การผลักดันให้นครแฟรงก์เฟิร์ต มีความโดดเด่นจากการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การธนาคาร การเดินทางและการขนส่งทางอากาศแล้ว รัฐ Hessen ยังหวังผลักดันให้เป็นฮับด้าน AI ด้วยคําขวัญ “ AI made in Hessen”
โดยก่อนหน้านี้ รัฐ Hessen ได้มอบงบประมาณมากกว่า 10 ล้านยูโร เพื่อให้มหาวิทยาลัย บริษัทเอกชน และสถาบันวิจัยร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ ๆ รวมถึงมีข้อเสนอให้ฟื้นฟู Tech Campus เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ให้เพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้แก่นครแฟรงก์เฟิร์ตจะยังคงเป็นอุตสาหกรรมการเงิน การธนาคาร และบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีการจ้างงานเป็นจํานวนมาก อาทิ ธนาคาร Deutsche ธนาคาร Commerz ท่าอากาศยานนครแฟรงก์เฟิร์ต และบริษัท Sanoff ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส แต่จากการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ทําให้ธุรกิจรูปแบบเดิมมีขนาดเล็กลง ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหลักมีจํานวนมากขึ้น และในอนาคตการจ้างงานรูปแบบเดิมจะลดลงและใช้ AI ทํางานแทนมนุษย์มากขึ้น
รัฐ Hessen ต้องการปรับโฉมนครแฟรงก์เฟิร์ตให้เป็น AI Hub ระดับนานาชาติ เนื่องจากเห็นตัวอย่าง ของ Arago บริษัทออกแบบและพัฒนา AI ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด รวมไปถึงธุรกิจสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI เป็นหลัก ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มให้บริการออนไลน์และบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาทิ Clark บริษัทนายหน้า ประกันภัย Crowddesk บริษัทบริการให้คําแนะนําการลงทุน Emma บริษัทขายที่นอน และ Minds Medical บริษัทให้บริการออกใบเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาล ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทที่อยู่ตั้งอยู่ในนครแฟรงก์เฟิร์ต
นครแฟรงก์เฟิร์ตมีศักยภาพพื้นฐานในการพัฒนาเป็น AI Hub ในอนาคต เนื่องจากมีจํานวนศูนย์ด้าน IT ขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยในการดําเนินงานเป็นจํานวนมาก อาทิ ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเตอร์เน็ต DE-CIX (Deutsche Commercial Internet Exchange) ที่ถือเป็นศูนย์ฯ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และศูนย์ข้อมูล E-Shelter ที่เป็น Hub ของ Data Center ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ประมาณกลางปี ค.ศ. 2016 นครแฟรงก์เฟิร์ตได้จัดตั้ง TechQuartier เพื่อให้กลุ่มสตาร์ทอัพ ทํางานร่วมกันในลักษณะ Co-Working Space และเพื่อให้บริษัทเอกชน นักลงทุน นักออกแบบและพัฒนา มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่กลุ่มสตาร์ทอัพด้วย
โดยปัจจุบัน TechQuartier มีกลุ่มสตาร์ทอัพประมาณ 90 บริษัท มูลค่าเงินทุนประมาณ 1 พันล้านยูโร โดยส่วนใหญ่ทำธุรกิจด้าน Fintech ร้อยละ 44 ด้านอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 10 นอกจากนั้นมีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การออกแบบซอฟท์แวร์และเว็บไซต์ บิ๊กดาต้าและการวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม และสื่อโฆษณา เป็นต้น
ทั้งนี้ การเกิดขึ้นของ AI ส่งผลให้ภาคเอกชนในเยอรมณีหลายสาขา โดยเฉพาะสาขาการเงินและการธนาคาร จําเป็นต้องปรับตัวอย่างเป็นพลวัต เพื่อให้สามารถดํารงธุรกิจอยู่ได้ภายใต้การเกิดขึ้นของธุรกิจ Fintech จํานวนมาก ดังเช่น ในกรณีของบริษัท Wirecard ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจนกลายเป็นผู้ให้บริการทางการเงินอันดับหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ของเยอรมณีได้ภายในระยะเวลาไม่นาน แทนที่ธนาคาร Deutsche และธนาคาร Commerz ก็นับเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
อ้างอิง : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333