระบวนการของปัญหาตอนนี้ว่า เราต้องแก้ไขส่วนไหน ซึ่งเดือนหนึ่งธุรกิจของผมโต 40 เท่า ทำมาได้ 2 ปีแล้ว ถ้าถามว่าการแข่งขันเยอะไหม ก็ถือว่ามีจำนวนมาก แต่เราไม่ได้ไปแข่งกับใคร เพียงแค่เราอยู่ในตลาดเดียวกันเท่านั้น”
ตั้งแต่ทำธุรกิจมาเจอปัญหาอะไรบ้าง?
คุณรัช เล่าว่า “สตาร์ทอัพ คือการทำสินค้าให้คนลองใช้ อย่างเช่น การโทรเรียกแท็กซี่ ทุกคนล้วนต้องการความมั่นใจ อีกทั้งส่วนใหญ่ลูกค้าเริ่มใส่ใจของถูกแต่ต้องดี”
คุณปอนด์ เล่าว่า “ผมสนุกกับปัญหา ถ้าหนักสุดอยู่ที่การทำงานของเรา ต้องทำให้ทีมงานเชื่อใจว่า เราจะผ่านไปด้วยกันได้”
อยากเติบโตใน AEC ไหม?
คุณรัช เล่าว่า “แน่นอน ธุรกิจของเราไม่ได้แก้ไขปัญหาให้เฉพาะตัวเอง แต่ต้องการแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่น ซึ่งอย่างประเทศอินโดนีเซียที่เขาเจอปัญหาแย่กว่า คือ ช่างไม่พร้อมให้บริการขณะลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ แต่เราพร้อมทุกเมื่อที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ Fixzy อยากได้คือช่างที่พร้อมทำงาน และอยากได้คนที่หาลูกค้าให้เรา”
คุณปอนด์ เล่าว่า “ทุกวันนี้เราใช้บริการไปรษณีย์ส่งสินค้า สามารถระบุได้เลยว่า ถึงบ้านลูกค้าเมื่อไหร่ วันไหน และผมได้ลองให้มอเตอร์ไซค์รับส่งสินค้าและคำนวณดูว่าใช้เวลาประมาณกี่นาที สรุปได้ว่าใช้เวลา 45 นาที ซึ่งใน 1 วัน มีมากถึง 30 ออร์เดอร์ ลูกค้าก็โวยวายว่าส่งช้าอยู่ดี ถึงอย่างไรผมก็สนุกและได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น ต่อไปจะพัฒนาเพื่อตอบสนองลูกค้าให้มากขึ้นเช่นกัน”