Bnomics | เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวได้แรงหลังกลับมาใช้ Test & Go
ผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ปี 2564 หลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รัฐบาลไทยก็ได้มีมติให้ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบไม่ต้องกักตัวภายใต้โครงการ Test & Go และ Sandbox สำหรับ 63 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องเข้าระบบกักตัวเต็มรูปแบบตามเดิม
ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่าประเทศไทยได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาทั้งสิ้นจำนวนกว่า 230,500 คนในช่วงเดือนธันวาคม โดยถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทั้งปี 2564 ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 430,000 ราย ยังคงน้อยกว่าปี 2563 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวราว 6.7 ล้านคน (เนื่องจากไตรมาสแรกปี 2563 ประเทศไทยยังไม่ได้มีมาตรการปิดประเทศ จึงทำให้นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาในจำนวนมาก)

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมในเดือนธันวาคม 2564 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 46.2 สูงสุดในรอบ 9 เดือน และเพิ่มขึ้นจาก 44.9 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าจะมีโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างโอมิครอน แพร่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ทำให้ประชาชนคลายความกังวลลง
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนมกราคม 2565 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 47.2 จาก 49.0 ในเดือนก่อนหน้า เพราะผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลต่อราคาต้นทุนที่อาจปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (ราคาน้ำมันดิบ Brent อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ในช่วงที่ผ่านมา) นอกจากนั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการบางกลุ่ม โดยเฉพาะในธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม หรือภาคบริการอื่น ๆ

ประเทศไทยกลับมาเปิดระบบลงทะเบียนสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาในไทยประเภท Test & Go อีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อต้องการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักจากการปิดประเทศ
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขใหม่นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน ในวันแรกและวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าไทย แต่ผู้เดินทางสามารถเดินทางมาได้จากทุกประเทศทั่วโลก (จากเดิมกำหนดไว้ที่เพียง 63 ประเทศ)
ประเทศไทยถูกจัดลำดับ Covid Resilience Ranking โดย Bloomberg ให้อยู่ในลำดับที่ 26 จากทั้งหมด 53 ประเทศในเดือนมกราคม 2565 (ดีขึ้นจากเดิมอยู่ในลำดับที่ 44 ในเดือนธันวาคม 2564) ซึ่งการจัดลำดับนี้จะวัดจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศนั้น ๆ อัตราการฉีดวัคซีน ความรุนแรงของการล็อกดาวน์ และ Mobility ของคนในประเทศ เป็นต้น ถ้าหากประเทศอยู่ในลำดับต้นๆ (มีคะแนนมาก) สามารถตีความได้ว่าประเทศนั้นๆ จัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีที่สุด โดย ณ ตอนนี้ประเทศที่จัดการกับโควิดได้ดีที่สุด 3 ลำดับแรกได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย และ ฟินแลนด์ ตามลำดับ

ภาคการผลิตของไทย
อ้างอิงจากข้อมูลของ IHS Markit ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 55 ในเดือนมกราคม 2565 ปรับลดลงจาก 57.7 ในเดือนธันวาคม 2564 ขยายตัวได้ต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาด้าน Supply Chain การขาดแคลนแรงงาน และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเกือบ 1 ล้านรายต่อวันในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ส่วนในยูโรโซน ดัชนี PMI ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 59 สูงสุดในรอบ 5 เดือนและสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 57.5 แม้ว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานจะขัดขวางการผลิตในโรงงานหลายแห่ง แต่การผลิตขยายตัวได้ในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ PMI ของจีนลดลงมาอยู่ที่ 49.1 ในเดือนมกราคม 2565 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนยังคงประสบกับปัญหาการล็อกดาวน์จากโควิด-19 ทั่วประเทศ
ทางด้านภาคการผลิตของประเทศไทย เริ่มกลับมาขยายตัวได้ในเดือนมกราคม โดยดัชนี PMI พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 51.7 เพิ่มขึ้นจาก 49.5 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โดยผู้ประกอบการไทยได้มีการจัดซื้อวัตถุดิบในการผลิตเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนสินค้า ส่งผลทำให้สต็อกวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบหลายเดือน

ในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย มีรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2564 ทั้งสิ้น 154,368 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 6.64% แต่เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีที่แล้ว 7.89% ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมีจำนวนทั้งหมด 86,145 คัน สูงสุดในรอบ 12 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 26.9% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 12.57% และปริมาณรถยนต์ส่งออกได้มีทั้งสิ้น 101,307 คัน สูงสุดในรอบ 9 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.51% และเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 47.93% จากการที่ผู้ผลิตได้เข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนประกอบมากขึ้น

เศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป
เศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปคาดว่าจะฟื้นตัวได้จากการเปิดประเทศ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลง และการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงแก่ประชากรไทย กระทรวงการคลังยังคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ GDP ไทย ในปี 2565 นี้ที่ 4% และมีการปรับเพิ่มประมาณการปี 2564 เป็น 1.2% จากเดิม 1% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนหลักจากการส่งออกที่แข็งแกร่งและมาตรการสนับสนุนทางการคลังที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางธนาคารเรามองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ 4.5%
ทางกระทรวงการคลังมองว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก แต่ยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไว้ที่ 7 ล้านคน และเรามองไว้ที่เพียง 5 ล้านคน
ในส่วนของนโยบายทางด้านการเงิน แบงก์ชาติมีแนวโน้มที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อไปตลอดทั้งปี 2565 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวยังไม่ได้เต็มที่มากนัก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ค่าเงินบาทคาดว่าจะแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ราว 32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและราคาพลังงานที่ปรับลงจะส่งผลดีต่อดุลบัญชีเงินสะพัด
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการไทยในช่วงนี้ก็ยังคงต้องระมัดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพราะโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดนั้นจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และการขนส่ง ผู้ประกอบการจึงควรวางแผนการสั่งวัตถุดิบหรือสินค้าที่จำเป็นต่อกระบวนการผลิตสินค้าให้พร้อม และความผันผวนในตลาดการเงินจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยในตลาด ทางเราจึงแนะนำให้มีการลดความเสี่ยงเหล่านี้โดยการทำ hedging ไว้ล่วงหน้า โดยปรึกษาผ่านที่ปรึกษาทางการเงินของธนาคารกรุงเทพ เป็นต้น
ผู้เขียน : บุรินทร์ อดุลวัฒนะ Chief Economist, Bnomics
ติดตามบทความวิเคราะห์ประเด็นเศรษฐกิจ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co