การก้าวกระโดดทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ
กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม หรือ CLMV สามารถยกฐานะความเป็นอยู่ของประชากรดีขึ้นตามลำดับ แล้วยังผลักดันให้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่องเติบโตคึกคักตามไปด้วย
โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นไม่หยุด เพราะกลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวไปมาหาสู่ระหว่างประเทศด้วยกันเอง
แล้วประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตติดลมบนที่กลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่จากกลุ่มประเทศ
CLMV นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากการเดินทางไปมาไทยทั้งทางบกและทางอากาศแสนสะดวกสะบายใช้เวลาไม่นาน
ที่สำคัญการมาเมืองไทยสะดวกสบายมากกว่าในอดีต ถ้าสายการบินโลว์คลอส แอร์ไลน์ ไปกลับกรุงเทพฯ- CLMV ราคาทั่วไปไม่น่าจะเกิน 120 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา(3,720 บาท ) บางครั้งซื้อได้ราคาพิเศษ อาจจะได้ประมาณ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ(2,480บาท) ด้วยซ้ำไป ขณะที่ค่าที่พักโรงแรมในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มตั้งแต่ 500-2,500 บาท แล้วแต่ระดับของโรงแรม ทำให้กลุ่มเศรษฐกิจใหม่ CLMV มักจะนิยมมาเที่ยวพักผ่อนและช้อปปิ้งในเมืองไทย ที่แบรนด์สินค้าไฮเอนด์ครบวงจร ราคาถูกกว่าไปช้อปปิ้งชาติเอเชียหรือชาติตะวันตกเสียอีก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
เศรษฐี CLMV “เที่ยวช้อป” ไทยกระจาย
จากข้อมูลสถิติของกรมการท่องเที่ยวรวบรวมและเปิดเผยตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวของประเทศกลุ่ม
CLMV เดินทางมาเยือนประเทศไทย มีความน่าสนใจมากทีเดียวและยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยประเทศกัมพูชา ปี 2555 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยทั้งหมดแค่
423,642 คน แต่พอมาปี 2561 จำนวนนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 882,015 คน
เช่นเดียวกับ สปป.ลาว ปี 2555
มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากลาวเข้ามาประเทศไทยเพียง 975,999 คน แต่พอมาปี 2561
เข้ามามากถึง 1,750,655 คน เพิ่มขึ้นเกือบ 100%
ส่วนเมียนมา ปี 2555 นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทย 129,385 คน แต่ในปี 2561
มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงถึง 368,170 คน ซึ่งเท่ากับว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 2
เท่าหรือคิดเป็น 185%
ขณะที่ประเทศเวียดนาม ในปี 2555 มีนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเพียง 618,670 คน แต่ในปี 2561 เพิ่มมากถึง 1,027,430 คน ซึ่งตัวเลขกลุ่มนักท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นไม่หยุด ซึ่งตัวเลขโดยรวมกลุ่มประเทศเหล่านี้ ในปี 2555 มีทั้งสิ้นจำนวน 2,147,696 คน แต่ตัวเลขในปี 2561 พุ่งทะยานถึง 4,028,270 คน หรือเพิ่มขึ้น 87%ในรอบ 6 ปี ซึ่งกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนหรือช้อปปิ้งในประเทศไทยผลประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนชาวไทยเต็มๆ
แห่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมกลุ่มชาติ CLMVT
จากความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศ CLMVT (กัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม-ไทย) เมื่อปี 2-3
ปีที่ผ่านมา ทั้ง 5 ประเทศเร่งผลักดันให้มีการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคึกคักเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกระดับ
ที่อยากเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแต่ละประเทศมีจุดขายแตกต่างกันไป
เช่น
เมียนมา ที่มีมนต์ขลัง ด้านความเป็นศูนย์กลางศาสนาพุทธที่ประชากรส่วนใหญ่เคร่งครัดขนบธรรมเนียมประเพณีที่หาดูได้ยาก
สปป.ลาว มีเสน่ห์ตรงที่มีแหล่งธรรมชาติที่สวยงามมากมาย, ยึดกรอบพระเพณีปฎิบัติอย่างเคร่งครัดอย่าง ไม่เสือมคลาย
