Bnomics | เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่ “เงินเฟ้อ” ยังเป็นความเสี่ยงหลักของไทย
ข้อมูลบ่งชี้ทางด้านเศรษฐกิจของไทยล่าสุดยังแสดงสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่มีแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มกลับมาคึกคัก
อุปสงค์ภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง
โดยดัชนี PCI (Private Consumption Index) ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการบริโภคภาคครัวเรือน ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สะท้อนภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการคลายกังวลจากสภาวะการระบาดของโควิด และจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามาในไทย
ทางด้านดัชนี PII (Private Investment Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการลงทุนภาคเอกชนของเดือนเดียวกัน ก็ปรับขึ้นสอดคล้องกับอุปสงค์โดยรวมที่ฟื้นขึ้นมา โดยเฉพาะในด้านการนำเข้าสินค้าทุนและยอดจดทะเบียนรถยนต์พาณิชย์ แต่ในด้านการก่อสร้างปรับลดลงไปเล็กน้อย

อย่างที่กล่าวข้างต้น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในช่วงนี้ รวมถึงในระยะข้างหน้าด้วย โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยมายาวนาน
อย่างในช่วงก่อนเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 มูลค่าเศรษฐกิจจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมดมากเกินกว่า 10% และมีการจ้างงานแรงงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดราว 10 ล้านคน การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวจึงเป็นการฟื้นตัวขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อคนในวงกว้าง ซึ่งก็จะสร้างเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจด้านอื่นต่อ
โดยข้อมูลเครื่องชี้การท่องเที่ยวล่าสุดในเดือนพฤษภาคมปรับตัวดีขึ้นกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากกว่า 5 แสนคน ซึ่งตัวเลขเดือนเดียวมากกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2564 ที่อยู่ที่ประมาณ 4.3 แสนคนเสียอีก และเมื่อคิดรวม 5 เดือนแรกของปี 2565 แล้ว ประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 1.3 ล้านคน
ด้านอัตราการเข้าพักแรม แม้จะไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเดือนก่อนหน้า แต่ก็ออกมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่เกือบ 42% ซึ่งระดับอัตราการเข้าพักแรมของ 2 เดือนล่าสุด ถือเป็นระดับที่สูงที่สุดตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากนโยบายการเปิดประเทศของทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น และความต้องการท่องเที่ยวที่อัดอั้นมานาน คาดการณ์ว่า การท่องเที่ยวปีนี้ก็น่าจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

ภาคการผลิต
อ้างอิงข้อมูลของ IHS Markit ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และยูโรโซน ในเดือนมิถุนายน ออกมาที่ 52.7 และ 52.1 ตามลำดับ แม้จะยังอยู่ในระดับสูงกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวทั้งคู่ แต่เมื่อเทียบย้อนกลับไป จะพบว่า เป็นการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีวิกฤติสงครามในยูเครน ซึ่งตอนนี้เมื่อมีความกังวลใจต่อวิกฤติเศรษฐกิจระลอกใหม่มากขึ้น ก็ทำให้ธุรกิจเริ่มชะลอการจัดซื้อ
สวนทางกับจีน ที่ระดับ PMI ภาคการผลิตฟื้นตัวกลับมาอยู่ระดับสูงกว่า 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อันเป็นผลมาจากการคลายนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากภาครัฐ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเพิ่มสูงขึ้น
ในส่วนของประเทศไทย PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงเล็กน้อยจากระดับ 51.9 มาสู่ระดับ 50.7 ปัญหาสำคัญมาจากอัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตที่ปรับตัวขึ้นสูง ทั้งจากปัญหาการขาดแคลนการขนส่งโลกที่เกิดขึ้นเป็นระยะต่อเนื่องและปัญหาราคาพลังงานที่สูง ซึ่งก็มากดดันต้นทุนของผู้ผลิต

อัตราเงินเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อระดับสูงกำลังเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงต่อไป ทั้งในด้านของการกัดกร่อนความสามารถของผู้บริโภคและแรงกดดันต่อต้นทุนของผู้ผลิต
โดยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาถือเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 14 ปี หรือตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก (Global Financial Crisis) โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนของผู้บริโภคออกมาอยู่ที่ระดับ 7.66%
ส่วนอัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิตอยู่ที่ระดับ 13.81% ตัวเลขนี้มีนัยยะว่า ในขณะนี้ทางผู้ผลิตกำลังแบกรับต้นทุนเงินเฟ้อที่สูงยิ่งกว่าผู้บริโภคอีก ที่ก็โอกาสส่งต่อมาที่ผู้บริโภคได้ในอนาคตหากปัญหายังไม่คลี่คลาย

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของไทยและสหรัฐฯ และความกังวลใจต่อโอกาสที่จะเกิดวิกฤติ ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าไปที่สหรัฐฯ ซึ่งการที่เงินบาทอ่อนค่าลง ก็เป็นหนึ่งในแรงกดดันที่ทำให้ไทยนำเข้าสินค้าพลังงานด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งก็จะกดดันต่อไปยังอัตราเงินเฟ้อในภาพรวมต่อไปได้
ซึ่งเราก็เริ่มเห็นแล้วว่า ระดับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นจากตอนแรกที่มาจากราคาพลังงานเป็นสำคัญนี้ ค่อยๆ ขยายไปสู่ระดับราคาของสินค้าอื่นๆ ในวงกว้างแล้ว ซึ่งสิ่งนี้อาจจะส่งผลต่ออัตราคาดการณ์เงินเฟ้อของคนในระยะยาว ที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญ
ทำให้ปัญหาเงินเฟ้อเป็นประเด็นพิจารณาสำคัญว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคมหรือไม่ และจะต้องขึ้นต่อเนื่องแค่ไหน
ซึ่งถ้าสถานการณ์เงินเฟ้อไม่ทุเลาลง แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดการณ์ต่อเนื่องแบบนี้ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นของไทยก็อาจจะมาเร็วกว่าที่คาดกันเมื่อหลายเดือนก่อน จากที่เคยคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ไปตลอดทั้งปี ก็จำเป็นต้องเข้าสู่ช่วงขาขึ้น เพื่อจัดการปัญหาเงินเฟ้อ
สรุป
เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากด้านอุปสงค์ภายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงสำคัญมาจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี ที่กำลังกัดกร่อนผู้บริโภคและกดดันต้นทุนผู้ผลิต ประกอบกับค่าเงินบาทที่กำลังอ่อนค่าต่อเนื่อง กำลังกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งก็จะส่งผลต่อเนื่องไปสู่ต้นทุนของธุรกิจและประชาชนต่อไปได้
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
════════════════
ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co
════════════════
คุณจะไม่พลาดทุกประเด็นเศรษฐกิจ จาก Bnomics
เพียงตั้งค่าที่เมนูมุมขวาบนเพจให้
เป็น "#Favourites" หรือ “#รายการโปรด”
แล้วทุกประเด็นเศรษฐกิจ จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
Reference :
https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/PressRelease/PressRelease2557/MonthlyReport_May2022_ks6m2.pdf
https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2022-07-05/what-s-happening-in-the-world-economy-the-38-risk-of-a-us-recession
https://www.cnn.com/2022/06/30/economy/china-economy-pmi-covid-intl-hnk/index.html
https://wttc.org/Research/Economic-Impact/moduleId/704/itemId/219/controller/DownloadRequest/action/QuickDownload