เชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้ร้ายต่อทั่วโลกได้รับผลกระทบถ้วนหน้าทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจอย่างมากมายมหาศาล
แต่โควิด 19 กลับส่งผลดีกับสตาร์ทอัพในอเมริกา โดยหนังสือพิมพ์ The New York Times ได้เผยแพร่ผลการศึกษาว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้ช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ในแบบที่ไม่สามารถทำได้ในสภาวะปกติ
ซึ่งแม้ว่าจะประสบปัญหาด้านสุขภาพและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
แต่กิจกรรมทางธุรกิจของสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ กลับเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยยะสำคัญ
นอกจากในสหรัฐฯ จำนวนธุรกิจใหม่ในชิลี ตุรกี และสหราชอาณาจักร ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ในบางประเทศ เช่น โปรตุเกส รัสเซีย กลับไม่คึกคักนัก โดยมีตัวเลขลดลงถึง 1 ใน 4 ขณะที่ประเทศจีน การก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น 3% ในสามไตรมาสแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19
เศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ในภาวะถดถอยของการก่อตั้งธุรกิจมานานนับสิบปี
แม้จะมีหลายธุรกิจใหม่ใน Silicon Valley ที่ประสบความสำเร็จและมีผลงานโดดเด่น
แต่อัตราการเริ่มต้นบริษัทใหม่ๆ ของชาวอเมริกันกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ผลการศึกษาซึ่งเผยแพร่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยนักวิจัยจาก Peterson
Institute for International Economics พบว่า ธุรกิจสตาร์ทอัพมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก
3.5 ล้านรายในปี 2562 เป็น 4.4 ล้านรายในปี 2563 คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 24% นับเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตรงข้ามกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในครั้งก่อนที่จำนวนธุรกิจสตาร์ทอัพลดลง
เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการยื่นขอความช่วยเหลือด้านเงินทุน นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าสหรัฐฯ
แตกต่างจากประเทศร่ำรวยอื่นๆ
ที่กิจกรรมของธุรกิจสตาร์ทอัพเริ่มลดลงเมื่อปีที่แล้วหรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ เติบโตเป็นอย่างมาก ก็คือเงินสนับสนุนจากรัฐบาลมูลค่าล้านล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับครัวเรือนและธุรกิจ
ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือมูลค่ามหาศาลมากกว่าช่วงเศรษฐกิจถดถอยในอดีต และยังมีจำนวนสูงกว่าประเทศอื่นๆ
ทั่วโลกในการให้เงินช่วยเหลือสตาร์ทอัพประเทศตัวเองด้วย
“นี่เป็นภาวะถดถอยครั้งแรกในช่วง 50 ปี ที่เรามีเงินทุนมากกว่าช่วงก่อนวิกฤต ขณะที่การขยายตัวของกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ
จะช่วยทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 15.5%” Simeon Djankov หนึ่งในทีมผู้ร่วมทำวิจัยกล่าวในรายงานผลการศึกษา
การเติบโตเพิ่มขึ้นสูงสุดในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการให้เช่าคลังสินค้า
สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอีคอมเมิร์ซในช่วงการระบาดของโควิด 19 นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
รายงานดังกล่าวนำข้อมูลมาจากผลสำรวจของสำนักสำรวจสำมะโนประชากร
โดยได้นิยามความเป็นผู้ประกอบการแบบกว้างๆ เอาไว้
ครอบคลุมตั้งแต่ฟรีแลนซ์แบบไม่เต็มเวลา
ไปจนถึงมหาเศรษฐีที่ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยี ธุรกิจบางอย่างอาจจะเป็นมากกว่างานเสริมที่ผู้คนเริ่มทำ
ในช่วงต้องกักตัวอยู่ที่บ้านตามประกาศล็อกดาวน์
2 ปัจจัยตัวช่วยสร้างธุรกิจใหม่?
1. พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปในช่วง COVID-19
ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ เช่น ในสหราชอาณาจักร 20% ของธุรกิจใหม่ที่สร้างขึ้นในไตรมาสที่สามของปี 2020 เป็นธุรกิจค้าปลีก ซึ่งการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกรายใหม่สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของการช้อปปิ้งออนไลน์ช่วง
COVID-19 โดยยอดขายทางอินเทอร์เน็ตมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก
19% เป็น 33%
ในเดือนพฤษภาคม 2020
2.
กระบวนการเริ่มต้นธุรกิจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ขั้นตอน - ระเบียบในการดำเนินการจัดตั้งธุรกิจลดลง สัมพันธ์กับนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤต
COVID-19
แหล่งอ้างอิง : ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสหรัฐอเมริกา
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<