ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบเรื่อง ‘ตด’ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ
แต่มนุษย์ก็หลีกเลี่ยงเรื่องตดไม่ได้ ทั้งนี้ทางการแพทย์ระบุว่ามนุษย์ต้องตดเฉลี่ยวันละ
10-20 ครั้ง ดังนั้นขอให้ทำใจเถอะว่าตดเป็นเรื่องธรรมชาติ
“ตด” หรือภาษาที่สุภาพหน่อยเรียกว่า “ผายลม”
คืออาการที่ลมระบายออกมาทางทวารหนัก สาเหตุของการตดเกิดจากแก๊สที่สะสมในระบบย่อยอาหาร เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายอาหารไปเป็นพลังงานของร่างกาย
แต่ถ้าใครชอบตดบ่อยๆ อาจเกิดจากการรับประทานอาหารบางชนิดที่ทำให้เกิดแก๊สมาก
เช่น อาหารจำพวกโปรตีนสูงพวกเนื้อสัตว์ ไข่ พืชตระกูลถั่ว ผักที่มีเส้นใยสูง หรือผักบางจำพวกทำให้ตดมีกลิ่นรุนแรง
เช่น คะน้า กะหล่ำปลี รวมถึงผักที่มีกลิ่นแรง นอกจากนี้การกลืนอากาศซึ่งเกิดขึ้นจากการเคี้ยวอาหาร
หายใจ สูบบุหรี่ ซึ่งแก๊สเหล่านี้ต้องหาที่ระบายออกถ้าตีขึ้นข้างบนจะกลายเป็นเรอ
แต่ถ้าลมตีลงล่างก็เรียกว่าตด
การตดตลอดทั้งวันในปริมาณที่พอดี จะช่วยระบายแก๊สที่สะสมอยู่ในร่างกายที่อาจทำให้ท้องอืดได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ตดระบายแก๊สออกไปจะทำให้รู้สึกสบายท้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ตดมากตดน้อย ตดมีกลิ่นเหม็น อาการเหล่านี้ยังเป็นสัญญาณเตือนให้เรารู้ว่าอวัยวะภายในมีความผิดปกติอย่างไร และหากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับอาการทางเดินอาหารอื่นๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนก็ได้ว่าคุณกำลังมีอาการผิดปกติในระบบการย่อย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ตด
6 ประเภทที่ส่งสัญญาณเตือนภัยต่อร่างกาย รีบเช็คด่วน
1.
ตดเพราะท้องผูก :
เรามักได้ยินว่าการกินผักมีประโยชน์ต่อร่างกาย
แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความพอดีด้วย คนรักสุขภาพที่ชอบกินผักเป็นอาหารหลักทุกมื้อนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพเสียแล้ว
วารสารขององค์การอนามัยโลกตีพิมพ์บทความเมื่อปี 2019 กล่าวว่าควรบริโภคใยอาหาร 25
ถึง 29 กรัมในแต่ละมื้อจึงเหมาะสมที่สุด การที่ร่างกายได้รับไฟเบอร์จากผักในปริมาณที่สูงอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารได้
เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ทำให้เกิดแก๊สมากในระบบการย่อย วิธีแก้ไขคือเมื่อทานผักเยอะๆ
ก็ควรดื่มน้ำเยอะด้วย
2. ตดจากเครื่องดื่มน้ำอัดลม : เวลาอากาศร้อนๆ คนส่วนมากชอบดื่มน้ำอัดลมเย็นๆ
จะช่วยคลายร้อน แต่น้ำอัดลมประกอบด้วยกรดคาร์บอนิก ซึ่งทำให้น้ำอัดลมซ่า มีฟอง เป็นตัวผลิตแก๊สในลำไส้
นอกจากนี้เบียร์ โซดา
และน้ำแร่อัดแก๊สก็อยู่ในประเภทเครื่องดื่มน้ำอัดลมด้วย
ผลเสียของการดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊สมากๆ จะทำให้คุณตดได้ทั้งวันทั้งคืน
ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างได้
3. ช่วยด้วย! ตดมีกลิ่นเหม็นรุนแรง :
ปกติตดที่ถูกสุขลักษณะจะมีแค่เสียงแต่ไร้กลิ่นเรียกว่าตดสะอาด
แต่ถ้าใครตดมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
อาจเกิดจากคุณกินผักประเภทกลิ่นแรงหรือผักที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เช่น
พืชตระกูลกะหล่ำ ถั่ว ชีส แต่ถ้าตดมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน
แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพราะเป็นไปได้ว่ากลิ่นจะเชื่อมโยงกับโรคลำไส้อักเสบหรือลำไส้แปรปรวน
4. ตดเหม็นจากแพ้อาหาร : ถ้าหลังจากดื่มนมหรือกินชีสแล้วรู้สึกเป็นตะคริวและมีอาการท้องอืดมาก
นั่นคืออาการแพ้แลคโตส เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตส มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของลำไส้เล็กที่ไม่สามารถผลิตเอนไซม์ที่ใช้ย่อยน้ำตาลแลคโตสโดยเฉพาะ
จนน้ำตาลแลคโตสไม่สามารถดูดซึมในร่างกายได้ส่งผ่านต่อไปที่ลำไส้ใหญ่
และเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่เข้าย่อยแลคโตส จนเกิดเป็นแก๊ส และของเหลวในลำไส้
ทำให้มีอาการผิดปกติต่างๆ เกิดขึ้น
5. ตดบ่อยตอนมีประจำเดือน : ในช่วงการมีประจำเดือนของผู้หญิงนั้น เป็นระยะที่ฮอร์โมนผิดปกติแปรปรวน
อาจทำให้เกิดอาการร่างกายบวมน้ำหรือท้องอืดไม่สบายตัว
ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายปล่อยตดออกมาบ่อยผิดปกติด้วย
6. ตดเพราะเครียด :
ความเครียดส่งผลเสียได้ทุกระบบของร่างกายรวมถึงระบบการย่อยด้วย เวลาเกิดอาการเครียดเรามักจะรู้สึกท้องอืด
อาหารไม่ย่อย หรือท้องเสีย
การที่ช่องท้องมีแก๊สมากเกินไปตามธรรมชาติก็ต้องระบายออกมาเป็นตด บางคนอาจะรู้สึกว่าการได้ปลดปล่อยแก๊สออกมาบ้างจะช่วยให้หายอึดอัดและช่วยให้เครียดน้อยลง
แต่อย่างไรก็ตามวิธีคลายเครียดที่ดีที่สุดคือการหาสาเหตุของความเครียดและกำจัดมันทิ้งเสีย
แม้ตดจะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน แต่ขอแนะนำว่า “ก่อนจะ ‘ตด’ ควรเลือกสถานที่และเวลาด้วย เพื่อตดของเราจะได้ไม่ไปรบกวนเป็นที่รำคาญของคนอื่น”