สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงาน การส่งออกอาหาร ของไทยตั้งแต่ปี 2558 - 2561 เป็นต้นมา มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี เฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 3 โดยการส่งออกสินค้าอาหารของไทยปี 2561 มีมูลค่าการส่งออก 1,148,278 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.43 หรือมีมูลค่า 35,822 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.05 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 (มกราคม-มีนาคม) การส่งออกอาหารมีมูลค่าการส่งออก 275,119 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.47 หรือมีมูลค่า 8,708.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.92 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยแบ่งเป็นสินค้ากลุ่มเกษตรอาหาร คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับการส่งออกอาหารทั้งหมด มีมูลค่าการส่งออก 137,818 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 และสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49.9 เมื่อเทียบกับการส่งออกอาหารทั้งหมด มีมูลค่าการส่งออก 137,301 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 0.04 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
สถานการณ์ตลาดอาหารในประเทศไทย
ปี 2561 ปริมาณการจำหน่ายอาหารในประเทศมีปริมาณ 21.5 ล้านตัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 4.37 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มจะขยายตัวถึงร้อยละ 3-5 ในปี 2562 อันเนื่องมาจากการจําหน่ายในกลุ่มน้ำตาล น้ำมันพืช ปศุสัตว์ นม และบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงกลุ่มอาหารสุขภาพ และกลุ่มอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ (Functional Food) ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่กําลังซื้อในประเทศแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย
โอกาสและอุปสรรคของอุตสาหกรรมอาหาร
5 ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญที่และโอกาสของภาคอุตสาหกรรมอาหาร
1.โอกาสของไทยในการเป็นประธาน ASEAN ทำให้สามารถสร้างความเชื่อมั่น ผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้า และลดการกีดกันทางการค้า
2.การเมืองไทยเกิดความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและการลงทุน เกิดการเจรจาความตกลงด้านการค้าระหว่างประเทศ
3.EU ปลดล็อกใบเหลืองการประมงไทย ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีกับสินค้าประมงไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าประมงไทยแก่ประเทศคู่ค้ามากขึ้น
4.โอกาสส่งออกสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นทั้งในรูปแบบ B2C และ B2B
5.ความผันผวนของราคาน้ำมันปรับลดลงต่ำสุด จากปัญหา oversupply น้ำมันดิบในตลาดโลก มีผลเชิงบวกต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง
5 ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบและเป็นอุปสรรคทางการค้าของภาคอุตสาหกรรม
1.ความผันผวนทางการเมืองระหว่างประเทศ และความยืดเยื้อของสงครามการค้า ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าลดลง
2.เงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคา และต้นทุนการบริหารจัดการของผู้ประกอบการ
3.สหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP สินค้าไทย 11 รายการ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่สินค้าไทยในกลุ่มดังกล่าวมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50% ในสหรัฐ โดย 6 ใน 11 รายการเป็นสินค้าอาหาร ได้แก่ ทุเรียนสด, มะละกอตากแห้ง, มะขามตากแห้ง, ข้าวโพดปรุงแต่ง, ผลไม้/ถั่วแช่อิ่ม และมะละกอแปรรูป
4.ไทยอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในยุโรป เนื่องจากความตกลง EU-Vietnam FTA จะมีผลบังคับใช้ปี 2562
5.กฎหมายและกฎระเบียบภายในประเทศ ที่ยังเป็นภาระต้นทุนและเป็นอุปสรรคทางการค้า
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333