จีนมุ่งพัฒนา "ข้าวน้ำทะเล" หวังเพิ่มผลผลิตข้าวทั่วประเทศ
ประเทศจีนที่มีประชากรเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ความต้องการในการบริโภคก็จะสูงขึ้นไปด้วย การพัฒนาการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่จีนกลับมีพื้นที่เป็นดินเค็มกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ซึ่งเป็นดินที่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูกและมีน้ำจืดค่อนข้างน้อย ดังนั้น ในปี 1970 ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนนำโดย Yuan Longping บิดาแห่งข้าวพันธุ์ผสม จึงเริ่มพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ทนความเค็มขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
การพัฒนาสายพันธุ์นี้ได้ดำเนินต่อเนื่องมาหลายปี ผ่านการคัดเลือก ผสมข้ามสายพันธุ์ มีการตรวจสอบพันธุกรรมหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งพบสายพันธุ์ที่ทนต่อดินเค็มเค็มหรือด่าง สามารถเจริญเติบโตในเขตน้ำขึ้น - น้ำลง และพัฒนาให้ได้ผลผลิตมากพอตามความต้องการ
ข้าวพันธุ์นี้ถูกทดสอบโดยนำไปปลูกในเมืองที่มีสภาพดินต่างกัน คือ เมืองคัชการ์ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เมืองต้าชิ่ง มณฑลเฮยหลงเจียง เมืองตงหยิง มณฑลซานตง เมืองชิงต่าว มณฑลซานตง เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง และเมืองเหยียนอาน มณฑลส่านซี เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ผลผลิต รสชาติ และต้นทุนการปลูกเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าการเพาะปลูกจะพลิกฟื้นพื้นที่เหล่านี้ให้อุดมสมบูรณ์ได้ และจะมีการศึกษาในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ สำนักงานวิจัยการปลูกข้าวในน้ำทะเล เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ได้ร่วมมือกับบริษัทของชีค ซาอีด บิน อัคเหม็ด อัล มักทูม สมาชิกราชวงศ์แห่งนครดูไบ นำเทคนิคนี้ไปทดลองปลูกในพื้นที่ทะเลทรายที่แห้งแล้งของเมืองดูไบ รัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยใช้น้ำทะเล ซึ่งให้ผลผลิตกว่า 1,250 กิโลกรัมต่อไร่ และในอนาคตจะมีการทดลองปลูกในพื้นที่อื่นๆ เพื่อพัฒนาให้กลับมาอุดมสมบูรณ์และสร้างประโยชน์จากพื้นที่เหล่านั้น