กระตุ้นเศรษฐกิจ! เร่งส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-อินเดียปี 2564

SME Go Inter
18/12/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 1582 คน
กระตุ้นเศรษฐกิจ! เร่งส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-อินเดียปี 2564
banner

ในช่วงปลายปี 2562 มีการประเมินว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มหลักที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย รองจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีน โดยในปี 2561 มีท่องเที่ยวจากอินเดียมาเยือนประเทศไทยถึง 1.6 ล้านคน มากเป็นอันดับ 6 รองจากนักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ สปป.ลาว และญี่ปุ่น ขณะที่ปี 2562 มีจำนวน 1.8 ล้านคน ทำให้ยิ่งน่าจับตาแม้ในขณะนี้นักท่องเที่ยวอินเดียอาจยังเทียบกับนักท่องเที่ยวจีนไม่ติด แต่ในอนาคตนี่จะเป็นกลุ่มหลักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย ซึ่งประมาณการณ์ว่าจะมีถึง 14 ล้านคนในปี 2573

อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบแล้วว่าภายใต้สถานการณ์ระบาดของโควิด 19 ทำให้การท่องเที่ยวในปีนี้ทุกประเทศทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แม้ตอนนี้จะมีข่าวดีเรื่องความสำเร็จในการผลิตวัคซีนและเริ่มฉีดให้กับประชาชนบางประเทศได้บ้างแล้ว แต่การท่องเที่ยวอาจต้องใช้เวลาในการเยียวยาอีกระยะหนึ่ง

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ทั้งนี้มีข้อมูล รายงานการประชุมด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในอินเดีย ที่ถกประเด็นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ตลอดปี 2563 และหารือเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในปี 2564 เพื่อให้การดำเนินงานมีการบูรณาการและสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยประเด็นปัญหาและอุปสรรคของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงนิวเดลีในปี 2563 มีดังนี้  

1. การปิดสนามบินระหว่างประเทศทั้งของไทยและอินเดีย แม้ว่าอินเดียจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการให้มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ ภายใต้ความตกลงทวิภาคีแบบ Air Transport Bubble กับ 21 ประเทศ และไทยอนุญาตให้ชาวอินเดียสามารถขอวีซ่าบางประเภท เพื่อเดินทางเข้าไทยมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในปัจจุบันยังไม่มี Air Transport Bubble ระหว่างไทยกับอินเดีย จึงยังไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างกัน  

2. การกำหนดให้ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย ต้องกักตัวในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) เป็นเวลา 14 วัน กระทบต่อการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม leisure ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาท่องเที่ยวประมาณ 5-6 วัน อย่างไรก็ตามเสียงสะท้อนจากเอเย่นต์ท่องเที่ยวแสดงว่า ชาวอินเดียยังคงชื่นชอบและอยากไปประเทศไทย แต่ติดปัญหาอุปสรรคดังกล่าวข้างต้น

ขณะที่นโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำหรับอินเดียในปี 2564 คือรักษาตลาดและส่งเสริมความนิยมการท่องเที่ยวไทยให้อยู่ในกระแส โดยจะเน้นการประชาสัมพันธ์หรือการจัดกิจกรรมออนไลน์ โดยมีกิจกรรมหลักในรูปแบบเดิมลดลง อาทิ การจัดงานลอยกระทงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ที่กรุงนิวเดลี โดยมีผู้เข้าร่วมงาน 100 คน ได้แก่ เอเยนต์ท่องเที่ยว สื่อมวลชน สายการบิน และอื่น ๆ งานได้รับการตอบรับที่ดีมาก และไทยยังอยู่ในความสนใจของนักท่องเที่ยวอินเดีย

และในปี 2564 มีแผนจะจัด road show เพื่อพบเอเย่นต์ท่องเที่ยว ณ เมืองกัลกัตตา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และร่วมจัดซุ้มไทยกับสถานกงสุลใหญ่ในงาน Travel and Tourism Fair เดือนสิงหาคม 2564 ณ เมืองกัลกัตตา เช่นเดียวกัน เพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประเทศไทยคงอยู่ในกระแสความนิยมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา แจ้งว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งชาวอินเดียสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยว (TR) ได้แล้วตั้งแต่ 2 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา โดยไม่ต้องพิจารณาเรื่องประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันอินเดียอยู่ในกลุ่มประเทศความเสี่ยงกลาง

นอกจากวีซ่าแล้ว จะต้องมี Certificate of Entry (COE) และผ่านเงื่อนไขอื่นๆ อาทิ มีเงินฝากสกุลท้องถิ่นเทียบเท่าไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หรือประมาณ 1.2 ล้านรูปี ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เอกสารการจองที่พัก ASQ และประกันสุขภาพรวมการรักษาโควิด 19 มูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ และปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นๆ ด้วย โดยจะพำนักในไทยไม่เกิน 60 วัน

นอกจากนี้ทางการไทยยังอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติไปประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจ ทั้งกรณีวีซ่ายังไม่หมดอายุ (ทั้ง single entry หรือ multiple entries) และกรณีขอใหม่ โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางการไทยกำหนดด้วย นอกจากนี้สถานกงสุลใหญ่ได้เริ่มใช้ระบบ COE Online ของกระทรวงฯ เพื่อให้คนไทยและคนต่างชาติสามารถยื่นคำร้องออนไลน์ได้โดยตรง

 

แหล่งอ้างอิง : สถานกุงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา 



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ตลาดทองคำและเครื่องประดับทองอินเดียได้ไปต่อ?

อินเดียกำลังขาดแคลนโกโก้และผลิตภัณฑ์


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

ตลาดอาหารวีแกน เทรนด์โลก โตแรง! โอกาสทองของผู้ส่งออกไทย ที่ต้องรีบคว้า

เทรนด์การรับประทานอาหารแบบเนื้อไร้เนื้อ ยังคงเป็นแนวโน้มการบริโภคที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  จากกระแสการหันมาดูแลสุขภาพ…
pin
7761 | 17/01/2023
ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ไทย หนึ่งในเป้าหมาย! จีนเล็งลงทุนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวไวได้ประโยชน์มหาศาล

ขณะนี้ โลกของเราได้เข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy : DE) ซึ่งหลอมรวมเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คน ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลได้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย…
pin
2507 | 21/12/2022
โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

โอกาสมาแล้ว! ดีมานด์มันสำปะหลังจีนโตแรง เกษตรกรไทยลุยรุกส่งออกแดนมังกร ชิงส่วนแบ่งตลาดก้อนยักษ์

อีกหนึ่งโอกาสเกษตรกรไทย! คาดการณ์ความต้องการมันสำปะหลังช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดทั้งปีไทยส่งออกกว่า 11 ล้านตัน…
pin
5735 | 23/10/2022
กระตุ้นเศรษฐกิจ! เร่งส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-อินเดียปี 2564