4 APP ตอบโจทย์ Personalized Health รับเทรนด์ออกกำลังกายที่เน้นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น
เทรนด์ธุรกิจด้านเทคโนโลยีสุขภาพ กำลังมาแรงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งการหลอมรวม Artificial Intelligence (AI) และ Internet of Things (IoT) เข้าไว้ด้วยกัน ก่อเกิดเป็นนวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพใหม่ ๆ ออกมามากมาย โดยเฉพาะแอปพลิเคชันในหมวดหมู่ Health & Wellness ที่ยังคงมีแนวโน้มเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ซึ่งดูได้จากกราฟแสดงอัตราการเติบโตของตลาดแอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพทั่วโลก โดยเว็บไซต์ gminsights.com ผู้ให้บริการข้อมูลเชิงลึก และการวิจัยตลาด

วันนี้ Bangkok Bank SME จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 4 แอปพลิเคชันยอดนิยม ตอบโจทย์ Personalized Health ที่คนรักสุขภาพควรมีไว้ติดสมาร์ทโฟน

1. Google Fit: Activity Tracking
แอปพลิเคชันสายสุขภาพจาก Google LLC ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 100 ล้านครั้ง ผ่านการร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) และ สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (AHA) เพื่อกำหนดเป้าหมายการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้งานมีสุขภาพดีขึ้น
โดยเฉพาะ กิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบการทำงานของหัวใจ และจิตใจด้วย เช่น การเดินเร็ววันละ 30 นาที (5 วันต่อสัปดาห์) ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่พอเหมาะกับคำแนะนำจาก WHO และ AHA เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และส่งเสริมสุขภาพจิตได้อีกด้วย

Recommended features :
• ติดตามการออกกำลังกายของคุณผ่านสมาร์ทโฟน หรือสมาร์ทวอทช์ แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน
• บันทึกผลการออกกำลังกายในแต่ละวันตามเป้าหมายที่คุณเลือกกำหนดเองได้
• เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อแสดงผลได้ อาทิ Wear OS by Google, Nike+, Runkeeper, MyFitnessPal, Basis, Sleep as Android, Withings, Xiaomi Mi ฯลฯ
• ตรวจวัดอัตราการหายใจ และการเต้นของหัวใจผ่านกล้องบนมือถือ
สรุปแล้ว แอปพลิเคชัน Google Fit มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ ทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจ แม้ว่าข้อมูลที่ได้อาจจะไม่แม่นยำ 100% เหมือนเครื่องมือแพทย์ หรือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างน้อย หากผลที่ออกมามีความผิดปกติที่ทำให้เราทราบได้ในเบื้องต้น อาจจะช่วยให้คุณได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
Download links:

2. FITAPP: Easy Run Tracker App
แอปพลิเคชันยอดนิยมของสายวิ่ง จาก FITAPP GmbH ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ กับคอนเซปต์ที่ว่า “เริ่มวันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้! ไดอารี่สุขภาพ และการออกกำลังกายส่วนตัวของคุณ” ที่จะช่วยบันทึกทุกย่างก้าว ระยะทาง ระยะเวลา ความเร็ว และปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไป ผ่านการใช้ GPS tracking
นอกจาก บันทึกการวิ่งแล้ว ยังสามารถบันทึกการเดิน การจ๊อกกิ้ง การปั่นจักรยาน การเล่นอินไลน์สเก็ต การเดินแบบนอร์ดิก การเล่นสกี การปีนเขา การเล่นสเก็ตบอร์ด ช่วยในการติดตามระยะทาง เวลาเดิน ความเร็วในการวิ่งและแคลอรีที่เผาผลาญ
สิ่งที่เป็น Highlight ของแอป คือคุณสามารถโพสต์ความคืบหน้าในการออกกำลังกาย อวดบนโซเชียลมีเดียได้เลยทันที

Recommended features :
• การเปรียบเทียบผลการออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ
• การนับ และคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในระหว่างการออกกำลังกาย
• ไดอารี่ และรายงานสถิติการออกกำลังกาย
• แชร์ผลการออกกำลังกายลงบนโซเชียลมีเดียได้โดยตรง
Download links:

3. Intermittent Fasting GoFasting
แอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยดูแลเรื่องการทานอาหารของคุณ ซึ่งพัฒนาโดย Gulooloo Tech มียอดดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้ง
สำหรับ Intermittent Fasting (IF) ก็คือการอดอาหารเป็นช่วง ๆ เพื่อการลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ใช้งานได้ตั้งแต่ระดับ Beginner ไปจนถึง Advanced การทำ Intermittent Fasting (IF) เป็นวิธีการลดน้ำหนักอีกวิธีหนึ่ง โดยการควบคุมแคลอรี และจำกัดเวลาในการทานอาหาร โดยมีหลากหลายวิธีในการปฏิบัติ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมก็คือจำกัดเวลาทานอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง
ซึ่งจากข้อมูลของโรงพยาบาลสมิติเวช ระบุว่า การลดน้ำหนักให้ได้ผลด้วย Intermittent Fasting (IF) อาจจะมีปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน หากใครที่มีปัญหาโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อความปลอดภัย
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการตรวจระดับวิตามินแร่ธาตุในเลือด หรือระดับฮอร์โมนในร่างกาย จะช่วยให้การทำ IF ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ...ใครที่กำลังทำ IF อยู่ ไม่ควรพลาดแอปฯ นี้

Recommended features :
• ระบบติดตามการทำ IF ส่วนบุคคล
• ระบบติดตามผลการลดน้ำหนัก
• แผนการทำ IF ยอดนิยม ที่มีให้เลือกกว่า 10 รูปแบบ อาทิ 168, 204, 186, 1410
• บทความข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ และวิธีการทำ IF ที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
• สูตรอาหารสำหรับการทำ IF
Download links:
Android – https://play.google.com/store/apps/details?id=gofasting.fastingtracker.fasting.intermittentfasting

4. Sleep Cycle: Sleep Tracker
พูดถึงแอปพลิเคชันสำหรับการออกกำลังกาย และการทานอาหารไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี คือ การนอนหลับ
Sleep Cycle: Sleep Tracker แอปพลิเคชันเพื่อการนอนหลับที่ดี จาก Sleep Cycle AB ซึ่งมียอดดาวน์โหลดกว่า 10 ล้านครั้ง โดยใช้ระบบ AI ที่ผ่านการจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา มาเป็นตัวช่วยติดตามพฤติกรรม และประมวลผลการนอนหลับของผู้ใช้งาน ตั้งแต่เข้านอนไปจนถึงตอนตื่นนอน

Recommended features:
• ระบบติดตามพฤติกรรมการนอนหลับ รวมถึงผลวิเคราะห์การนอนหลับ
• บันทึกพฤติกรรมขณะนอนหลับ ที่สามารถกลับมาตรวจสอบ หรือฟังซ้ำได้ ไม่ว่าจะเป็น การละเมอ การกรน การไอ-จาม การขยับตัว ฯลฯ
• คลังเสียงเพื่อช่วยให้หลับง่ายขึ้น ซึ่งมีทั้งเสียงธรรมชาติ อย่าง เสียงฝนตก เสียงคลื่นทะเล เสียงบรรยากาศในป่า ฯลฯ รวมถึงเสียงเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่จะช่วยสร้างความผ่อนคลาย
• ระบบ Sleep Goal ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมาย เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับให้ดีขึ้น
Download links:
นอกจากแอปพลิเคชันทั้ง 4 ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีแอปพลิเคชันตัวช่วยสุขภาพที่น่าสนใจอีกมาก ที่เกิดขึ้นจากการเติบโตของเทคโนโลยี และเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจการรับประทานอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ และมองหาอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจหลายหลายหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าคนที่สนใจเทรนด์สุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน การรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย ยังคงเป็นเทรนด์ที่มาแรง ในปี 2023 ซึ่งเป็นโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SME ในการนำไปปรับใช้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ และสามารถนำเรื่องของเทรนด์ Health & Wellness ต่อยอดเป็นไอเดียสินค้าใหม่ ๆ เช่น หากคุณขายเครื่องดื่ม อาจจะเพิ่มเมนูเพื่อสุขภาพหลังออกกำลังกาย ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสายเฮลท์ตี้
หรือ ธุรกิจร้านอาหาร อาจเพิ่มทางเลือกใหม่โดยสร้างสรรค์เมนูเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนั้น จากการใช้เทคโนโลยีที่สามารถเก็บข้อมูลจาก APP ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะต่อยอดไปสู่การพัฒนาแอปพลิเคชันที่เชื่อมเข้ากับการให้บริการด้านการแพทย์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วยและแพทย์ ได้ปรึกษาหรือทำการรักษาเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงทีในอนาคต
หากถูกใจ อย่าลืมแชร์บทความนี้ ในโอกาสหน้า เราจะนำแอปพลิเคชันใดมานำเสนออีก โปรดกดติดตาม เพื่อไม่พลาดสาระดี ๆ จาก Bangkok Bank SME
อ้างอิง:
https://medium.com/geekculture/10-top-healthcare-application-development-trends-you-need-to-know-in-2023-f83432e39427
https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2-if