ปัจจุบันความนิยมในการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นเทรนด์และเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการอุตสาหกรรมทั่วโลก ช่วยให้ภาคธุรกิจทำงานได้มากขึ้น สร้างความสม่ำเสมอในการทำงาน แต่ในเรื่องความปลอดภัยของหุ่นยนต์กับคนยังเป็นอีกประเด็นที่น่ากังวล เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุในระหว่างทำงานร่วมกันได้ ดังนั้น Bangkok Bank SME จึงขอนำเสนอ 5 วิธีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. เครื่องมือป้องกันเพื่อรักษาความปลอดภัย
การป้องกันเครื่องจักรมีตัวเลือกมากมาย เช่น
Laser Guides ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ล็อกชิ้นส่วนของ Robot ในขณะที่มีคนทำการบำรุงรักษาและอื่นๆ หากผู้ประกอบการพร้อมที่จะนำหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงาน
ควรรู้สึกผูกพันที่จะต้องดูผลิตภัณฑ์และเทคนิคที่ช่วยในการปกป้องเครื่องจักรด้วย
การบริหารในเรื่องของความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) รายงานว่า การขาดการปกป้องเครื่องจักรเป็นหนึ่งในเรื่องที่เกิดบ่อยที่สุด
2. ออกแบบพื้นที่ทำงานสำหรับหุ่นยนต์
บริษัทที่มีความพร้อมในการซื้อ Robot ต้องคิดล่วงหน้าในการออกแบบพื้นโรงงานเพื่อรองรับหุ่นยนต์ไว้ด้วยเช่นกัน การทำให้คนงานปลอดภัยจากการวางแผนในการออกแบบที่เหมาะสม เช่น การพิจารณาพื้นที่ทำงานของ Robot หมายถึงการเลือกชนิดของหุ่นยนต์ที่เหมาะสมและตำแหน่งที่ติดตั้ง ผู้ประกอบการต้องจินตนาการถึงเส้นทางการจราจรในสถานที่ทำงาน และคิดว่าจะต้องรักษาระยะห่างที่จำเป็นระหว่างคนงานและเครื่องจักรอย่างไร
3. ปรับปรุงการมองเห็นเส้นทางของหุ่นยนต์เคลื่อนที่
หลายธุรกิจที่ซื้อ Mobile Robots เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ พื้นที่โรงงาน ช่วยในการนำส่วนประกอบหรือผลิตภัณฑ์ไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ โดยทั่วไปแล้วหุ่นยนต์เหล่านี้จะมีเซนเซอร์สัญญาณเลี้ยวและคุณสมบัติอื่นๆ ในตัว เพื่อปรับปรุงความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บุคลากรของบริษัทควรตั้งค่าทุกสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อให้ผู้คนปลอดภัย
Safety Paint จึงเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนและมีประสิทธิภาพสูงในการกำหนดเส้นทางของ Mobile Robots เพื่อลดโอกาสที่คนงานจะเดินเข้าไปในนั้น และโรงงานควรใช้ระบบที่ใช้สีเพื่อเตือนอันตรายบางอย่างด้วย
4. ใช้ Cobot แทนหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
เนื่องจาก ‘โคบอท’ มีน้ำหนักเบาและขนาดไม่เทอะทะ สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่างๆ ในโรงงานได้สะดวกสบาย แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน ข้อมูลทางเทคนิคได้กล่าวถึงกำลังและความเร็วสูงสุดในการใช้โคบอทอย่างปลอดภัย ผู้ดูแลต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานว่าเหมาะกับโคบอทหรือหุ่นยนต์อุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็นคู่ทำงานคนกับหุ่นยนต์ที่เข้ากันได้ดีก็ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้พนักงานปลอดภัยขณะกำลังทำงานเช่นกัน
แม้โคบอทจะมีขนาดกะทัดรัด ผู้ใช้สามารถย้ายโคบอทไปยังส่วนอื่นๆ
ของโรงงานและตั้งค่าให้ทำงานใหม่ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ต้องทำการประเมินความปลอดภัยใหม่สำหรับงานใหม่แต่ละงานที่จัดการโดยหุ่นยนต์
และนอกจากนี้ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการที่คนขนย้ายโคบอทไปยังส่วนต่างๆ
ของพื้นที่ทำงานอีกด้วย
5. ฝึกอบรมพนักงานอย่างละเอียดและสม่ำเสมอ
พนักงานทุกคนที่มีความเป็นไปได้ในการทำงานร่วมกับหุ่นยนต์จะต้องได้รับการฝึกอบรม และสามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เป็นไปได้มากที่สุด การฝึกอบรมพนักงานในบริษัทต้องศึกษา Robot โดยละเอียด เพื่อช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ได้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ
พนักงานควรได้รับการดูแลจนกว่าจะรู้สึกสบายใจในการทำงานกับเครื่องจักร ซึ่งการมีช่องทางในการตอบคำถามหรือรายงานข้อกังวลก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในเรื่องความปลอดภัย
จากข้อมูลระบุว่า ความผิดพลาดของมนุษย์เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับ ‘หุ่นยนต์’ ในที่ทำงาน ดังนั้นหากบริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมอย่างจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงมองว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่อง สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานและนายจ้างได้รับประโยชน์จากหุ่นยนต์สูงสุด โดยมีความปลอดภัยรวมอยู่ด้วย
แม้ว่าหุ่นยนต์จะช่วยให้มนุษย์ไม่ต้องทำงานที่เป็นอันตราย
แต่ผู้ประกอบการควรคาดการณ์ถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหุ่นยนต์ใดๆ
ที่นำเข้ามาในพื้นที่การทำงานร่วมกับมนุษย์จะเป็นประโยชน์และสร้างอันตรายน้อยที่สุด
แหล่งอ้างอิง : roboticstomorrow