ปัจจุบันตลาดการค้าทั่วโลกเติบโตต่อเนื่อง การจัดโปรโมชันเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อบนโลกออนไลน์ก็ไม่แตกต่างจากตลาดออฟไลน์ โดยเทศกาลลดราคาที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดและถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่สุดของวงการอีคอมเมิร์ซคงหนีไม่พ้น เทศกาลลดราคา 11.11 ในวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2552 โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Alibaba ภายใต้การนำของ ‘แจ็ค หม่า’ จนกระทั่งได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน ส่งผลให้หลายแพลตฟอร์มได้ร่วมจัดกิจกรรมแคมเปญนี้ด้วย และกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลลดราคาที่สำคัญที่สุดของวงการอีคอมเมิร์ซทั่วโลก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2552 โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Alibaba ภายใต้การนำของ ‘แจ็ค หม่า’ จนกระทั่งได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน ส่งผลให้หลายแพลตฟอร์มได้ร่วมจัดกิจกรรมแคมเปญนี้ด้วย และกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลลดราคาที่สำคัญที่สุดของวงการอีคอมเมิร์ซทั่วโลก
11.11 ผู้บริโภค : ซื้อของอย่างไร ให้สุขคุ้ม
ชวนรู้จัก 5 เคล็ดลับดีๆ สำหรับผู้บริโภค ให้สามารถซื้อของได้อย่างคุ้มค่าในเทศกาลลดราคาสินค้าปีนี้ ที่แต่ละแพลตฟอร์มได้จัดขึ้น
1. เลือกดูสินค้าและสังเกตราคาก่อนเข้าร่วมโปรโมชันให้ดี
ทุกคนควรสำรวจราคาสินค้าที่ต้องการซื้อเสียก่อนว่า สินค้าในราคาปกติก่อนเข้าร่วมโปรโมชันลดราคานั้นมีราคาเท่าไร เพราะบ่อยครั้งที่บางร้านใช้โอกาสติดป้ายลดราคาเพื่อร่วมแคมเปญ แต่ถือโอกาสขึ้นราคาสินค้าให้แพงกว่าปกติ ดังนั้น ควรศึกษาความแตกต่างของราคาสินค้าก่อนและหลังร่วมโปรโมชันให้ดี รวมทั้งเปรียบเทียบราคาสินค้าชนิดเดียวกันจากหลายร้านค้าเพื่อให้ได้สินค้าในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
2. ศึกษาร้านค้าก่อนเลือกซื้อ
การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ควรทำ ไม่ใช่แค่การซื้อสินค้าในช่วงโปรโมชันเท่านั้น แต่เป็นทุกครั้งที่ซื้อสินค้าออนไลน์ วิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ในการตรวจสอบร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจดูว่าร้านค้านั้นๆ ได้รับการรับรองจากแพลตฟอร์มหรือไม่ อ่านรีวิวสินค้าจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ หรืออ่านนโยบายดูแลหลังการขาย - การเคลมสินค้าของร้าน
3. ศึกษาโปรโมชันพิเศษ - โค้ดส่วนลด
ผู้ซื้อควรติดตามข้อเสนอพิเศษต่างๆ เหล่านี้จากร้านค้าให้ดี เนื่องจากบ่อยครั้งสิทธิพิเศษต่างๆ จะมีจำนวนจำกัด หากอยากได้สินค้าในราคาที่สุดคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม ก็ควรทำการศึกษาเงื่อนไขโปรโมชัน ระยะเวลาที่เข้าร่วม และเตรียมตัวเก็บโค้ดส่วนลดในช่วงเวลาต่างๆ ที่ร้านค้าได้จัดเตรียมไว้ให้ผู้ซื้อนั่นเอง
4. เตรียมตัวให้พร้อมกับ ‘ช่วงเวลาดี’
สำหรับช่วงเวลาดีของมหกรรมลดราคาสินค้าในวันพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 11.11, 10.10, 9.9 ฯลฯ คำตอบคือ ช่วงเวลาเที่ยงคืน กับ ช่วงเวลา Flash Sale นั่นเอง
สำหรับในช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ถือเป็นเวลาดีนั้นเพราะทุกแพลตฟอร์มจะเริ่มต้นกิจกรรมกันตั้งแต่วินาทีแรกที่เข้าสู่วันจัดกิจกรรมลดราคา ซึ่งในช่วงเวลานี้จะมีสิ่งพิเศษ เช่น การแจกโค้ดส่วนลดต่างๆ ให้ได้เลือกเก็บไว้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนด เป็นต้น
