แนะนำให้ลองใช้! เมื่อ AR กลายเป็นสุดยอดเครื่องมือนักขาย
ทุกวันนี้ทุกวงการธุรกิจต้องเกิดการปรับตัวอย่างมาก เพื่อให้พ้นจากการถูก Disrupt หรือรอดตายหลังโควิด-19 ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดได้ถูกปรับเปลี่ยนไปมากมาย แต่ที่โดดเด่นและน่าสนใจมากที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องของ AR หรือ Augmented Reality ที่ในปี 2020 นี้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นถึงหลักพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ทำให้ AR กลายเป็นแค่ส่วนเสริมของธุรกิจอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นการตลาดรูปแบบใหม่อย่างเต็มขั้นที่ทำให้ทุกองค์กรต้องเหลียวมอง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
AR เทคโนโลยีเสมือนจริงที่รายล้อมรอบตัว
แบบที่หลายคนไม่รู้
AR ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น
แต่มันเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาอย่างยาวนานนับสิบปี
และสร้างเสียงฮือฮามาแล้วในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยี AR มีความแพร่หลายในทุกๆ ส่วนของธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างลูกเล่นให้หนังสือประวัติศาสตร์ เกิดภาพจำลองโบราณเมื่อเอาสมาร์ตโฟนส่อง
การช้อปปิ้งที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องลำบากเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่
แต่สามารถเอาเสื้อ 3 มิติมาปรากฏทาบลงบนตัวได้เลยแบบไม่ต้องเสียเวลาผลัดเปลี่ยน
ยังไม่รวมเรื่องของการเล่นเกมที่จะทำให้เกิดระบบเกมที่สมจริงยิ่งขึ้น
หรือเรื่องของการเรียนการสอนที่จะสร้างความน่าสนใจให้ไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
และที่สำคัญ AR ยังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราแบบสร้างความสะดวกสบายให้เกิดขึ้นได้จริงๆ
เช่น การส่องมือถือไปที่ฉลากเครื่องปรุง เพื่อดูว่าใช้วัตถุดิบอะไรบ้างเป็นต้น
สิ่งเหล่านี้แหละที่สร้างความน่าตื่นเต้น
และส่งเสริมให้สินค้าธรรมดาทั่วไปดูน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม
จุดเด่นน่าสนใจที่ธุรกิจไทยควรนำ AR มาสร้างจุดขาย
AR ในความคิดของหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ไม่ได้สร้างกำไรให้ได้มากขนาดนั้น เป็นเรื่องเสียเวลาที่ไม่น่าลงทุน
แต่ในความจริงแล้ว AR นั้นใช้งานได้ง่ายมาก
แค่มีสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตก็สามารถใช้งาน AR ได้ทุกคน
ด้วยความง่ายตรงนี้เองที่ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถเล่นลูกเล่นนี้ของคุณได้
ด้วยความที่หลายคนคิดว่า AR ยังเป็นเรื่องใหม่ของคนไทยอยู่มาก ทำให้เกิดความว้าว
และความน่าสนใจที่มากขึ้นตามไปด้วย การที่ยังไม่มีคนลงทุนตรงนี้มากนัก
นั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะครองตลาดหรือสร้างความโดดเด่นก็มีสูงด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกวันนี้ทุกคนคุ้นเคยกับการใช้งาน
AR มากขึ้น เช่น แอปพลิเคชันไลน์
ที่เมื่อเปิดกล้องเราจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นลูกเล่นเปลี่ยนหน้าตาของเราต่างๆ ได้
หรืออย่างเกมโปเกมอนโก ที่สร้างปรากฏการณ์คนแห่เล่นล้นทะลักทั้งประเทศมาแล้ว
ด้วยความคุ้นเคยตรงนี้ทำให้การตลาดผ่าน AR จะได้รับความสนใจที่มากขึ้น
เพราะทุกคนรู้ว่าเขาจะได้พบเจอกับอะไร และตรงกับที่เขาคาดหวังไว้หรือไม่
ตรงจุดนี้เองที่สามารถส่งแบรนด์ของคุณเข้าสู่การรับรู้ของผู้บริโภคได้แบบเนียนๆ
และเกิดความคุ้นเคย เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าแบบที่คุณมีสักครั้ง
เขาจะนึกถึงคุณเป็นคนแรกแน่นอน
AR ปังมานานแล้วในต่างประเทศ แต่ทำไมไทยจะไม่ประสบความสำเร็จ
