ธุรกิจในสิงคโปร์ ใช้เทคโนโลยีกระทบแรงงานต่างชาติ

SME in Focus
23/04/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 1415 คน
ธุรกิจในสิงคโปร์ ใช้เทคโนโลยีกระทบแรงงานต่างชาติ
banner
ช่วงงบประมาณประจําเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รัฐบาล สิงคโปร์ ได้ประกาศว่า อัตราการจ้างแรงงานต่างชาติ (Dependency Ratio Ceiling-DRC) ในส่วนอุตสาหกรรมบริการจะลดลงจาก 40% เป็น 38% ในช่วงเดือนมกราคม 2563 และจะลดต่ำลงไปถึง 35% ในเดือนมกราคม 2564 นอกจากนี้ โควตาแรงงานผู้ถือบัตร S Pass จะลดลงจาก 15% เป็น 13% ในเดือนมกราคม 2563 และกลายเป็น 10% ในเดือนมกราคม 2564

ในขณะที่เงินเดือนขึ้นต่ำสําหรับแรงงานสิงคโปร์ซึ่งคิดรวมกับโควตาการจ้างงานชาวต่างชาติ ในส่วนของแรงงานที่มีใบอนุญาตแรงงานและ S Pass นั้น สูงขึ้นจากเดิม 1,200 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน เป็น 1,300 ดอลลาร์สิงคโปร์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

ขณะที่ในประเทศสิงคโปร์บริษัทที่ทําธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% ซึ่งต้นทุนการบริการที่สูงขึ้นอันมีสาเหตุจากข้อกฎหมายด้านการจ้างแรงงานต่างชาติของสิงคโปร์ที่เข้มงวดขึ้น จะส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสิงคโปร์

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme


DBS Group research วิเคราะห์ว่า บริษัทที่ทํากิจการด้านการผลิตอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% หมายความว่า การลดโควตาด้านแรงงานต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อบรรดาร้านอาหารเพราะค่าจ้างที่จ่ายให้พนักงานนั้นคิดจาก 1 ใน 3 ของราคาต้นทุนสินค้า ที่สำคัญบริษัทหลายแห่งให้ข้อมูลตรงกันว่ารายได้ก็ลดลงด้วย ดังนั้นเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะต้องจ้างแรงงานที่เป็นคนในท้องถิ่นมาแทนซึ่งต้นทุนค่าแรงงานจะสูงขึ้น หรือแทนที่แรงงานมนุษย์ด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือเลือกใช้มันทั้ง 2 วิธีไปเลย

อย่างไรก็ดี บริษัทต่าง ๆ ในสิงคโปร์ยังพยายามยื้อเวลาการปรับสัดส่วนให้ลดน้อยลง และหันมาใช้เทคโนโลยีที่ทดแทนคนเพื่อแก้ปัญหานี้ พยายามหาหนทางเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิตด้วยกําลังการผลิตที่สูงขึ้นหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น กรณีการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ มาทำงานในร้านอาหารเช่นการเสริฟอาหารหรือแม้แต่การล้างจาน มีเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติเพื่อลดค่าจ้างพนักงาน หรือใช้ครัวส่วนกลางเพื่อลดพื้นที่ทําครัวและเก็บที่ไว้สําหรับวางโต๊ะเพิ่มขึ้น

น่าสนใจว่า สิงคโปร์กับมาตรการ DRC จะก่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีแทนคนในรูปแบบใดอีกบ้าง แต่ที่แน่ๆ เห็นได้ชัดว่าธุรกิจในสิงคโปร์แก้ปัญหาเหล่านี้อย่างชาญฉลาด

อ้างอิง : The Business Time
Bangkok Bank SME ราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333ช่วงงบประมาณประจําเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รัฐบาล สิงคโปร์ ได้ประกาศว่า อัตราการจ้างแรงงานต่างชาติ (Dependency Ratio Ceiling-DRC) ในส่วนอุตสาหกรรมบริการจะลดลงจาก 40% เป็น 38% ในช่วงเดือนมกราคม 2563 และจะลดต่ำลงไปถึง 35% ในเดือนมกราคม 2564 นอกจากนี้ โควตาแรงงานผู้ถือบัตร S Pass จะลดลงจาก 15% เป็น 13% ในเดือนมกราคม 2563 และกลายเป็น 10% ในเดือนมกราคม 2564

ในขณะที่เงินเดือนขึ้นต่ำสําหรับแรงงานสิงคโปร์ซึ่งคิดรวมกับโควตาการจ้างงานชาวต่างชาติ ในส่วนของแรงงานที่มีใบอนุญาตแรงงานและ S Pass นั้น สูงขึ้นจากเดิม 1,200 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน เป็น 1,300 ดอลลาร์สิงคโปร์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป

ขณะที่ในประเทศสิงคโปร์บริษัทที่ทําธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคและบริโภคส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% ซึ่งต้นทุนการบริการที่สูงขึ้นอันมีสาเหตุจากข้อกฎหมายด้านการจ้างแรงงานต่างชาติของสิงคโปร์ที่เข้มงวดขึ้น จะส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสิงคโปร์

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme


DBS Group research วิเคราะห์ว่า บริษัทที่ทํากิจการด้านการผลิตอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่มีอัตราการจ้างงานแรงงานต่างชาติสูงถึง 40% หมายความว่า การลดโควตาด้านแรงงานต่างชาติจะส่งผลกระทบต่อบรรดาร้านอาหารเพราะค่าจ้างที่จ่ายให้พนักงานนั้นคิดจาก 1 ใน 3 ของราคาต้นทุนสินค้า ที่สำคัญบริษัทหลายแห่งให้ข้อมูลตรงกันว่ารายได้ก็ลดลงด้วย ดังนั้นเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะต้องจ้างแรงงานที่เป็นคนในท้องถิ่นมาแทนซึ่งต้นทุนค่าแรงงานจะสูงขึ้น หรือแทนที่แรงงานมนุษย์ด้วยการใช้เทคโนโลยี หรือเลือกใช้มันทั้ง 2 วิธีไปเลย

อย่างไรก็ดี บริษัทต่าง ๆ ในสิงคโปร์ยังพยายามยื้อเวลาการปรับสัดส่วนให้ลดน้อยลง และหันมาใช้เทคโนโลยีที่ทดแทนคนเพื่อแก้ปัญหานี้ พยายามหาหนทางเพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิตด้วยกําลังการผลิตที่สูงขึ้นหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เช่น กรณีการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ มาทำงานในร้านอาหารเช่นการเสริฟอาหารหรือแม้แต่การล้างจาน มีเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติเพื่อลดค่าจ้างพนักงาน หรือใช้ครัวส่วนกลางเพื่อลดพื้นที่ทําครัวและเก็บที่ไว้สําหรับวางโต๊ะเพิ่มขึ้น

น่าสนใจว่า สิงคโปร์กับมาตรการ DRC จะก่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีแทนคนในรูปแบบใดอีกบ้าง แต่ที่แน่ๆ เห็นได้ชัดว่าธุรกิจในสิงคโปร์แก้ปัญหาเหล่านี้อย่างชาญฉลาด

อ้างอิง : The Business Time
Bangkok Bank SME ราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ยนต์ผลดี จากโรงงานผลิตเครื่องสีข้าว สู่ ‘โรงเรียนโรงสี’ และเป้าหมายการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวให้เข้มแข็ง

ยนต์ผลดี จากโรงงานผลิตเครื่องสีข้าว สู่ ‘โรงเรียนโรงสี’ และเป้าหมายการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวให้เข้มแข็ง

โรงเรียน ‘โรงสีข้าว’ แห่งแรกของไทย โรงเรียน ‘โรงสีข้าว’ หรือ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าว จัดตั้งโดย บริษัท ยนต์ผลดี จำกัด…
pin
259 | 25/03/2024
3 ผู้บริหารหญิงยุคใหม่ กับแนวคิดใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ

3 ผู้บริหารหญิงยุคใหม่ กับแนวคิดใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจรับเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ

ไขเคล็ดลับและแนวคิดที่ผลักดันให้ผู้นำหญิงในโลกธุรกิจขึ้นมายืนแถวหน้า นักธุรกิจหญิงแกร่งที่ทรงพลังต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ จนทำให้พวกเธอสามารถขึ้นมายืนแถวหน้าอย่างภาคภูมิ…
pin
427 | 22/03/2024
พลังหญิง เปลี่ยนโลก 3 บทบาทของผู้บริหารหญิงในการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวที่สร้างแรงบันดาลใจด้านสิ่งแวดล้อม

พลังหญิง เปลี่ยนโลก 3 บทบาทของผู้บริหารหญิงในการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียวที่สร้างแรงบันดาลใจด้านสิ่งแวดล้อม

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อธุรกิจ เมื่อหลายประเทศทั่วโลกเริ่มออกกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น…
pin
335 | 20/03/2024
ธุรกิจในสิงคโปร์ ใช้เทคโนโลยีกระทบแรงงานต่างชาติ