ส่วนของช่วงเวลา Flash Sale จะเป็นช่วงเวลาจัดโปรโมชันที่ร้านค้า - แพลตฟอร์มกำหนดขึ้นในระยะเวลาจำกัด เช่น ลดราคาพิเศษ 1 ชั่วโมง เริ่มต้นเที่ยงวัน, ลดราคาพิเศษ 2 ชั่วโมง, ลดราคาสินค้าในช่วงเวลา 10.00 - 11.00 น. ซึ่งแต่ละร้านค้าก็อาจจะมีการจัดกิจกรรมในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป
ดังนั้น เพื่อให้สามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษที่อาจมีจำนวนจำกัดได้สำเร็จตามที่ต้องการ การศึกษาเงื่อนไขการลดราคาของแต่ละร้านค้า และเตรียมตัวให้พร้อมกับ ‘ช่วงเวลาดี’ เพื่อไม่ให้พลาดการซื้อสินค้าที่ต้องการ
11.11 ภาคธุรกิจ
: โอกาสสร้างการรับรู้และสร้างรายได้
3 เคล็ดลับสำหรับเป็นข้อแนะนำให้ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าวให้ได้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1.
ศึกษารายละเอียดการเข้าร่วมโปรโมชันสำหรับร้านค้าให้ดี
ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญลดราคาที่แต่ละแพลตฟอร์มจัดนั้น
ให้เริ่มจากการศึกษารายละเอียดการเข้าร่วมโปรโมชันที่แต่ละแพลตฟอร์มกำหนดเสียก่อน
เพราะแต่ละแพลตฟอร์มจะมีเงื่อนไข ค่าคอมมิชชัน
และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับแคมเปญแตกต่างกันออกไป เช่น ค่าโฆษณา ค่าแบนเนอร์
หรือบริการเสริมอื่นๆ ซึ่งค่าบริการเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับร้านค้า
2. เตรียมร้านค้าและทีมงานให้พร้อม
การเตรียมความพร้อมของร้านค้าจะมีหลากหลายมุมด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการจัดหน้าร้านค้าออนไลน์ให้มีความสวยงาม
การแจ้งรายละเอียดสินค้าอย่างครบถ้วน แจ้งข้อมูลบริการหลังการขาย
การเติมสต็อกสินค้า การจัดการโค้ดส่วนลด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่การเตรียมความพร้อมของทีมงานที่จะคอยตอบคำถามข้อสงสัยของผู้ซื้อจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและช่วยปิดการขายได้อีกทาง
เพราะยิ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการหรือข้อสงสัยของลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากเท่าไร
ก็จะสามารถจัดการปิดการขายผู้ซื้อได้เร็วเท่านั้น
ซึ่งจะยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านค้าได้เป็นอย่างดีด้วย
3. คำนวณต้นทุน
- กำไรให้เหมาะสม
หากต้องการรับประโยชน์จากการเข้าร่วมแคมเปญให้ได้มากที่สุด รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนขึ้น ร้านค้าควรคำนวณต้นทุนและกำไรให้เหมาะสม อย่างที่ทราบกันว่าการเข้าร่วมแคมเปญและการลดราคาสินค้าย่อมเกิดต้นทุนที่มากกว่าช่วงเวลาปกติ เพื่อแลกมากับการสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ของร้านค้า ดังนั้น อาจคำนวณยอดขายและกำไรแบบรายเดือนดูว่า การเข้าร่วมแคมเปญในหนึ่งครั้งต่อมูลค่ายอดขายรายเดือนทั้งหมด เมื่อหักลบต้นทุนการดำเนินการต่างๆ แล้ว กำไรที่ร้านได้รับนั้นในแต่ละเดือนเหมาะสมหรือไม่นั่นเอง
4.
ควรมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรม
เพื่อส่งเสริมการขายในทุกช่องทางของร้านค้า เช่น Website, Facebook, LINE official, IG และ Twitter เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง
: สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
(ETDA)