สุขภาพดีน้ำหนักลดด้วย “กฎการกินแอปเปิล”

‘แอปเปิล’ เป็นผลไม้เมืองหนาวที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยช้านาน และเป็นหนึ่งในผลไม้ตามตำนานในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่กล่าวถึงแอปเปิลว่า เป็นผลไม้ต้องห้าม มิให้ Eve และ Adam กิน ซึ่งผลจากการละเมิดคำสั่งนั้นได้ทำให้มนุษย์มีจิตใจแปดเปื้อนมลทินและเกิดการทำบาปขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลให้ชื่อในภาษาละตินของแอปเปิลที่ใช้ในการกำหนดชื่อเรียกแบบเฉพาะเจาะจง (Sciencetific name) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ Apple ตรงกับคำว่า Malus domestica ซึ่ง malus นั้นมีคำแปลว่า “ชั่วร้าย” หากแต่ในความเป็นจริงแล้วแอปเปิลกลับมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยลดน้ำหนัก บำรุงผิวพรรณชั้นเลิศอีกด้วย

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งแมสซาชูเซตส์-โลเวล ได้ระบุว่าการรับประทานแอปเปิลและดื่มน้ำแอปเปิลนั้น ทำให้สุขภาพสมองดีขึ้น ช่วยทำให้อาการของโรคอัลไซเมอร์ลดลง เมื่อมีการรับประทานอาหารอย่างสมดุลร่วมด้วย โดยการบริโภคแอปเปิลและน้ำแอปเปิลจะไปช่วยป้องกันไม่ให้สมองถูกทำลายโดยการออกซิเดชัน ที่นำไปสู่การสูญเสียความทรงจำ มีการค้นพบคุณประโยชน์ของแอปเปิลต่อสุขภาพสมอง เมื่อสัตว์บริโภคน้ำแอปเปิลเท่ากับ 2-3 ถ้วย หรือแอปเปิล 2-4 ผลต่อวัน จากการทดลองทางคลินิกแสดงว่า การดื่มน้ำแอปเปิลทำให้อารมณ์และพฤติกรรมในกลุ่มผู้ป่วยที่วินิจฉัยพบว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ระดับปานกลางถึงรุนแรงดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จุดเด่นที่สำคัญของการรับประทานแอปเปิลเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็คือการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง จากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในแอปเปิล โดยมีการศึกษาวิจัยหลายชุดที่มหาวิทยาลัยคอร์แนลได้ประเมินผลกระทบโดยตรงของแอปเปิลต่อการป้องกันมะเร็งเต้านมในสัตว์ ยิ่งบริโภคแอปเปิลมากยิ่งลดการเกิดหรือลดจำนวนของเนื้องอกอย่างมากในกลุ่มสัตว์ทดลอง ในแอปเปิลนั้นมีสารเควอซิติน คือฟลาโวนอยด์อยูู่มากตามธรรมชาติ ซึ่งมีประโยชน์มากที่สุดในการปกป้องและลดความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในพืช ชื่อ ‘เควอซิติน’ ในแอปเปิลที่อาจจะสามารถนำมาใช้หาวิธีการใหม่ในการป้องกันและรักษามะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย และยังมีรายงานจากนักวิจัยโปแลนด์ที่ทำการสำรวจเกี่ยวกับอาหารและวิถีชีวิตของผู้คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักจำนวน 592 คน และบุคคลที่ไม่เป็นมะเร็ง 700 คน พบว่าบุคคลที่ไม่เป็นมะเร็งมีแนวโน้มบริโภคแอปเปิลมากกว่าคนที่เป็นมะเร็ง

และหากคนๆ นั้นบริโภคแอปเปิลในแต่ละวันเพิ่มขึ้น จะยิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักน้อยลง แม้ว่าบุคคลนั้นจะบริโภคผักและผลไม้โดยรวมน้อย แต่บริโภคแอปเปิลอย่างน้อยวันละผล ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ลดลงได้ ดังนั้นการบริโภคแอปเปิลเพียงวันละผล จึงสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักลงได้มากกว่าหนึ่งในสาม

