AEC Connect | ธุรกิจ ‘ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์’ เติบโตเร็วในกัมพูชา
ด้วยส่วนธุรกิจรถจักรยานยนต์ของภาคยานยนต์เติบโตอย่างรวดเร็วในกัมพูชาในไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้ตัดสินใจมุ่งเน้นที่จะเพิ่มการเกิดความเชื่อมโยงไปข้างหลังสำหรับการประกอบรถจักรยานยนต์ในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มการพัฒนาให้เข้ากับท้องถิ่นและการสร้างงานต่าง ๆ
จากข้อมูลของ statista.com ระบุว่ารายได้ในตลาดรถจักรยานยนต์คาดว่าจะมีมูลค่าราว 150.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 และคาดว่าจะขยายตัวที่อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 4.8 % ใน 5 ปี (2566-2570) เพื่อแตะปริมาณการซื้อขายตามที่คาดการณ์ไว้ราว 182 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570
รถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของตลาดยานยนต์ในกัมพูชาคาดว่าจะมีปริมาณการซื้อขายแตะ 100.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ โดยเมื่อมองไปที่ประเทศที่พัฒนามากกว่ากัมพูชาภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคเบนความสนใจไปจากรถจักรยานยนต์ แต่รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นพาหนะที่น่าดึงดูดใจสำหรับระดับรายได้ปัจจุบันในกัมพูชา โดยรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่สามารถใช้งานได้หลากหลายในกัมพูชา นับตั้งแต่ใช้เดินทางไปตลาด ที่ทำงานและสถานศึกษา ไปจนถึงใช้ลากรถสามล้อและรถเข็นขายของ
นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์จำนวนมากที่ขายในกัมพูชาส่วนใหญ่จะประกอบภายในประเทศโดยบริษัทต่าง ๆ ซึ่งรถจักรยานยนต์กว่า 300,000 คัน ถูกประกอบภายในประเทศในปี 2562 โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างฮอนด้าและซูซูกิ
กิจกรรมการประกอบรถจักรยานยนต์นั้นกระตุ้นอุปสงค์ของท้องถิ่น โดยในปี 2562 มีการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ใหม่ถึง 540,000 คัน และคาดว่าจะยังคงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์ยอดขายใหม่อยู่ที่ราว 1.1 ล้าน ภายในปี 2573
การประกอบรถจักรยานยนต์ในท้องถิ่นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของความต้องการรถจักรยานยนต์ภายในประเทศของกัมพูชา อย่างไรก็ดี บริษัทที่ประกอบรถจักรยานยนต์เหล่านี้ใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ส่วนใหญ่จากประเทศอื่น ๆ โดยชิ้นส่วนภายในประเทศคิดเป็นเพียง 1 ใน 4 ส่วนของมูลค่าทั้งหมดของการประกอบรถจักรยานยนต์ในกัมพูชา เมื่อเทียบกับสัดส่วนกว่า 80% สำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
ในปัจจุบัน ระบบนิเวศผู้จัดหาส่วนประกอบในท้องถิ่นสำหรับรถจักรยานยนต์ในกัมพูชาอยู่ในขั้นตั้งไข่และทำงานสอดประสานกับผู้ประกอบรถจักรยานยนต์ได้ไม่ดีนัก อีกทั้งทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีข้อกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของส่วนประกอบที่ผลิตโดยบริษัทภายในประเทศด้วย
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศผู้จัดหาส่วนประกอบในท้องถิ่นสำหรับรถจักรยานยนต์ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งของวัตถุดิบภายในประเทศและผลประโยชน์ภายในประเทศ รวมถึงป้องกันการรั่วไหลทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นับเป็นการเปิดโอกาสให้กัมพูชาเพิ่มวัตถุดิบภายในประเทศและสร้างความแข็งแกร่งในห่วงโซ่คุณค่าของการประกอบรถจักรยานยนต์ด้วยการพัฒนาคุณภาพของฐานผู้จัดหาในท้องถิ่นซึ่งจะช่วยให้กัมพูชาได้คว้าโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านปัจจัยผลักดันหลัก 3 ข้อ ดังนี้
1. อุปสงค์ทั้งหมดของรถจักรยานยนต์จะเพิ่มขึ้นที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ราว 7% ไปจนถึงปี 2568
2. อัตราส่วนเปอร์เซ็นต์ของการประกอบรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งปัจจุบันกัมพูชามีสัดส่วนการขายรถจักรยานยนต์ที่ 82% และมุ่งจะเพิ่มเป็น 95% ภายในปี 2568
3. การเพิ่มส่วนแบ่งของวัตถุดิบภายในประเทศจาก 26% สู่เป้าหมายที่วางไว้ 85% ภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ภายในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว การพัฒนาด้านรายได้ การเติบโตของประชากรและอัตราของการเป็นเมืองเพิ่มมากขึ้นมีส่วนที่ทำให้เกิดความต้องการ ‘การเป็นเจ้าของยานพาหนะ’ ในระดับสูงในกัมพูชา โดยความต้องการนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ด้วยการมีประชากรวัยหนุ่มสาวและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ของ ‘อาเซียน’ มีสัดส่วนราว 25% ของอุตสาหกรรมโลก
ที่มา: Motorbike parts segment to be developed in Cambodia - Khmer Times (khmertimeskh.com)