เทรนด์การรักษาสุขภาพของคนรุ่นใหม่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกปี
ส่งผลให้ธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ สร้างรูปแบบสินค้าและบริการด้าน Health Tech เพิ่มมากขึ้น
ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องไม้เครื่องมือในการดำเนินการรักษาโรค
หรือช่วยด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ถึงขั้นพัฒนาไปยังการประดิษฐ์หุ่นยนต์ AI ที่จะเข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วย และวินิจฉัยโรคอย่างตรงจุดเลยทีเดียว
ในอนาคตปี 2035 มีการคาดการณ์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และ BenevolentAI ก็กำลังจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เรื่องนี้คือความจริง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
BenevolentAI Health Tech ที่น่าจับตามองในปี 2020
BenevolentAI เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ผลิตและศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องปัญญาประดิษฐ์มาอย่างยาวนาน
ตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งมุ่งเน้นการทำงานด้านสาธารณสุขและวงการแพทย์
เป็นสุดยอด AI ที่เข้ามาทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี
พัฒนายาสำหรับรักษาความผิดปกติทางประสาท ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ไม่ค่อยจะพบเห็น AI
สามารถทำได้เท่าไหร่นัก เนื่องจากส่วนมากเรามักจะคุ้นชิน AI ในฐานะหุ่นยนต์ หรือการประมวลผลที่ช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปแบบจับต้องได้
เช่น การตอบแชท การขับรถแทนคน การสื่อสาร ตอบสนอง
หรือแม้แต่การประมวลผลข้อมูลในระยะเวลาอันรวดเร็ว
แต่สำหรับวงการแพทย์แล้ว
นี่นับเป็นเรื่องใหม่ที่ใหญ่และน่าจับตามองอย่างมาก BenevolentAI เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและรูปภาพทางการแพทย์ที่ซับซ้อน
เพื่อค้นหาสัญญาณของโรคต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
ค้นหา วินิจฉัยโรคอย่างแม่นยำ
หน้าที่หลักของ BenevolentAI อย่างที่ได้บอกไปว่าเป็นการวิเคราะห์
และค้นหาอาการผิดปกติของผู้ป่วย รวมถึงคนที่มีความเสี่ยง
ทำให้รู้ได้ทันทีว่าใครมีโรคร้ายแรงอะไรที่ควรได้รับการรักษา
ซึ่งตรงนี้เองที่อาจส่งผลให้มนุษย์มีโอกาสที่จะมีชีวิตอย่างยืนยาวได้มากกว่าที่เคย
เนื่องจากการวินิจฉัยและป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงทีก่อนลุกลามใหญ่โต
เป็นก้าวสำคัญที่สตาร์ทอัพรายหนึ่งจะสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้อย่างแท้จริง
ซึ่ง BenevolentAI
จะค้นหาสัญญาณโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง อาการหัวใจวาย
โรคหลอดเลือดสมอง เมื่อพบแล้วก็จะแนะนำการรักษาด้วยแอปพลิเคชันที่มีศักยภาพ
รวมทั้งออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับเครื่องมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ BenevolentAI ยังเป็นสุดยอด AI ที่จะคอยวิจัยและพัฒนายาใหม่ๆ
ที่จะช่วยให้การรักษาโรคต่างๆ ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับการทำงานของ BenevolentAI นี้จะเป็นการค่อยๆ
เรียนรู้จากฐานข้อมูลชีวการแพทย์ที่มีขนาดใหญ่มาก
ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยสามารถค้นพบวิธีการรักษาและการใช้ยาให้เหมาะสมกับโรคได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ด้วยการประมวลผลขั้นสูงสุดแบบที่มนุษย์ไม่มีทางตามทันของปัญญาประดิษฐ์นั่นเอง
ไม่เพียงแต่วินิจฉัยโรคให้ป้อนยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเท่านั้น แต่มันยังสามารถบ่งบอกข้อสังเกตต่างๆ ช่วยให้นักวิจัยต่อยอดได้สะดวกสบาย และง่ายขึ้นกว่าการทำงานแบบเดิม
ตอบสนองต่อผู้ใช้งานรายบุคคล
สุดท้ายแล้วในฐานะ Health Tech Startup เจ้าตัว BenevolentAI ก็ต้องสามารถวิเคราะห์โรคและส่งยารักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ
เพื่อรักษาโรคร้ายให้หายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
จึงจะสมศักดิ์ศรีความเป็นสตาร์ทอัพสายสุขภาพ ซึ่ง BenevolentAI ทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้มากทีเดียว
เนื่องจาก BenevolentAI สามารถกำหนดแผนการรักษา และการจ่ายยาได้ตามผู้ป่วยแต่ละคน และเลือกตัวยาพร้อม Dose ที่เหมาะสมกับโรคได้ อีกทั้งยังเลือกยาที่จะเหมาะสมกับคนไข้รายนั้นที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของวงการแพทย์ได้อีกต่างหาก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในปี 2020 และปีต่อๆ ไป สตาร์ทอัพสายเลือดอังกฤษอย่าง BenevolentAI จึงน่าจับตามอง ไม่ใช่แค่กับวงการการแพทย์เท่านั้น แต่มันคืออนาคตของมนุษยชาติทุกคนอย่างแท้จริง