ออสเตรเลียพัฒนา "พลังงานแห่งอนาคต" รองรับยานยนต์สมัยใหม่
แม้ว่าออสเตรเลียจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด
19 และภาวะเศรษฐกิจขาลง แต่ยอดขายรถยนต์ในออสเตรเลียยังคงยืนเหนือระดับ 1 ล้านคันต่อปี
โดยเฉพาะรถยนต์พรีเมียมที่มีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและช่วยลดภาวะมลพิษในอากาศ ยิ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังสามารถเติบโตได้ดี
ข้อมูลจาก Australian
Financial Review ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศแผน
"Future Fuels Package" หรือแพ็กเก็จส่งเสริมการลงทุนพลังงานอนาคต
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ
เพื่อก้าวสู่การเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลไปสู่รถยนต์แห่งอนาคตที่ใช้พลังงานสะอาด
สำหรับแผนนี้ใช้งบประมาณวงเงิน 74.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 1.7 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์พลังงานสะอาด (ไฟฟ้าและไฮโดรเจน) และขยายโอกาสให้ภาคธุรกิจและชุมชนในเขตภูมิภาคในการเข้าถึงรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์พลังานไบโอฟลูเอลได้ง่ายขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563
ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียได้ประกาศแผนส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตถึง
1.9 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 43.7 พันล้านบาท
เป้าหมายหลักเพื่อลดการปล่อยมลพิษในภาคเกษตร อุตสาหกรรม และการขนส่ง
ทั้งยังจะช่วยเพิ่มการจ้างงานในประเทศ
ลดต้นทุนการเข้าถึงพลังงานของภาคครัวเรือกและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการกับทุกภาคส่วนในประเทศ
สำหรับกิจกรรมสำคัญตามแผนนี้ อาทิ
1)
การสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาดให้กับ Australia
Renewable Energy Agency (ARENA) และ Clean Energy Finance
Corporation (CEFC) วงเงิน 1.62 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว
37.2 พันล้านบาท
2) กองทุนเพื่อการร่วมทุนทางเทคโนโลยี (Technology
Co-Invest Fund) วงเงิน 95.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 2.2
พันล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้กับภาคอุตสาหกรรมการเกษตร
อุตสาหกรรมผลิต และการขนส่งเพื่อการเพิ่มผลผลิตและปล่อยมลพิษต่ำ
3)
โครงการนำร่องการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ
วงเงิน 50 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 1.15 พันล้านบาท
4) การพัฒนาไฮโดรเจนสู่การส่งออก
ตามกลยุทธ์ไฮโดรเจนแห่งชาติ
ซึ่งต้องการกระตุ้นความต้องการและการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานที่ปล่อยมลพิษต่ำ
ด้วยวงเงิน 70.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.6 พันล้านบาท
5) การพัฒนาระบบไมโครกริดแห่งใหม่ในภูมิภาค เพื่อให้ครัวเรือนในชุมชนได้ใช้พลังงานที่เชื่อถือได้
และราคาถูก วงเงิน 67 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 1.5 พันล้านบาท เป็นต้น
จะเห็นว่านโยบายด้านพลังงานในอนาคตที่รัฐบาลออสเตรเลียส่งเสริม
เพื่อการเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เพียงจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการหันมาใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดเท่านั้น
แต่นโยบายดังกล่าวยังส่งผลดีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด
ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจการลงทุนพัฒนาสินค้า ถือเป็นจุดเริ่มต้นการผลิตสินค้ายานยนต์รุ่นใหม่ๆ
เช่น BMW
(i3) Jaguar's (I-Pace) รวมถึงรถยนต์อีโค้ (ECO-Car)
ซึ่งจะทำให้มีสินค้าราคาไม่สูงมาก เช่น ฮุนได ไฮบริด, ปลั๊กอิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันครองสัดส่วนตลาดร้อยละ
50 ของรถยนต์พลังงานสะอาด ปี 2563
การดำเนินนโยบายด้านพลังงานสะอาดของออสเตรเลีย นับว่ามีความสำหรับผู้ประกอบการไทยอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาไทยส่งออกรถยนต์ไปยังออสเตรเลียเป็นตลาดอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น และไทยเป็นผู้นำตลาดรถยนต์กระบะในออสเตรเลีย แต่ยอดส่งออกรถยนต์ของไทยไปยังออสเตรเลียก็เริ่มลดลงจากตลาดรถยนต์ของออสเตรเลียเข้าสู่ช่วงขาลง ดังนั้นเชื่อได้ว่าผลจากการเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาดย่อมส่งผลต่อทิศทางตลาดรถยนต์ในอนาคตด้วยเช่นกัน