สำหรับคนรักเนื้อต้องไม่พลาด ‘ร้าน BULL & BEAR’ เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นานมานี้เอง แต่เพราะความเป็น Expert เรื่องเนื้อ จึงกลายเป็นร้านติดอันดับที่คนรักเนื้อต้องเก็บอยู่ในลิสต์ที่ต้องมาลองชิมให้ได้
ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้น 56 ของโรงแรมสุดหรูระดับห้าดาวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นั่นคือโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ บนถนนราชดำริที่สามารถมองเห็นแสงสีของป่าคอนกรีดกรุงเทพฯยามราตรีได้สวยงามบรรเจิดยิ่ง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ก้าวย่างแรกที่เดินเข้ามาในร้านจะสะดุดตากับรูปปั้นกระทิงและหมีที่ตั้งอยู่บริเวณบาร์ ซึ่งเป็นแบบจำลองมาจากรูปปั้น BULL & BEAR ที่มีชื่อเสียงบนถนนวอลสตรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ค
ร้าน BULL & BEAR สรรหาประสบการณ์แปลกใหม่เพื่อต้อนรับคนรักเนื้อโดยเฉพาะ โดยมีเชฟชาวออสซี่ Patrick Morris เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อและการปิ้งย่าง ที่สรรหาเนื้อเกรดพรีเมี่ยมทั้งจากอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รวมถึงกระบวนการ Dry-Aged หรือ “การบ่มเนื้อ” ตามระยะเวลาที่ต่างกัน เพื่อให้เนื้อนุ่ม มีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมละมุน ซึ่งคนรักเนื้อน่าจะได้ลิ้มลองเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการชิมเนื้อให้ไต่ระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
นอกจากเนื้อดีแล้ว การปิ้งย่างเพื่อให้เนื้ออร่อยเป็นเรื่องสำคัญมาก เชฟ Patrick Morris มีตัวช่วยที่ทำให้การย่างเนื้อเพิ่มระดับความอร่อย นั่นคือ “เตาย่างเนื้อ” ที่เป็นวัตกรรมใหม่ โดยเชฟจะใช้ถ่านไม้ในการย่างและมีฝาปิดเพื่อให้กลิ่นถ่านไม้อบอวลอยู่ภายในเตา สามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อนเพื่อเก็บน้ำเนื้อให้ชุ่มหวานฉ่ำอยู่ในเนื้อ
หิวแล้ว ลองเอาเมนูมสั่งกันเลยดีกว่า เริ่มจาก straters มี 10 กว่าเมนู อาทิ BBQ Caesar Slad , Jumbo Crab Cake , Lobster Bisque, Ahi Tuna Tartare ฯลฯ.
ส่วนจานพระเอกคือสเต็กนั้น มีเนื้อหลากหลายให้ลิ้มลอง อาทิ Bone in Ribeye เนื้อวากิวบ่ม 55 วัน ชิ้นโตมากขนาด 900 กรัม ยังมีเนื้อชิ้นใหญ่กว่านี้นั่นคือ Porterhouse สเต๊กเนื้อแบล็คโอนิกซ์ เลี้ยงด้วยธัญพืช 270 วันหน้าตาคล้ายที-โบน สเต็ก เสิร์ฟมาบนจานโตเพราะเนื้อน้ำหนักถึง 1 กิโลกรัม
ใครไม่กินไม่จุ ก็มีเนื้อชิ้นขนาด S และ M บริการ อาทิ Bone in NY Strip Steak บ่ม 55 วัน น้ำหนัก 300 กรัม ชิ้นเดียวกำลังอิ่มท้องพอดี , Wagyu Ribeye เป็นเนื้อวากิว ที่เลี้ยงจากแถบแม่น้ำมาร์กาเร็ต ไซส์ในออสเตรเลียภาคตะวันตก
ไฮไลต์อีกจาน คือ Saga Striploin เกรด A4 เป็นเนื้อจากจังหวัดซากะ ประเทศญี่ปุ่น เนื้อนุ่มหอมด้วย marble ไขมันระดับเกรด A และสเต็ก คือ วากิว เทนเดอร์ลอยน์
หรือถ้าใครคิดว่ามากันหลายคนแล้วอยากกินเนื้อและซีฟู้ดในจานเดียวกัน เชฟ Patrick Morris ก็จัดให้เป็นเมนู เซิร์ฟ แอนด์ เทิร์ฟ เช่นสั่งเพิ่มแคนาเดี้ยน ล็อบสเตอร์ กุ้งลายเสือ จนถึงฟัวกราส์
ส่วนคนไม่กินเนื้อก็มีพาเหรดซีฟู้ดมาเสิร์ฟ อาทิ ปลากะพงออสเตรเลีย, หอยเชลล์ฮอกไกโด, กุ้งลายเสือ, พาสต้าเส้นแบนกับล็อบสเตอร์ คนชอบหอยนางรมจัดหอยนางรมจากฝรั่งเศสให้ เมนูไก่อบ, พอร์คชอป และ RACK OF WESTERN AUSTRALIAN LAMB
กินสเต็กต้องมี side dish เชฟก็จัดเต็มถึง 7 อย่างให้เลือกตามความชอบ อาทิ มันฝรั่งทอดในน้ำมันเป็ด, มันฝรั่งบดสไปซี่, ทรัฟเฟิล แมคแอนด์ชีส, สลัดร็อคเก็ต รวมถึงซอสที่ราดในสเต็ก เยอะมากขนาดต้องใส่ในพวงพริกมาเสิร์ฟเลย อาทิ ซอสพริกไทย, มัสตาร์ดซอสปรุงกับเบอร์เบิ้น, ซอสบอร์เดอเลส์ปรุงจากไวน์แดง, ซอสพริกศรีราชาปรุงกับเนย, ซอสบาร์บีคิว และซอสเห็ดป่า
ร้าน BULL & BEAR เสิร์ฟเฉพาะมื้อเย็น เปิดบริการตั้งแต่18.00 น. เป็นต้นไปสนใจก็ไปลิ้มลองสัมผัสความพิเศษนี้ดู
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333