สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่งผลให้ประชาชนสหรัฐหันมาทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ประชาชนได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและมีการทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวมากขึ้น
ซึ่งกิจกรรมการดูการ์ตูนมาราธอนเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงในสหรัฐ
จากการเปิดเผยข้อมูลที่รวบรวมโดยแอพพลิเคชั่น “Reelgood” ซึ่งเป็นศูนย์รวมด้านสตรีมมิ่งของสหรัฐรายงานว่า ประเภทสตรีมมิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การ์ตูนอนิเมชั่น เพิ่มขึ้น 22% หลังจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ทั้งนี้ปัจจุบันในตลาดสหรัฐ มีผู้ประกอบการในธุรกิจนี้หลายราย
อาทิ Amazon
Prime, Netflix, YouTube, Disney+ และ Apple TV+ ซึ่งแต่ละบริษัทมีจุดแข็งที่ต่างกัน เช่น Amazon Prime และ Netflix ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งที่เข้าถึงทุกช่วงวัย
และมีความหลากหลาย ขณะที่ Disney+ ผลิตและสร้างสื่อที่มีลิขสิทธิ์
เป็นต้น
ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตสื่อและความบันเทิงตื่นตัว
โดยส่วนหนึ่งต้องหันมาผลิตสื่อจากที่บ้าน
เพื่อรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากความสะดวกที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกเข้าชมและใช้บริการเมื่อไรที่ใดก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น Netflix
บริษัทสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ ได้หันมาผลิตสื่อจากที่บ้าน
ทำให้การทำงานของสตูดิโอทำงานได้ง่ายขึ้น
และด้วยความที่เป็นบริษัทที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีทำให้สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีความหลากหลายจากทั่วโลก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ประจำไมอามี่ ประเทศสหรัฐฯ ประเมินว่า แนวโน้มความนิยมการ์ตูนอนิเมชั่นจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
และสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูงเป็นอันดับ 1ของโลก ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดสินค้าอนิเมชั่นของไทยไปยังสหรัฐฯ
เนื่องจากไทยถือเป็นประเทศมีจุดแข็งในการผลิตการ์ตูนอนิเมชั่น
เช่น ก้านกล้วย ครุฑ ปังปอน์ และ 9 ศาสตรา เป็นต้น
ซึ่งจะสามารถต่อยอดและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายได้ไม่ยากนัก โดยอาศัยการนำเสนอข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์
และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอนิเมชั่นในสหรัฐ ซึ่งในแต่ละปีมีการจัดงาน Kidscreen
ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP ) เปิดเผยว่า
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงโควิด-19 ทำให้ประเทศต่างมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้
แต่ทางกรมฯ ได้ปรับกลยุทธ์โดยการจัดกิจกรรมแสดงสินค้าเทศกาลภาพยนตร์และตลาดซื้อขายคอนเทนต์ในรูปแบบเสมือนจริง
หรือ MOVE.DITP.GO.TH ระหว่างวันที่ 25 – 27 พฤษภาคม
ที่ผ่านมา เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาพบปะกันเสมือนได้เข้ามาอยู่ในงานแสดงสินค้าจริง
พร้อมทั้งส่งเสริมให้เข้าถึงข้อมูลและสร้างความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการทั้งภาพยนตร์ แอนิเมชั่น คาแร็คเตอร์ มาจัดแสดงสินค้า บริการ และผลงาน ได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์แบบ One-on-One กับผู้นำเข้าทั่วโลก ตามการใช้วิถีชีวิตรูแบบใหม่ หรือ New Normal ทำให้เกิดเจรจาการค้าออนไลน์ 354 คู่ มีมูลค่าการสั่งซื้อ 1,400 ล้านบาท
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<
ตลาด Digital Content ในญี่ปุ่น
Gen Alpha-Gen Z ยุคนี้เขาสนใจอะไรกัน?