แอปเปิลผลไม้พลังงานต่ำ ตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ผลดี

ปกติทั่วไปแอปเปิล 1 ผล จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 100-200 กรัม แต่น้ำหนักเฉลี่ยที่มีการคัดไซส์จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปจะอยู่ที่ 100 กรัมต่อผล ดังนั้นการคำนวณแคลอรีเพื่อใช้ช่วยควบคุมน้ำหนักจึงทำได้ง่าย และไม่ว่าจะทานแอปเปิลสีอะไรก็ตาม มักให้ผลลัพธ์ในการช่วยควบคุมน้ำหนักได้ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยแอปเปิลแต่ละสีจะให้ค่าพลังงานและเส้นใยต่างกัน ดังนี้

- แอปเปิลสีแดง ให้พลังงาน 59 กิโลแคลอรี มีน้ำตาล 10.48 กรัม เส้นใย  2.3 กรัม

- แอปเปิลสีเขียว ให้พลังงาน 58 กิโลแคลอรี มีน้ำตาล 9.59 กรัม เส้นใย  2.4 กรัม

- แอปเปิลสีเหลือง ให้พลังงาน 57 กิโลแคลอรี มีน้ำตาล 10.04 กรัม เส้นใย  2.8 กรัม

- แอปเปิลสีชมพู ให้พลังงาน 63 กิโลแคลอรี มีน้ำตาล 10.04 กรัม เส้นใย  2.1 กรัม

มีงานวิจัยจากนักวิจัยมหาวิทยาลัยรัฐแห่งริโอเดจาเนโร ได้ศึกษาผลกระทบจากการบริโภคผลไม้กับการลดน้ำหนัก แล้วพบว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินซึ่งรับประทานแอปเปิลหรือลูกแพร์เท่ากับสามผลต่อวัน สามารถลดน้ำหนักจากการรับประทานอาหารพลังงานต่ำได้มากกว่าผู้หญิงซึ่งไม่เพิ่มผลไม้ในมื้ออาหาร (Nutrition, 2003, 19: 253-256) และผู้บริโภคผลิตภัณฑ์แอปเปิลมีแนวโน้มจะมีความดันเลือดต่ำกว่าและรอบเอวเล็กกว่า ทำให้ลดความเสี่ยงภาวะอ้วนลงพุง ที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมายที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ (Experimental Biology 2008 Poster (unpublished)

สำหรับเคล็ดลับจากประสบการณ์จริงของผู้ที่ใช้แอปเปิลช่วยลดน้ำหนักแล้วได้ผลลัพธ์อันดี อยู่ที่แอปเปิลเป็นผลไม้ที่เก็บรักษาได้นาน หาทานง่าย ในราคาที่จับต้องได้ ให้พลังงานต่ำ มีไฟเบอร์สูง มีความหวานเล็กน้อยพอทำให้กระชุ่มกระชวย แล้วช่วยให้อิ่มท้องนาน ดังนั้นการเลือกทานแอปเปิลก่อนมื้ออาหารหลักครึ่งชั่วโมง หรือระหว่างมื้ออาหารหลัก หลังจากทานอาหารหลักผ่านไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง 3 เวลา จะช่วยควบคุมความหิว ลดความอยากทานของหวาน ของจุบจิบ ในช่วงที่ควบคุมอาหารหรือลดน้ำหนักลงได้ อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการขับถ่ายดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ และเห็นผลในการคุมน้ำหนักที่รวดเร็วชัดเจน ภายใน 1- 2 เดือน.

แหล่งอ้างอิง

https://sites.google.com/

https://mgronline.com/

https://th.bestapples.com/ 

5 เทคนิคลดน้ำหนักที่แสนง่าย โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าฟิตเนส

5 เมนูอาหารคลีนทำง่ายประหยัดด้วย