การทำธุรกิจต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
และมองรอบด้านให้แตกฉาน ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ คือการศึกษาตัวอย่างจากหลากหลายแหล่ง
เพื่อรู้ว่าอนาคตวงการธุรกิจจะดำเนินไปอย่างไร
และนี่คือประตูบานใหม่ที่คุณต้องเปิดใจรับมันเข้ามา กับ AR ที่มีงานวิจัยออกมาบอกแล้วว่า ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา
ยุโรป หรือแม้กระทั่งจีนเอง มีผู้บริโภคมากกว่า 100 ล้านคน
ที่ต้องการใช้บริการสินค้าผ่าน AR
ในปี 2020
มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะมีร้านค้ากว่า 46% ปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอโดยใช้
AR เข้ามาช่วยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น
โดยเริ่มจากแบรนด์ดังต่างๆ ระดับโลกที่ค่อยๆ ขยับใช้ AR ให้ได้เห็นกันบ้างแล้ว
เช่น IKEA, Adidas หรือแม้แต่ Burger King
โดย AR นี้ไม่ได้เพียงแต่สร้างสีสัน ความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นในใจผู้บริโภค
แต่มันยังมีประโยชน์อีกมากมาย ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการได้ง่ายขึ้น
สะดวกสบายมากขึ้น
จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เครื่องมือทางธุรกิจที่เพิ่มยอดขายให้ได้อย่างแน่นอน
และน่าลงทุนอย่างยิ่ง
ตัวอย่างกรณีศึกษา AR จากธุรกิจในประเทศไทย
1. Siam Tee Ruk : แบรนด์สินค้าที่ระลึกที่สร้างมิติใหม่ผ่านการนำเสนอ โดยใช้
AR เข้ามาช่วยสร้างภาพจำลองเสมือนจริงในรูปแบบ 3
มิติผ่านเสื้อผ้า หนังสือ กระเป๋า
ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มในรูปแบบที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
โดยสินค้าเหล่านั้นสามารถสแกน AR เพื่อเล่นรูปภาพแบบ 3
มิติได้ อีกทั้งยังช่วยบอกเล่าเรื่องราวในชุมชนให้มีความน่าสนใจ
และที่สำคัญสามารถนำ AR มาเชื่อมต่อกับ Google Map เพื่อนำทางมายังสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นได้อีกด้วย
2. ไปรษณีย์ไทย :
หลายคนอาจไม่รู้ว่าไปรษณีย์ไทยเองก็มีการใช้
AR เข้ามาให้เราได้ลองใช้งานกันสักพักแล้ว
เพียงใช้สมาร์ตโฟนส่องไปบริเวณรอบๆ ตัวเรา แอปฯ ก็จะแสดงที่ทำการไปรษณีย์ต่างๆ
แถวนั้นขึ้นมาทันที ทำให้เราสามารถเลือกใช้บริการได้ว่าจะไปที่ไหนที่ใกล้ที่สุด ที่สำคัญสามารถแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลต่างๆ ได้อีกด้วย
3. หนังสือเกี่ยวกับรัชกาลที่
9 : ช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมีการจัดทำหนังสือเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งภายในเล่มมีเนื้อหาที่น่าสนใจ
และภาพประกอบเป็นการ์ตูนที่วาดไว้สำหรับเด็กๆ อย่างสวยงาม
ซึ่งแอบแฝงไปด้วยเทคโนโลยีของ AR ให้เราใช้สมาร์ตโฟนพร้อมแอปของหนังสือหยิบมาส่องจะเห็นข้อความ
รวมถึงรูปภาพต่างๆ ลอยขึ้นมาแบบ 3 มิติ
สร้างความน่าสนใจและเปิดมิติใหม่ของการอ่านหนังสือเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของเทคโนโลยี AR ที่จะช่วยสร้างยอดขายให้ธุรกิจคุณได้อย่างแน่นอน สำคัญที่สุดคือคุณจะต้องวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ความสอดคล้องกับธุรกิจ และความสะดวกสบาย ใช้งานได้จริงกับตัวโปรดักต์เหล่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อจนเกินไป ซึ่งในปี 2020 มีการคาดการณ์ว่า การลงทุนในการพัฒนาระบบ AR นี้จะเพิ่มขึ้นมากถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มั่นใจได้เลยว่ามันจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าน่าลงทุนและช่วยคุณได้มากขึ้นแน่นอน
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<
เจาะเทรนด์เทคโนโลยี VR – AR พลิกธุรกิจสู่อนาคต
‘New Normal’ ตัวเร่ง SMEs ไทยใช้หุ่นยนต์