‘e-Commerce ข้ามแดน’ ณ กว่างซี ทางเลือก SME ไทย รุกตลาดจีน
โควิด 19 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจวงกว้างทั่วโลก
ภาคธุรกิจจึงต้องเอาตัวรอดด้วยการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะธุรกิจ SME ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากกำลังซื้อของตลาดภายในประเทศลดลง
ซึ่งการมองหาตลาดต่างประเทศจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โดย ‘ประเทศจีน’ คือตลาดที่น่าสนใจ ซึ่ง ‘พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดน’ (Cross-border e-Commerce : CBEC) เป็นช่องทางที่น่าสนใจที่ธุรกิจไทยสามารถใช้ทดลองเพื่อดูผลตอบรับในตลาดจีน และเมื่อสินค้านั้นได้รับการยอมรับในโลกออนไลน์แล้ว ยังสามารถเป็นการปูทางเพื่อขยายฐานลูกค้าออฟไลน์ในร้านค้าทั่วไปต่อไปได้อีกด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สำหรับ Cross-Border
e-Commerce เป็นนโยบายที่รัฐบาลจีนใช้สนับสนุนให้ผู้ค้าจากทั่วโลกนำสินค้าไปขายในจีนได้ง่ายขึ้น
แต่จำกัดเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับ Normal Trade จะพบว่า ช่องทาง CBEC เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ SME อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องที่ไม่ต้องมี Import License ไม่ต้องมีฉลากสินค้าที่เป็นภาษาจีน ไม่ต้องจดแจ้ง อย.จีน
และศุลกากรเข้มงวดน้อยกว่า Normal Trade
เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ธุรกิจ CBEC
มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะรัฐบาลกลางได้ให้นโยบายส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจ
CBEC ของกว่างซีที่ ‘เขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี)’
โดยพื้นที่ย่อยนครหนานหนิง (Nanning Sub-are) และเมืองฉงจั่ว (Chongzuo Sub-are)
ได้รับอนุมัติให้เป็นเขตนำร่องพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดนแบบครบวงจรระดับประเทศ
(Comprehensive Pilot Zones for Cross-border e-Commerce) และพื้นที่ย่อยเมืองชินโจว (Qinzhou
Sub-are)
ได้รับอนุมัติเป็นจุดทดลองการนำเข้าเพื่อค้าปลีกในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดน (Retail
Imports in Cross-border e-Commerce)
จากข้อมูลพบว่า ช่วง 6 เดือนแรก ปี 2564
เขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) พื้นที่ย่อยนครหนานหนิง และเมืองฉงจั่ว
มีมูลค่าการค้า CBEC จำนวน 3,433 ล้านหยวน ขยายตัวสูงถึง 508.9%
ธุรกิจที่เปิดดำเนินธุรกิจ CBEC
ในเขตทดลองฯ สามารถทำการค้าทั้งในรูปแบบธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) และธุรกิจสู่ธุรกิจ (B2B) ผ่านแพลตฟอร์ม CBEC ทุกประเภท
แพลตฟอร์มที่เป็นที่รู้จัก เช่น Tmall Global ของ Alibaba
Grope หรือ JD Worldwide ของ JD.com โดยธุรกิจจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากสำนักงานศุลกากร
และสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านที่ตั้งของคลังสินค้าทัณฑ์บน
รวมถึงระบบงานขนส่งและโลจิสติกส์ที่ทันสมัย
CBEC โอกาส SME ไทย
ปัจจุบัน LAZADA แพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ได้เข้าไปจัดตั้งใน ‘ศูนย์บริการนวัตกรรมอีคอมเมิร์ซข้ามแดน’
ในเขตทดลองฯ พื้นที่ย่อยนครหนานหนิง เพื่อพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ CBEC บ่มเพาะนักขาย CBEC การไลฟ์สด (Live
Streaming)
ขณะที่การฝึกอบรมให้ธุรกิจ CBEC
ได้ร่วมมือกับบริษัท Cainiao ผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ในเครือ
Alibaba ในโครงการศูนย์โลจิสติกส์อาเซียน (หนานหนิง)
เพื่อรองรับธุรกรรมการค้าระหว่างกว่างซี (จีน) กับประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย
ซึ่งธุรกิจ SME ไทยสามารถแสวงหาความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดังกล่าวในการพัฒนาตลาดจีน-อาเซียนได้
ส่วนการขนส่งสินค้า CBEC
นั้น SME ไทย สามารถเลือกใช้วิธีการขนส่งได้ในทุกมิติ
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564 บริษัท Guangxi Tianhang Internatinal Supply-Chain Co.,Ltd ได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินคาร์โก้ในเส้นทาง
‘นครหนานหนิง-กรุงเทพฯ’
โดยสินค้าหลักที่ขนส่งมาที่กรุงเทพฯ ได้แก่ สินค้าที่ซื้อขายบนแพลตฟอร์ม CBEC
และสินค้าทั่วไป ส่วนสินค้าที่ขนส่งกลับไปนครหนานหนิง
ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล ปลาสวยงาม ดอกกล้วยไม้ และพืชผัก
นอกจากนี้ธุรกิจ SME
ไทย ยังสามารถใช้รูปแบบการขนส่งทางทะเลระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง/ท่าเรือกรุงเทพฯ
- ท่าเรือชินโจวของกว่างซี หรือการขนส่งด้วยรถบรรทุกผ่าน สปป.ลาว และเวียดนาม
ไปเข้าที่ด่านโหย่วอี้กวาน ซึ่งมีช่องทางพิเศษ (Green Lane)
ไว้คอยอำนวยความสะดวกสำหรับสินค้า CBEC ด้วย
‘กว่างซี’
คือช่องทางและโอกาสใหม่ที่ผู้ส่งออกไทยในการส่งสินค้าแบรนด์ไทยบุกตลาดจีน (ตอนใน)
เพราะ SME สามารถใช้ประโยชน์จุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งใกล้ไทย
ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และความสะดวกรวดเร็วในงานขนส่ง-โลจิสติกส์ ที่สำคัญยังเป็นตลาดใหม่ที่ยังมีคู่แข่งไม่มาก
มีโอกาสเติบโตสูง
แหล่งอ้างอิง :
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง