ญี่ปุ่น ประเทศที่ชื่อว่าเป็นเกาะ มีพื้นที่จำกัด และเกิดภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง กลับก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีอย่างมาก และถูกนำมาพัฒนาประเทศในทุกด้าน ด้านเกษตรก็เช่นกัน ปัจจุบัน ดินฟ้าอากาศแปรปรวนมาก และยากจะคาดเดา ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบกับการเพาะปลูก เทคโนโลยีจึงถูกนำมาใช้แก้ปัญหานี้
Plant factory หรือโรงงานปลูกพืชช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเกษตรที่ญี่ปุ่นได้พัฒนาต่อเนื่องมามากกว่า 20 ปี โรงงานนี้เป็นระบบปิดหรือกึ่งปิด ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุมปัจจัยด้านต่างๆ ที่มีผลกับการผลิตพืช ถือว่าได้ผลผลิตมากขึ้น แต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง จึงช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ทางหนึ่ง ระบบนี้มีข้อดี คือ
ใช้หลอดไฟ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสง ให้ความร้อนน้อย และประหยัดไฟ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พืชเติบโตได้ดี
ลดการใช้น้ำและธาตุอาหาร เมื่อเทียบกับการปลูกแบบเดิม ทำให้เป็นมิตรกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
ไม่เปลืองพื้นที่ สามารถปลูกพืชบนพื้นที่เดียวกันได้มากกว่า 10 ชั้น ให้ผลผลิตได้มากกว่าการปลูกพืชแบบเดิม 100 – 300 เท่า
ประหยัดเวลาในการเก็บเกี่ยว ช่วยให้อายุหลังการเก็บนานขึ้น
โรงงานปลูกพืชขนาดใหญ่ของบริษัท 808 Factory บนพื้นที่เมืองชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร สามารถปลูกพืชบนพื้นที่เดียวกันได้มากกว่า 10 ชั้น ปลูกได้ถึง 120,000 ต้น มีผลผลิตวันละ 9,000 ต้น ซึ่งระบบนี้ช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนลงมาก
โรงงานปลูกพืชระบบปิดน่าสนใจมากสำหรับการปลูกพืชในไทย โดยเฉพาะพืชที่มูลค่าสูงหรือพืชสมุนไพร เพราะการควบคุมคุณภาพพืชให้มีมาตรฐานจะช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และดึงดูดลูกค้ารายเดิมให้คงอยู่