“ฟาสต์เวิร์ค” โซ่ข้อกลางมืออาชีพกับผู้ใช้บริการ

หากจะพูดถึงสตาร์ทอัพสัญชาติไทย ต้องมีชื่อ “ฟาสต์เวิร์ค” เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นเพื่อคนยุคใหม่ที่เป็นสื่อกลางสำหรับคนหางาน และผู้ที่ต้องการหาคนทำงานรูปแบบใหม่โดยอำนวยความสะดวกให้ผู้ว่าจ้างค้นหาฟรีแลนซ์และมืออาชีพด้านต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลงานที่มีคุณภาพ

ฟาสต์เวิร์คจุดประกายแนวคิดว่า ในยุคปัจจุบันผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจไม่สามารถรู้ว่า ผู้ถูกจ้างนั้นมีศักยภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน ฟาสต์เวิร์คจึงเกิดขึ้นมาในลักษณะรวบรวมและให้บริการจัดหางานสำหรับ “ฟรีแลนซ์มืออาชีพ” สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ที่รักอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ฝั่งผู้จ้างงานเองก็นิยมจ้างงาน “เอาท์ซอร์ส” เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ในบางลักษณะงาน เมื่อเทียบกับการจ้างพนักงานประจำ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ที่เดียวครบ จบได้ทุกงาน

สำหรับกระบวนการทำงานของฟาสต์เวิร์ค ประกอบด้วย 2 ฝั่ง คือฝั่งหนึ่งเป็น “ฟรีแลนซ์” และอีกฝั่งคือ “ผู้ใช้บริการ” หรือคนที่อยากได้มืออาชีพมาช่วยงาน โดยมีตั้งแต่บุคคลบริษัทขนาดเล็กไปถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทระดับโลก บริษัทเหล่านี้ต้องการหาคนที่มีความสามารถจากข้างนอกมาทำงาน โดยมองว่าสามารถลดต้นทุนให้บริษัทได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานระยะสั้น ๆ หรือจ้างงานเฉพาะโปรเจ็กต์

ปัจจุบันนี้ ฟาสต์เวิร์คมีงานให้บริการเกือบ 30,000 งานที่ไม่ซ้ำกัน แบ่งเป็น 7 หมวดหมู่ใหญ่ หรือ 70 หมวดหมู่ย่อย โดยบริษัทตั้งระบบการให้เรตติ้งและรีวิว เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับมืออาชีพ รวมถึงสร้างระบบจ่ายเงินผ่านฟาสต์เวิร์ค ที่ช่วยปกป้องลูกค้าว่าทำงานแล้วได้เงินแน่นอน และจากการวางระบบแบบนี้ ทำให้ฝั่งของผู้ใช้บริการสามารถหามืออาชีพที่มีคุณภาพได้ตามที่ต้องการ

นอกจากนี้ยังมีบริการ ฟาสต์เวิร์ค เอ็นเตอร์ไพรส์ โดยลูกค้าสามารถติดต่อมาได้โดยตรง บริษัทจะมีผู้จัดการโครงการคอยดูแลลูกค้ารายนั้น ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งจะจัดหามืออาชีพของงานนั้น ๆ มารวมกันก่อนที่จะส่งพอร์ตโฟลิโอให้ลูกค้าเลือกดูว่าอยากได้ใครมาทำงานด้วย

สำหรับฟาสต์เวิร์คมีจุดแข็งตรงที่มีฟรีแลนซ์อยู่ในมือจำนวนมาก ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงคนที่มีประสบการณ์สูงๆ เคยทำงานในองค์กรใหญ่ๆมาก่อน จึงทำให้อัตราค่าบริการของบริษัท เริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาทจนถึงหลักหมื่นบาท และหากเป็นงานขนาดใหญ่จะมีราคาสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ โดยบริษัทคิดค่าส่วนแบ่งแตกต่างกันตามหมวดหมู่และขนาดงาน สูงสุดอยู่ที่ 17% เท่านั้น

สำหรับกลุ่มงานที่ได้รับการจ้างงานมากที่สุดจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การรับจดทะเบียนบริษัท และออกแบบโลโก้ ถัดมาคือการตลาดและโฆษณา รวมถึงด้านการทำเว็บไซต์ และเพจออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อสร้างธุรกิจให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแต่งานที่ถือว่าเติบโตเร็วมาก ๆ คือ บล็อกเกอร์รีวิว เน็ตไอดอล ดูแลร้านค้าออนไลน์ รวมถึงการรับซื้อของจากเว็บไซต์ Taobao ของจีน และการออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์

นอกจากนี้บริษัทมีแผนเพิ่มหมวดหมู่งานอีกเท่าตัว รวมถึงคิดค้นบริการใหม่ ๆ ตลอดเวลา อย่างล่าสุดได้จัดทำแพ็กเกจรวมให้ลูกค้า ซึ่งรวมบริการหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่นทำโลโก้บวกแบรนดิ้ง, ทำฉลากบวกแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งจะรวมบริการให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจอีกด้วย

ตั้งเป้าปักธง นายหน้าฟรีแลนซ์ทั่วอาเซียน

จึงไม่แปลกใจทำไมฟาสต์เวิร์ค จึงได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดในไทย เมื่อปีที่ผ่านมาจึงเติบโต 10 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2560 และเมื่อเดือน มี.ค. 2561 ได้ขยายธุรกิจไปยังอินโดนีเซีย เพราะตลาดอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีความพร้อมที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ปัจจุบันต้องบอกว่า ฟาสต์เวิร์คเป็นรายใหญ่ที่สุดในอาเซียนคงไม่ผิดนัก ในไทยมีมืออาชีพที่อยู่ในพอร์ตประมาณ 20,000 คน ขณะที่อินโดนีเซียมีอยู่เกือบ 5,000 คน โดยมีลูกค้าไทยและอินโดนีเซียกว่า 3 แสนราย

สำหรับเป้าหมายธุรกิจจะตั้งเป้าปักธงทุกประเทศในอาเซียนทำให้ต้องเพิ่มพนักงานมากขึ้น ทุกวันนี้พนักงานในอินโดนีเซียมีอยู่ 10 คนในไทยเกือบ 100 คน เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเทียบกับช่วงก่อตั้งบริษัทใหม่ๆที่มีพนักงานประมาณ 10 กว่าคน และพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนเจนวายอายุเฉลี่ย 27 ปีเท่านั้น

การทำงานของฟาสต์เวิร์คยึดหลัก “คน-ผลิตภัณฑ์-กำไร” ด้วยความเชื่อว่า หากดูแลทีมงานหรือคนขององค์กรให้ดีที่สุด ให้อิสระคนทำงานได้ทำสิ่งที่อยากทำ และเปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูก ก็จะทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข  ส่งผลต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีและเมื่อลูกค้ามีการตอบรับ  บริษัทจะมีกำไรตามมา

อันเป็นแนวทางที่ทีมผู้บริหารทุกคนยึดมั่นตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งฟาสต์เวิร์ค นั่นเอง

แกะรอยความสำเร็จของแป้ง “ศรีจันทร์”

ยืมมั้ย แอปฯสำหรับคนชอบเปลี่ยนสมาร์ทโฟน