แพ็กเกจจิ้งรักษ์โลก มองโอกาสตลาดอาเซียนกระแสแรง

เทรนด์รักษ์โลกเเละการลดใช้พลาสติกที่กำลังเเพร่หลายในขณะนี้ ทำให้บรรดาผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต้องปรับตัว เพื่อตอบสนองให้ทันความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา อาทิ อินเดีย อินโดนีเซีย และบราซิล โดยผู้บริโภคเหล่านี้ยอมจ่ายเพิ่ม เพื่อให้ได้ใช้ของที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีมูลค่าส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2564 รวม 844.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.2% รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ

ขณะที่ ไทยส่งออกไปประเทศสหรัฐฯ 123.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.8% สัดส่วน 14.6%, ญี่ปุ่น 122.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.6%, เวียดนาม 78.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6%, อินโดนีเซีย 72.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.9% และจีน 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2% 

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ทำไมไทยจึงเป็นผู้ส่งออกแพ็กเกจจิ้งรักษ์โลกรายได้ดี ?

จุดแข็งของไทย คือมีความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักอย่างเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

โดยการค้าบรรจุภัณฑ์โลกในไตรมาสแรกของปี 2564 มีมูลค่า 110,985.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 57,813.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% และการนำเข้ามูลค่า 53,172.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% ผู้ส่งออกและนำเข้าสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และจีน

ทั้งนี้ยังคาดว่ามูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์โลกจะขยายตัว 7.5% ต่อปี ระหว่างปี 2562-2570 ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรเตรียมความพร้อมในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อช่วงชิงโอกาสทางการค้าและส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโต โดยปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัยเพิ่มขึ้น

บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก กับกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ผู้ประกอบการควรรู้

ผู้ประกอบการใดที่นำวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ธรรมชาตินำมาบรรจุอาหาร บรรจุสิ่งของ ถือเป็นการเพิ่มจุดขาย จุดต่างของสินค้าให้มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะตอบสนองต่อความต้องการด้านการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมอย่างยั่งยืนและยาวนานอีกด้วย

ดังนั้นเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยด้านอาหารและสุขอนามัยเพิ่มขึ้น มีกลยุทธ์ด้านการตลาดสำหรับบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่น่าสนใจดังนี้

1. การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ที่ออกแบบให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์เหมาะสมกับตัวสินค้า สามารถสร้างการจดจำทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์สินค้าได้ง่ายขึ้น

2. สามารถนำบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมากระตุ้นยอดขาย ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น นำบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาแลกซื้อสินค้าในราคาประหยัด

3. การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของผู้ประกอบการ ทำให้แบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับและสินค้าได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น

4. ฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ผู้ประกอบการได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถสร้างภาพลักษณ์และคุณค่าใช้แบรนด์และสินค้าเป็นอย่างดี

5. บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดราคาสินค้า เพื่อใช้สู้กับคู่แข่งทางด้านการตลาดได้

บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ถือเป็นแนวโน้มที่โดดเด่นของบรรจุภัณฑ์ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่คำนึงถึงสุขอนามัยและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ดังนั้นผู้ประกอบการไทยควรก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อสร้างจุดแข็งทางการตลาด และคว้าโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ นอกจากจะสร้างความยั่นยันให้ธุรกิจยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคอีกด้วย

แหล่งอ้างอิง : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

https://www.prachachat.net/

https://www.mreport.co.th/

https://www.dailynews.co.th/