นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนฮ่องกงมีจุดหมายปลายทาง
3 อย่าง คือ เที่ยว ช้อปกับชิมเป็นภารกิจหลัก เพราะเมืองเล็ก ๆ
แห่งนี้เป็นที่รวมเหล่าสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วทุกมุมโลกมาปรนเปรอนักช้อป ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนจะมีแต่ศูนย์การค้า ร้านค้าและร้านอาหารให้เดินเลือกซื้อสินค้าและกินอาหารได้ทุกมุมเมือง
แต่วันนี้จะแนะนำสถานที่ unseen ของฮ่องกง เป็นสถานที่ที่แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปสนใจไปเยือนมากนัก แต่ถ้าเป็นบรรดาเชฟอาหารจีนหรือแม่บ้านทำอาหารแล้ว เมื่อได้ยินชื่อ... DRIED SEAFOOD MARKET จะเปลี่ยนเป็นอาการตาลุกวาวขึ้นทันที
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
DRIED SEAFOOD MARKET หรือตลาดขายของทะเลแห้ง ตั้งอยู่ถนน Des Voeux Road West ย่านชุนวาน SHEUNG WAN ผู้เขียนคิดว่าน่าจะเป็นแหล่งขายสารพัดวัตถุดิบทะเลตากแห้งที่ใหญ่ที่สุด
สองฟากถนนเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีสารพัดอาหารทะเลตากแห้งเต็มร้านเรียงรายตั้งแต่หัวถนนจดปลายถนน
เรียกได้ว่ามาที่นี่แห่งเดียว เชฟสามารถทำอาหารจีนตั้งแต่จานด่วนไปจนถึงโต๊ะจีนระดับฮ่องเต้ได้มื้อใหญ่เลย
พื้นเพเดิมก่อนที่ฮ่องกงจะกลายมาเป็นมหานครใหญ่ในเอเชียเช่นปัจจุบันนี้
ในอดีตเกาะเล็ก ๆ
แห่งนี้เคยเป็นเมืองชายทะเลที่มีชาวประมงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยมีอาชีพหลักคือจับปลาจับกุ้งจากท้องทะเลและนำมาตากแห้งเป็นปลาเค็ม และกุ้งแห้ง หรือนำกุ้งมาหมักกับเกลือเพื่อทำ
‘กะปิ’ โดยวิธีการทำกะปินี้ก็ได้รับอิทธิพลมาจากชาวโปรตุเกสที่เข้าไปปกครองมาเก๊านั้นเอง
พอถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 20
กะปิของชาวประมงในเกาะฮ่องกงก็เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่ต้องการมากขึ้นจนกลายเป็นการผลิตแบบอุตสาหกรรม
แต่ในเวลาต่อมาลูกหลานชาวประมงรุ่นใหม่ไม่สนใจสืบสานงานประมงจากครอบครัว ต่างพากันทิ้งบ้านเกิดไปทำงานตามเมืองใหญ่ ๆ
ในที่สุดอุตสาหกรรมกะปิและอาหารทะเลแห้งก็ลดจำนวนลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตามที่ถนน Des Voeux Road West
ก็ยังคงสืบสานอาชีพประมงสืบต่อมา
เมื่อก่อนบ้านเรือนชาวประมงแต่ละหลังในย่านนี้มีลักษณะเหมือนร้านแผงลอย ชาวบ้านจะนำปลาทะเลที่จับได้ขึ้นไปตากแดดบนหลังคาบ้าน
และใช้พื้นที่หน้าบ้านสำหรับขายปลาเค็มแห้ง กุ้งแห้ง และตัวบ้านก็ใช้เป็นที่ซุกหัวนอน
ต่อมาเศรษฐกิจดีขึ้นนอกจากกุ้งแห้ง ปลาเค็มแล้ว
ลูกค้ายังต้องการอาหารทะเลแห้งชนิดอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ DRIED SEAFOOD MARKET พัฒนาเป็นแหล่งขายอาหารทะเลตากแห้งที่นำเข้าจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลกมารวมกันไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นกังป๋วย หรือ หอยเชลล์แห้ง
จากฮอกไกโด ที่เชฟนำไปใช้ตุ๋นกับซุปเพื่อเพิ่มความหวานหอม , หอยเป๋าฮื้อ จากอโอโมริ
อิวาเตะ แทสมาเนีย เม็กซิโก , กระเพาะปลา
จากมหาสมุทรอินเดีย ปากีสถาน ทะเลจีนใต้
ไม่เพียงแต่อาหารทะเลแห้งเท่านั้น
ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมสมุนไพรและวัตถุดิบที่เสริมพลังบำรุงสุขภาพ เช่น เห็ดชิตาเกะ
รังนก ปลิงทะเล เก๋ากี้ โสม สาหร่ายเส้นผม กุนเชียง หอยแมลงภู่แห้ง ฯลฯ.
ในช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีนนั้น DRIED SEAFOOD MARKET
จะคึกคักมากเป็นพิเศษจนต้องขยายตลาดขายสินค้าล้นออกไปยังถนนใกล้เคียง เรียกได้ว่าคนมาเยอะจนตลาดแทบแตก
นอกจากเหล่าเชฟตามภัตตาคารทั้งในฮ่องกงและต่างประเทศจะมาเดินซื้อของแห้งเพื่อไปทำอาหารในเทศกาลตรุษจีนแล้ว บรรดาแม่บ้านต้องหอบตะกร้ามาจับจ่ายของแห้งเพื่อนำไปปรุงอาหารพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองกับครอบครัวในวันพิเศษนี้ด้วย
จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ทุกครั้งที่มีโอกาสมาที่ฮ่องกงก็จะแวะมาเดินหาซื้อวัตถุดิบในตลาดนี้เพื่อนำไปปรุงอาหารที่บ้าน ซึ่งมีราคาตั้งแต่ถูกไล่จนถึงแพงมาก
ทุกอยางมีป้ายติดราคาไว้ให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาถามและไม่ต้องเสียเวลาต่อรองราคา ถ้าให้เทียบกับเยาวราชนั้น
ผู้เขียนคิดว่าตลาดนี้มีของให้เลือกมากกว่าเยอะ
สำหรับผู้เขียนคิดว่ากุ้งแห้งเมืองไทยสวยและดีไม่แพ้ของฮ่องกง
ส่วนปลาเค็มนั้นแนะนำว่าควรซื้อไปอย่างยิ่ง เพราะทำข้าวผัดหรือผัดผัก รสชาติหอมละมุนอร่อยมาก
แนะนำของดีที่ DRIED SEAFOOD MARKET อาทิ กังป๋วย มีตั้งแต่ขนาดตั้งแต่ นิ้วก้อย ไปจนถึงเหรียญสิบบาท สนนราคาชั่งละ ( 600 กรัม) 100 – 1,350 HKD ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการซื้อไปทำอะไร ถ้าซื้อไปทำอาหารกินในบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องขนาดใหญ่นัก แต่ต้องเลือกที่แห้งสนิทและไม่มีเชื้อรา ปลิงทะเล ราคาชั่งละ 800 – 10,000 HKD มาจากญี่ปุ่นจะมีราคาแพงที่สุด ส่วนหอยเป๋าฮื้อ ราชาแห่งท้องทะเล ที่ตลาดแห่งนี้ใส่โชว์ในโหลแก้ว มีตั้งแต่ตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่ราคาชั่งละ 20,000 HKD หรือกิโลละเกือบแสนบาท
ใครสนใจจะแวะไปช้อปหรือไปเดินเล่น ๆ ก็ไปไม่ยาก ขึ้น MRT Line Blue ฝั่งฮ่องกง ไปขึ้นที่สถานี Sheung Wan station, exit A1.แล้วเดินไปทาง Queen's Street แต่ขอแนะนำให้นั่งรถราง Tram จะได้ดูบ้านเมืองสองฟากได้อย่างสนุกสนาน และค่าโดยสารก็ไม่แพงเพียง 2.7 HKD เท่านั้น รถรางจะผ่านกลางตลาดนี้เลย แค่ได้กลิ่นของทะเลแห้งที่โชยเข้าจมูก ก็เตรียมลงรถได้เลย