‘ตลาดสินค้าเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช’ หรือ ‘Plant Base Meat' ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดจำหน่ายสินค้านี้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 29% หรือคิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยิ่งเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ยิ่งทำให้เกิดความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก ประเทศสหรัฐ รายงานข้อมูลของ The Package Fact พบว่าคนอเมริกันสัดส่วนถึง 23% หรือเกือบ 1 ใน 4 เริ่มหันมารับประทานเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช แทนเนื้อสัตว์
ข้อมูลจากสมาคม Plant Base Foods และ The Good Institute รายงานว่าตลาดนี้มีมูลค่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2562 ขยายตัว 11 % โดยกลุ่มผู้บริโภค Gen Y เป็นกลุ่มที่นิยมบริโภคมากที่สุด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ล่าสุดผลสำรวจของ OnePoll พบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 คนอเมริกันสัดส่วน 47% เริ่มหันมารับประทาน Plant Base Meat และยังพบอีกว่ามีคนถึง 25% ที่ลดการรับประทานนม และอีก 23% ลดการรับประทานไข่ไก่
ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ประกอบการต่างหันมาพัฒนาสินค้าและแข่งขันกันในสมรภูมิตลาดเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชกันมากขึ้น ทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Tyson, Smithfield, Perdue, Hormel, Nestle, Jimmy Dean และ Unilever และที่เป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลก คือการเข้ามาของค่าย McDonald’s ที่ได้เปิดตัวแฮมเบอร์เกอร์จากเนื้อเทียมในเมนู McPlant Meatless Burger รวมถึงค่าย IKEA ที่มีสาขาทั่วโลก ก็ได้หันมาสู่การผลิตสินค้าอาหารจากพืชเช่นกัน
ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการค้าปลีกก็มุ่งจัดหาสินค้ากลุ่มนี้เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยเฉพาะห้างค้าปลีกชั้นนำในสหรัฐฯ อย่าง Whole Foods, Kroger, Trader Joe’s เพิ่มสินค้ากลุ่มที่ทำจากพืชให้หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่นับรวมผู้ประกอบการค้าส่งอย่าง VEDGEco ที่เปิดให้บริการจัดส่งอาหาร Plant Base ทั่วประเทศ ร้าน Plant X, ร้าน Vegan Fine Food ที่มีแผนจะเปิดสาขาทุกรัฐภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2567 และร้านค้าออนไลน์ Vejii ที่มีการจำหน่ายสินค้านี้มากถึง 3,200 รายการ เป็นต้น
กระแสความนิยมในการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมาจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนการ เป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดความนิยมบริโภคโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว สาหร่าย เห็ดมากขึ้น จากเดิมอาหารกลุ่มนี้จะได้รับความนิยมเฉพาะจากผู้บริโภคมังสวิรัติเท่านั้น แต่ก็ได้ขยายไปสู่ผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Y
อย่างไรก็ตามการทำการส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ต้องศึกษากฎระเบียบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะปัจจุบันปัญหาของการทำตลาดสินค้าอาหารที่ทำจากพืช ทางคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ยังหาข้อสรุปในเรื่องการกำหนดฉลากสินค้า (Food Labeling) ไม่ได้ และยังมีกระแสคัดค้านการเรียกโปรตีนจากพืชเหล่านี้ว่า “เนื้อ” หากไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ซึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคสหรัฐฯ ว่าเป็นอาหารที่ผลิตจากพืช ทางสมาคม Plant Base Foods จึงเสนอให้ใช้เครื่องหมายรับรอง ‘Certifiled Plant Base Food’ โดยสมาคม
ขณะที่ช่องทางการทำการตลาดสินค้านี้
ผู้ประกอบการสามารถทำได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยแต่ละปีสหรัฐฯ จะมีการจัดงานแสดงสินค้าสำคัญๆ
เกี่ยวกับสินค้านี้ 2 งาน และในปีนี้ก็ยังมีการจัดงาน
ในชื่อว่า Plant Base World Conference and Expo 2021 ซึ่งจะจัดช่วงกลางปี ระหว่างวันที่ 16-17 มิถุนายน และงาน
Nartural Product Expo East 2021 ซึ่งจะจัดในเดือนกันยายนนี้
ก็จะเป็นช่องทางสำคัญการศึกษาตลาด