4 ข้อที่องค์กรต้องตระหนัก เมื่อจำเป็นต้อง Downsize

SME Update
28/05/2022
รับชมแล้วทั้งหมด 7475 คน
4 ข้อที่องค์กรต้องตระหนัก เมื่อจำเป็นต้อง Downsize
banner
ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับวิกฤตปัญหาเศรษฐกิจถดถอยจากการระบาดของเชื้อโควิด 19  ทำให้หลายๆ บริษัทเริ่มหาทางลดต้นทุนเพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ หนึ่งในทางเลือกที่ดูใจร้อนแต่มีความจำเป็นนั้นคือการ Downsize หรือการลดขนาดองค์กรให้เล็กลง แน่นอนว่าคงไม่มีบริษัทไหนอยากใช้นโยบายนี้

เพราะหมายถึงพนักงานจำนวนหนึ่งต้องถูกปลดออก สิ่งนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลเสียแก่บริษัทมากกว่าผลดี โดยสิ่งที่ต้องตระหนักในการ Downsize หรือการลดขนาดองค์กรให้เล็กลง ส่งผล 4 ด้านหลักๆ ได้แก่..



1. ผลกระทบด้านจิตใจต่อพนักงานที่ยังทำงานอยู่
ทำให้พนักงานเสียขวัญกำลังใจ เกิดความไม่มั่นใจต่อความมั่นคงของบริษัท อาจทำให้มีอัตราการลาออกของพนักงานตามมาสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้บริษัทอาจมีพนักงานไม่เพียงพอต่อการดำเนินงานได้ อีกทั้งทำให้ความผูกพัน และความภักดีที่มีต่อองค์กรลดน้อยลงอีกด้วย

2. ผลกระทบด้านภาพลักษณ์ของบริษัท
การลดขนาดองค์กรเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานะการเงินของบริษัทเริ่มสั่นคลอน ส่งผลเสียต่อ    ภาพลักษณ์ของบริษัท ซึ่งอาจต้องใช้เวลามากในการกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา

3. ผลกระทบด้านการจ้างงานเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
การลดจำนวนพนักงานมากจนเกินไป อาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการจ้างงานและฝึกอบรมพนักงานมากกว่าเดิม

4. ผลกระทบด้านความพร้อมของบริษัทเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
หากบริษัทของเราชะลอตัวมากเกินไปในช่วงเศรษฐกิจแย่ แต่เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น เราอาจเสียโอกาสในการแข่งขันในตลาด เนื่องจากขาดกำลังคน ขาดกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งหากคู่แข่งมีความพร้อมกว่า อาจสูญเสียรายได้ไปอย่างน่าเสียดาย



การลดต้นทุนโดยการ ‘ลด’ พนักงาน ช่วยองค์กรอยู่รอดได้จริงหรือ?

จากการสำรวจของสมาคมบริหารทรัพยากรมนุษย์ สหรัฐอเมริกา (SHRM) พบว่า มีเพียง 32% ของกลุ่มตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การปลดพนักงานออกสามารถลดค่าใช้จ่ายขององค์กรได้จริง แต่วิธีการนี้อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะนอกจากองค์กรจะต้องเสียค่าชดเชยการออกจากงาน หรือการจัดการด้านกฎหมายแล้ว องค์กรยังต้องเสี่ยงกับการสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถ

ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับสร้างผลกำไรและการเจริญเติบโตของบริษัทในระยะยาว เมื่อวันใดที่เศรษฐกิจฟื้นตัว องค์กรต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกจำนวนมากไปกับการสรรหาและฝึกอบรมพนักงานใหม่ เพียงเพื่อให้ได้ผลของงานที่มี ประสิทธิภาพเท่าเดิมเท่านั้น

ข้อควรปฏิบัติเมื่อต้องลดขนาดองค์กร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ..

1. ควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อบริหารงานอย่างโปร่งใส และอยู่ในกรอบกฎหมาย

2. ควรมีการวางแผน ปรับโครงสร้างองค์กรเท่าไรจึงจะเหมาะสม ควรมีขั้นตอนและกระบวนการอย่างไร

3. พิจารณาค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น เงินชดเชยการเลิกจ้าง ชื่อเสียงของบริษัท ความรู้สึกของพนักงานที่ไม่ถูกเลิกจ้าง ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การจ้างงานคืน ผลผลิตที่ลดลงเนื่องจากสูญเสียแรงงานที่มีฝีมือ เป็นต้น

4. แผนความพร้อมของบริษัทเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

5. ควรมีแนวทางการช่วยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในการหางานใหม่



ทางเลือกอื่นที่สามารถทำได้ ก่อนตัดสินใจ ลดขนาดองค์กร

1. ลดการจ้างงานเพิ่ม แต่เพิ่มศักยภาพด้วยการ Upskill พนักงานที่มีอยู่แทนตำแหน่งงานที่ว่าง 

2. ชะลอการขึ้นเงินเดือนหรือปรับลดอัตราเงินเดือนของพนักงานลง

3. ลดเวลาการทำงานลง หรือจำกัดชั่วโมงการทำงานล่วงเวลา เพื่อลดต้นทุนให้เหมาะสมกับปริมาณการผลิต

4. จัดโปรแกรมเกษียณอายุโดยสมัครใจ เป็นการคัดกรองพนักงานที่เต็มใจที่จะไปจากองค์กรและช่วยลดแรงกระเพื่อมภายในองค์กรได้อีกทางหนึ่งด้วย

5. หยุดกิจการชั่วคราว เพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจ


‘Intangible Resources’ คือ กุญแจสำคัญให้ธุรกิจเดินต่อไปได้

ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อได้ ไม่ใช้ ‘เงินทุน’ ที่มากพอที่จะช่วยให้บริษัทหลุดพ้นจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน แต่ในความเป็นจริงแล้วเงินทุนไม่ได้เป็นคำตอบในการป้องกันการล้มละลายของบริษัทที่ลดขนาดองค์กรเสมอไป แต่ ‘Intangible Resources’ หรือสินทรัพย์ไม่มีตัวตน แต่สามารถตีราคาให้มีมูลค่าเป็นตัวเงินได้ ต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้บริษัทเดินต่อไปข้างหน้าได้ คือการให้ความสำคัญกับ ‘บุคลากร’ ที่ยังอยู่

เพราะคนเหล่านี้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ซึ่งจะมีบทบาทร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรต่อไป เช่น นำความรู้ความสามารถของพนักงาน มาช่วยกันปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น หรือร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขณะเดียวกันบริษัทหาคู่ค้าธุรกิจ มาช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดไป ซึ่งจะทำให้พนักงาน ลดแรงกดดันในการทำงานหลังจากบริษัทลดขนาดธุรกิจลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว



จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า การ Downsize หรือการลดขนาดองค์กรให้เล็กลงนั้นไม่ใช่เรื่องของการลดต้นทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ เรื่องการรักษาภาพลักษณ์บริษัท การรักษาความเหมาะสมให้สอดรับกับกำลังการผลิตของบริษัท และที่สำคัญคือความพร้อมของบริษัทเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลดขนาดองค์กร ผู้ประกอบธุรกิจควรพิจารณาอย่างรอบคอบทุกมิติ ทั้งผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นในระยะสั้นเทียบกับผลกระทบร้ายแรงในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น คุ้มค่าต่อการ Downsizing หรือไม่ 
 
สิ่งสำคัญผู้ประกอบธุรกิจควรมุ่งเน้นไปที่ Intangible Resources ซึ่งก็คือบุคลากรที่ยังอยู่ มากกว่าจะมองเรื่องการเงินเพียงอย่างเดียว เพราะหากไม่สามารถรักษาพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถขององค์กรไว้ได้ เท่ากับว่าบริษัทสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่าไป ซึ่งอาจนำไปสู่จุดสิ้นสุดของธุรกิจก็เป็นได้

ที่มา :

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ESG มีอะไรบ้าง? รู้จักแนวทางปฏิบัติเพื่ออนาคตของ SME ยุคใหม่

ESG มีอะไรบ้าง? รู้จักแนวทางปฏิบัติเพื่ออนาคตของ SME ยุคใหม่

Topic Summary:บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกหลักการ ESG ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมแนวทางการนำไปปรับใช้จริงที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้Content…
pin
1 | 12/03/2025
สรุป 5 จุดเด่นที่ควรรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ ‘Deep Research’ ของ Perplexity

สรุป 5 จุดเด่นที่ควรรู้เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ ‘Deep Research’ ของ Perplexity

รู้จักกับ ‘Deep Research’ ฟีเจอร์ใหม่ของ Perplexity ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมืออาชีพ โดยฟีเจอร์ Deep Research…
pin
4 | 06/03/2025
30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

30+ เครื่องมือ AI สำหรับธุรกิจในปี 2025

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Generative AI ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในวันนี้.โดยผลสำรวจของ Gartner พบว่า 42% ในปี 2025 มากกว่า 60%…
pin
7 | 27/02/2025
4 ข้อที่องค์กรต้องตระหนัก เมื่อจำเป็นต้อง Downsize