ผู้คนโอบอ้อมอารีย์
กัมพูชา มีแหล่งฮิตท่องเที่ยวโบราณสถานอันเก่าแก่ชื่อดังระดับโลก มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันๆ
ปี เช่น ปราสาทนครวัต นครธรม
เวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายไปแล้วอยากไปอีก เช่น
เมืองดานัก-ฮอยอัน ตลอดทั้งเมืองเว้ มนต์เหน่ห์มรดกโลก ซึ่งปัจจุบันการเดินทางไปมาหาสู่ของกลุ่มประเทศเหล่านี้สะดวกสบายทั้งทางบกและทางอากาศ
ตลาดท่องเที่ยวกลุ่ม CLMV เติบโตต่อเนื่อง
คุณรุจาภา วีสเพ็ญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร บอกว่า
อนาคตสดใสเพราะแต่ละประเทศต่างเปิดประเทศอ้าแขนรับทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มชาติอาเซียนด้วยกัน
เพราะภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งถือว่าเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศแต่ละปีมหาศาล
และยังช่วยกระตุ้นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องพลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย ทั้งภาคอุตสาหกรรมการบริการ
ภาคการโรงแรม ตลอดทั้งที่พักอาศัยแบบรีสอร์ท และยังสร้างเม็ดเงินกระจายสู่ท้องถิ่น
ซึ่งปัจจุบันแต่ละประเทศเพื่อนบ้านต่างเปิดตลาดท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์แข่งขันกันอย่างดุเดือด
ชูมนต์เสน่ห์ของแต่ละภูมิภาคเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปเยือนประเทศนั้น
“ทุกวันนี้การท่องเที่ยวผ่านระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก
– ตะวันตก กำลังได้รับความนิยมอยางแพร่หลาย มีกลุ่มนักท่องเที่ยวหลากหลายเข้าไปท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศดังกล่าว
ทั้งไปท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ศึกษาวัฒนธรรม หาช่องทางการค้าและการลงทุนไปในตัวด้วย
ที่ผ่านมาภาคเอกชนจากทั่วประเทศมักนิยมเดินทางไปสำรวจเส้นทาง EWEC ด้านตะวันออกสาย R9
จากสปป.ลาวสู่เส้นทาง R 1 ที่เมืองกวางตรี เพื่อรองรับการค้า
การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างประเทศและเชื่อมโยงจีนตอนใต้”
คุณรุจาภา ให้ความเห็นว่า ปรากฏการณ์การท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ
CLMV คึกคักเป็นพิเศษ ผลพวงจากทุกประเทศพยายามเร่งกระตุ้นให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่ง
เพื่อเพิ่มรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ และที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการเดินไม่แพงมากนัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจับต้องได้
แต่ละประเทศต่างอัดแคมเปญ จัดโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปเยือน
ส่วนนักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุนด้านการท่องเที่ยวถือเป็นโอกาสทองเลยทีเดียว เพราะกลุ่มประเทศนี้เพิ่งเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้ไม่นาน พร้อมจะอ้าแขนรับเข้าไปลงทุนด้วย โดยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร มัคคุเทศก์ ซอฟท์แวร์ แอพพลิเคชั่น ที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว และการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน
ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
แต่กลุ่มประเทศ CLMV ยังขยายตัวต่อเนื่องปีละประมาณ
6–7 % เนื่องจากส่งผลกระทบค่อนข้างจำกัด
และยังได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
ตลอดทั้งการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาลต่อเป็นปัจจัยบวกแรงหนุน
กลุ่มประเทศ CLMV กลายเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่มาพร้อมเปิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนที่นักธุรกิจไทยไม่ควรมองข้าม แต่ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศนี้ เติบโตแบบก้าวกระโดดยกฐานะความเป็นอยู่ของประชากรดีขึ้น ประเทศไทยพลอยได้รับอานิสงส์ด้วยเพราะกลุ่มเศรษฐกิจรุ่นใหม่หันมาท่องเที่ยวประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง