หลายคนอาจคิดว่าเสียงกรนในยามค่ำคืนที่มาจากคุณหรือคนรอบตัวเป็นเรื่องตลกและไม่รู้ว่าเสียงกรนนั้นมีสัญญาณเตือนแอบแฝงอยู่ นั่นคือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive sleep apnea) ที่เกิดจากอาการนอนกรนที่รุนแรง ซึ่งนำไปสู่โรคต่างๆ มากมาย
อาการนอนกรนเกิดจากการที่อวัยวะในช่องคอหย่อนคล้อยตัวจนปิดทางเดินหายใจในตอนหลับ ทำให้อากาศเข้าสู่ร่างกายน้อยลงจนถึงขั้นขาดอากาศได้ ซึ่งอาการนอนกรนที่รุนแรงจนขาดอากาศนี้เรียกว่าภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น เมื่อร่างกายขาดอากาศหรือหยุดหายใจ สมองจะกระตุ้นให้ตื่นกลางดึกเป็นช่วงๆ เพื่อหายใจเข้าแล้วหลับต่อ และกลับมานอนกรนอีกครั้งเป็นวงจร โดยที่คนที่นอนกรนไม่รู้ตัว บางคนตื่นกลางดึกถึง 100 ครั้งต่อคืน
การหยุดหายใจเป็นช่วงๆ กลางดึกยังส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีปัญหาโรคหัวใจและความดันโลหิต ซึ่งส่งผลไปถึงโรคหลอดเลือดในสมอง ในบางคนอาจโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคซึมเศร้า เป็นต้น นอกจากนี้ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนที่นอนกรนและคนใกล้ตัวอย่างมาก เมื่อสะสมเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
ผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการนอนกรนมักตรวจพบในขั้นที่อาการรุนแรงมากแล้ว เช่น พบอาการเมื่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยไม่ทราบหรือสงสัยมาก่อนว่ามีสาเหตุมาจากการนอนกรน บางคนพบเมื่อมีอาการหลับในจนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายครั้งในเวลาหนึ่งเดือน
อาการนอนกรนที่ไม่รุนแรงสามารถบรรเทาได้ด้วยการลดน้ำหนัก ลดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หากอาการรุนแรงควรรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ โดยเริ่มจากการตรวจเพื่อวินิจฉัยความรุนแรงและแพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งมีทั้งการรักษาแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด
เสียงกรนจึงเป็นเสียงที่ไม่ควรละเลย หากมีอาการหรือคนใกล้ตัวนอนกรนควรสังเกตให้ดีว่าเสียงกรนนั้นเป็นอย่างไร มีอาการรุนแรงหรือไม่ เพื่อให้รักษาได้ทันเวลาก่อนจะเกิดโรคร้ายหรืออันตรายอื่นๆ ตามมา