สถานการณ์การนำเข้าผลไม้ของจีนช่วงเดือนมกราคม-เมษายน
2563 จีนมีการนำเข้าผลไม้รวม 2,444,000 ตัน ลดลงร้อยละ 9
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 คิดเป็นมูลค่ารวม 4,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ
10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันชองปี 2562 ขณะเดียวกันมีการส่งออกผลไม้รวม 972,000
ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 คิดเป็นมูลค่า 1,410
ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มชึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
ทั้งนี้มูลค่าการนำเข้าผลไม้หลักดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 83 ของมูลค่าการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของจีน สำหรับแหล่งนำเข้าผลไม้ 10 อันดับแรกของจีน ประกอบด้วย ชิลี ไทย เวียตนาม ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย เปรู นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน และอียิปต์ โดยผลไม้หลัก 10 อันดับแรกที่นำเข้าคิดมูลค่าเป็นเงินบาทรวม 140,160 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 32 บาท/ ดอลลาร์)
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
แยกเป็น เชอร์รี่สด 38,400 ล้านบาท ทุเรียนสด 23,360 ล้านบาท องุ่นสด 14,400 ล้านบาท กล้วยหอม 10,880 ล้านบาท แก้วมังกร 8,640 ล้านบาท ลำไยสด 6,080 ล้านบาท บ๊วยและลูกไหนสด 4,288 ล้านบาท มังคุดสด/แห้ง 4,032 ล้านบาท กีวีสด 3,296 ล้านบาท และส้มเช้งสด/แห้ง 3,264 ล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
ระบุว่าช่วง 4 เดือนแรกปี 2563 (มกราคม-เมษายน)
ยอดการส่งออกทุเรียนสดของไทยอยู่ที่ 788 ล้านเหรียนสหรัฐ หรือประมาณ 25,216
ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เพิ่มขึ้น 30% ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกไปประเทศจีน 567 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรือประมาณ 18.144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562
ขณะเดียวกันไทยยังครองแชมป์ส่งออกทุเรียนโลก ตลาดส่งออกหลักคือ จีน ฮ่องกง ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นว่าการส่งออกทุเรียนยังมีแนวโน้มสดใสแม้จะอยู่ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด