กล้วยหอมทองผลไม้ยืนหนึ่ง ตลาดญี่ปุ่นต้องการสูง

กล้วยหอมทอง เป็นผลไม้ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นมานาน โดยเฉพาะกล้วยหอมทองของไทยที่มีรสชาติดี เนื้อสัมผัสอร่อย ไม่เหนียว จึงขึ้นแท่นนำเหนือกล้วยหอมจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งไทยทำกล้วยหอมทองส่งออกไปประเทศญี่ปุ่นต่อเนื่องยาวนมากว่า 20 ปี และมีการส่งออกกล้วยจากแหล่งผลิตสำคัญไปตลาดญี่ปุ่นปีละกว่า 1 ล้านตัน ซึ่งในส่วนของการส่งออกกล้วยหอมทองไทยไปตลาดญี่ปุ่น

ในปี 2559 นั้นมีปริมาณการส่งออก 1,257,056 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 42,822,262 บาท ซึ่งไทยได้โควต้าส่งออกกล้วยหอมทองไปญี่ปุ่นปีละ 8,000 ตัน แต่การส่งออกกลับทำได้เพียงปีละ 3,000 - 4,000 ตันเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ตามคุณภาพที่ญี่ปุ่นกำหนดได้ จึงทำให้มีโอกาสที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่จะเข้าตีตลาดญี่ปุ่นได้อีกมาก

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ทำไมตลาดหลักอย่างญี่ปุ่นถึงต้องการกล้วยหอมทองไทย     

ตลาดญี่ปุ่น : ด้วยสภาพภูมิอากาศของญี่ปุ่นเอื้อต่อการปลูกกล้วยได้แค่เพียง 2 จังหวัดในเขตตอนใต้ของประเทศ คือ จังหวัดโอกินาวา มีปริมาณผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 66 ของผลผลิตรวม และจังหวัดคาโงชิมา คิดเป็นร้อยละ 34 มีพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งสิ้น 32 เฮกตาร์ ได้ผลผลิตรวมเพียง 124 ตัน พันธุ์ที่ปลูกเป็นพันธุ์ Bananna Island

99% ของกล้วยที่วางขายตามท้องตลาดญี่ปุ่นเป็นกล้วยนำเข้า แค่เพียงในปี 2561 ญี่ปุ่นมีการนำเข้ากล้วย 1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยนำเข้าจากฟิลิปปินศ์ เป็นอันดับ 1 มีปริมาณการนำเข้า 8.36 แสนตัน (83.6%) รองลงมาเป็นเอกวาดอร์ 1.11แสนตัน (11.0%) เม็กซิโก 2.8 หมื่นตัน (2.8%) กัวเตมาลา 7.7 พันตัน (0.8% ) เปรู 5.8 พันตัน(0.6%) โคลัมเบีย 2.4 พันตัน (0.2%) และนำเข้าจากไทย 2,069 ตัน ( 0.21%) โดยกล้วยที่นำเข้าจากไทยเป็นพันธุ์กล้วยหอมทอง

โอกาสในการทำกล้วยหอมทองส่งออก

คุณเกรียงศักดิ์ และ คุณเสาวณี วิเลปะนะ สองสามีภรรยาเจ้าของ บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด ยืนยันว่า “กล้วยหอมทอง” เป็นสินค้าที่มีลู่ทางเติบโตสดใส เพราะมียอดขายขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ทำยอดขายได้และปีละกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด ผู้นำตลาดกล้วยหอมทองรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยมีเนื้อที่เพาะปลูกกล้วยหอมทองกว่า 3,000 ไร่ เน้นผลิตกล้วยหอมทองเกรดส่งออกภายใต้แบรนด์ “BANANA KING” ผลิตกล้วยหอมป้อนตลาดภายในประเทศปีละ 6,000 ตัน เป็นการขายส่งขายตลาดไท ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ 7 -11  สายการบิน และกำลังจะทำการส่งออกไปในอีกหลายประเทศทั่วโลกในเร็วๆ นี้

ดังนั้นโอกาสในการทำกล้วยหอมทองส่งออกไปญี่ปุ่นจึงยังมีอยู่มาก เนื่องจากผลลิตที่ผลิตป้อนตลาดยังไม่เพียงพอ อีกทั้งในการเพาะปลูกยังมีข้อจำกัดที่ว่า ต้องเปลี่ยนพื้นที่ปลูกหมุนเวียนทุก 2-3 ปี และตรวจสอบควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ มีการจดบันทึกเพื่อรองรับการตรวจสอบแบบย้อนกลับ(Traceability) ได้ และมาตรฐานกำหนดที่ยิบย่อยทำให้การจะควบคุมคุณภาพผลผลิตให้คงที่ เป็นสิ่งท้าทายทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและเกษตรกรที่เพาะปลูก

ผู้ประกอบการส่งออกต้องทำอย่างไร

ในส่วนของผู้ประกอบการที่ทำการรวบรวมกล้วยหอมทองส่งออก จะต้องติดต่อแปลงปลูกเกษตรกร และนำผลผลิตส่งยังโรงงานผลิตสินค้าพืช เพื่อทำการคัดบรรจุและตรวจสอบด้านความปลอดภัยอาหาร โดยห้องปฏิบัติการทดสอบที่กรมวิชาการเกษตร เพื่อให้เกิดยอมรับความสามารถรวม และทำการตรวจสอบเรื่องศัตรูพืช  เพื่อขอใบรับรองสุขอนามัยของพืช ก่อนทำการส่งออกไปประเทศคู่ค้า ภายใต้การดูแลประสานงานจากกรมวิชาการเกษตร ที่มีระบบควบคุมตั้งแต่แปลงเกษตรกร ปัจจัยการผลิตการคัดบรรจุ การส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐานของประเทศผู้นำเข้า ได้แก่

1. การรับรองแปลงเกษตรกร GAP ตาม มกษ.9001-2556

2. การรับรองโรงงานผลิตสินค้าพืช GMP/HACCP ตาม มกษ.9023-2550 และ/หรือ มกษ.9024-2550

3. การขึ้นทะเบียนผู้ส่งออก

4. การตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้สอดคล้องตาม ข้อกำหนดของ ประเทศผู้นำเข้า

การส่งออกกล้วยหอมทองไปญี่ปุ่น : ผู้ส่งออกปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

1. ส่งออกได้เฉพาะกล้วยดิบ

2. จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออก

3. แปลงเกษตรกรต้องได้รับการรับรอง GAP

4. โรงคัดบรรจุต้องได้รับการรับ GMP

5. ขอใบรับรองสุขอนามัยพืช

6. มาตรการกักกัน ณ ด่านนำเข้า

v Non-Control Measure สินค้าจะถูกกักเพื่อตรวจสารเคมีตกค้าง (Cypermetrin) ณ ด่านนำเข้า

v Control Measure สินค้าไม่ถูกกักตรวจสารเคมีตกค้าง (Cypermetrin) ณ ด่านนำเข้า

การจัดสรรโควตากล้วยสดภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถติดต่อได้ที่กรมวิชาการเกษตร

ในการทำกล้วยหอมทองส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะมีปัญหาด้านการตลาดหรือเรื่องราคา เพราะญี่ปุ่นยังคงความนิยมกล้วยหอมทองไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน หากแต่เรื่องความท้าทายในการตีตลาดกล้วยญี่ปุ่น การควบคุมคุณภาพการจัดการแปลงเพาะปลูก เพื่อให้ได้มาตรฐานการส่งออกต่างหาก ที่ทำให้ผลผลิตกล้วยหอมทองไทยไปญี่ปุ่นไม่ได้ทุกเครือ และไม่เพียงพอต่อความต้องการ

หากผู้ประกอบการและเกษตรกรลูกข่าย มีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิตได้ ก็จะทำให้ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัย ได้มาตรฐาน ผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ และมาจากแหล่งที่มาที่มีการจัดการด้วยกระบวนการปลูกที่ได้มาตรฐานสากล Global GAP จนสามารถตีได้ทุกตลาดที่ต้องการ.

แหล่งอ้างอิง :                                        

https://thaibizchina.com

http://www.thaiorganictrade.com/sites/default/files/banana_in_japan.pdf

http://www.nfctak.com/images/file_document/F00029.pdf

http://kbp.ops.moc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=1874  

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<  

ส่องตลาดส่งออกผลไม้ในเกาหลีใต้

สินค้าเกษตรไทย ยังอนาคตสดใสในต่างประเทศ