ปัจจุบันแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวต่างมีด้วยกันทั้งหญิงและชาย ซึ่งนอกจากหมวก เสื้อผ้า หน้าผมแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับการแต่งตัว ซึ่งการเลือกรองเท้าโดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบให้โดน เหมาะกับการใส่ทำงานหรือใส่ท่องเที่ยว แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวคุณนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น Bangkok Bank SME จึงขอนำทริกดีๆ ในการเลือกรองเท้าผ้าใบ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกใช้งานตรงกับวัตถุประสงค์การสวมใส่มาฝาก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
“รองเท้าผ้าใบ” ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำกิจกรรม
2 จำพวกใหญ่ๆ คือ
รองเท้าผ้าใบสำหรับเล่นกีฬา มีลักษณะเด่นคือความทนทาน อาจถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้เล่นกีฬาแต่ละประเภท
เช่น บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เป็นต้น ซึ่งรองเท้าผ้าใบประเภทนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษ คือช่วยลดอาการบาดเจ็บที่อาจะเกิดขึ้นจากการเล่นกีฬานั้นๆ
รองเท้าผ้าใบสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไป ในส่วนนี้หมายถึงรองเท้าผ้าใบที่ไว้ใส่เที่ยวเล่น ทำกิจกรรมสบายๆ รวมถึงใส่ไปทำงานที่ไม่ได้ต้องการรองเท้าที่ออกมาแบบมาเป็นพิเศษ
แต่เน้นดีไซน์ ความสบายในการสวมใส่ และทนทาน
แล้วดีไซน์ไหน..ใช่สำหรับคุณ
ในโลกของรองเท้าผ้าใบนั้นดีไซน์ขึ้นอยู่กับรสนิยม
คุณอาจเป็นคนแต่งตัวสบายๆ แต่รองเท้าต้องปัง หรืออาจเป็นคนแต่งตัวแน่นแต่ให้รองเท้าผ้าใบเป็นจุดพักสายตา
งั้นลองมาดูกันดีว่ากว่ารองเท้าผ้าใบแบบไหนที่ใช่ สไตล์ไหนโดนใจคุณ
1. ดีไซน์ตามรูปทรง
Low Top
- รองเท้าผ้าใบข้อสั้น เป็นรองเท้าผ้าใบรุ่นฮิตที่เราเห็นทั่วไปเพราะเป็น
รองเท้าผ้าใบดีไซน์ที่มีคนใส่มากที่สุด
- ใส่ง่าย เหมาะและเข้ากับคนทุกรูปร่าง
- ให้ลุคที่ดู Casual สบายๆ
ใช้งานง่ายและใส่ได้ทุกวัน
High Top
- รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อหรือรองเท้าผ้าใบข้อสูงนิยมใส่เล่นบาส
เพราะถูกออกแบบมาเพื่อพยุงข้อเท้าและดูดซับแรงกระแทก จึงช่วยลดอาการบาดเจ็บ
เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวแบบสบายๆ
- รองเท้าผ้าใบทรงข้อยาว หรือรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ
- เหมาะกับคนที่ช่วงขายาว
เพราะทำให้ช่วงขาเราดูสั้นลงสำหรับคนตัวเล็ก
- รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อจะให้ลุคที่ดูเท่ขึ้นและดูลุยๆ
กว่ารองเท้าผ้าใบปกติ
Slip On
- รองเท้าผ้าใบดีไซน์นี้เน้นการสวมใส่ง่าย สบายๆ มีน้ำหนักเบา
เหมาะกับการแต่งตัวง่ายๆ ไม่เป็นทางการ
- เป็นรองเท้าผ้าใบอีกรูปแบบที่ไม่ใช้เชือกผูก
แต่ใช้การสวมแทนทำให้ใส่ง่ายขึ้น
- สามารถใส่ได้ทุกคนเพราะด้วยรูปแบบที่ใส่ง่ายและดูโตขึ้นมาหน่อย
- รองเท้าผ้าใบแบบสวมจะให้ลุคที่ดูทางการมากกว่ารองเท้าผ้าใบแบบเชือก
ให้ความรู้สึกคล้ายกับรองเท้าคัทชู
2. ดีไซน์ตามวัสดุ
Leather การใช้วัสดุหนัง
ไม่ว่าจะหนังแท้หรือหนังเทียมก็เป็นที่นิยมกันมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน
Suede หรือหนังกลับ มักจะถูกสอดแทรกไปในดีไซน์ของรองเท้าผ้าใบหนังเป็นประจำ
Fabric ใช้วัสดุผ้าและมักจะเป็นผ้าแคนวาสที่มีความหนา
อย่างเช่น Converse และ Palladium
Knit เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เพิ่งผลิตขึ้นมาช่วงหลังมานี้
เพื่อทำให้รองเท้าผ้าใบใส่แล้วกระชับและคล่องตัวขึ้น
Rope รูปแบบออริจินัลของรองเท้าผ้าใบทั่วไป
คือใช้เชือกผูกในการสวมใส่ เพื่อกำหนดความกระชับด้วยตนเอง
Strap เป็นแบบตีนตุ๊กแกที่ใช้งานง่าย
ถอดเข้าถอดออกง่ายกว่าแบบเชือกผูกแต่ก็ให้อารมณ์ที่ต่างกัน
3. แบ่งตามชนิดของเนื้อผ้าที่ใช้ทำ
Leather รองเท้าผ้าใบที่ไม่อาจเรียกว่าผ้าใบได้สนิทปากนัก
เนื่องจากทำมาจากวัสดุประเภทหนัง
จึงเหมาะกับการแตกต่างกึ่งทางการและในบางโอกาสก็สามารถใส่กับการแต่งกายแบบเป็นทางการได้
Textile ที่มาของคำว่า “รองเท้าผ้าใบ” อย่างแท้จริง
วัสดุทำมาจากผ้า คงทน คลาสสิก ร่วมสมัย และใช้ได้ทุกโอกาส ทั้งการแต่งตัวสบายๆ และการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
Synthetic เป็นรองเท้าผ้าใบไม่ใช่ผ้าใบที่ทำมาจากวัสดุประเภทพลาสติก
ความทนทานมีน้อย พื้นผิวแตกร่อนง่าย จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม
เลือก “สี” รองเท้าผ้าใบ
ให้เหมาะกับชุด
การเลือกซื้อรองเท้าสักคู่ ควรเลือกแบบให้สามารถใส่ได้กับหลายๆ
ชุด ว่าแล้วก้ลองมาดูกันว่ารองเท้าสีนี้ จะเหมาะกับเสื้อผ้าโทนสีอะไรบ้าง
- สีดำ ขาว เข้ากับเสื้อผ้าสีอะไรก็ได้
- สีเทา
เข้ากับเสื้อผ้าสีแดง เหลือง ม่วง
- สีเงิน
เข้ากับเสื้อผ้าสีพาลเทล ม่วง
- สีแดง
เข้ากับเสื้อผ้าสีโทนเข้ม
- สีน้ำตาล
เข้ากับเสื้อผ้าสีเขียวเข้ม หรือแดงกำมะหยี่
การเลือกรองเท้าผ้าใบให้มิกซ์เเอนด์แมตช์กับชุดที่ใส่
เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามในการเสริมสร้างบุคลิกภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนให้การแต่งตัวของเราดีขึ้น
เพิ่มความมั่นใจ ดึงดูดใจ รวมถึงความเรียบร้อยน่ามองแล้ว
ยังสามารถสร้างความประทับใจแรกให้กับบุคคลที่เพิ่งพบเจอได้อีกด้วย