รัฐบาลกัมพูชาคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 6.3% ในปี 2568 และ GDP คาดว่าจะแตะมูลค่า 51,390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัวคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,924 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 2,713 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 ซึ่งการเติบโตดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรม, การบริการและเกษตรกรรม
ภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโต 8.6% ถูกผลักดันจากการขยายตัวของการผลิตเครื่องนุ่งห่มและสินค้าที่ไม่ได้ผลิตจากผ้า ซึ่งการเติบโตในส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ทั่วโลกและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนารองเท้าและกระเป๋าของกัมพูชา ปี 2565-2570
ในภาคการผลิตสินค้าที่ไม่ได้ผลิตจากผ้าจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและการสนับสนุนธุรกิจ SME จากรัฐบาล นอกจากนี้ ภาคการผลิตอาหารและเครื่องดื่มก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัว ขณะที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างแม้ว่าจะเผชิญกับภาวะชะลอตัวเล็กน้อยเนื่องจากการลงทุนจากต่างชาติและการก่อสร้างที่อยู่อาศัยลดลง แต่ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีส่วนช่วยในการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ
ภาคการบริการคาดว่าจะเติบโต 5.6% โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยว, การบริการและการต้อนรับ, อสังหาริมทรัพย์, การเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ขณะที่ ภาคเกษตรกรรมคาดว่าจะเติบโตประมาณ 1.3%
ในแง่ของโอกาสการลงทุนในกัมพูชาในปี 2568 มีหลายอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มที่จะมีอนาคตที่ดี เนื่องจากได้รับแรงส่งจากปัจจัยหลายด้าน เช่น เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์, มีแรงงานหนุ่มสาวและกัมพูชากำลังปฏิรูปในด้านต่าง ๆ โดยมีรัฐบาลเป็นผู้นำของการปฏิรูปเหล่านี้ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ได้แก่ เทคโนโลยีชั้นสูง, เกษตรกรรมและการแปรรูปทางการเกษตร, การท่องเที่ยว, พลังงานหมุนเวียน, ยานยนต์และการเงินการธนาคาร โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับการส่งเสริมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายการลงทุนของกัมพูชา ที่ส่งผลให้กัมพูชากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
Reference: