ประเทศจีนตอนกลางและภาคตะวันตกได้มีการพัฒนาพื้นที่ผ่านนโยบาย Go west เน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
รวมถึงการย้ายฐานอุตสาหกรรมจากภาคตะวันออกเข้าไป
ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคดังกล่าวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายนี้
ข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ของ ‘กว่างซีจ้วง’
ติดชายทะเลอ่าวเป่ยปู้ (อ่าวตังเกี๋ย), ชายแดนเวียดนาม
ขณะที่ยุทธศาสตร์จากรัฐบาลกลางมอบให้มณฑลแห่งนี้เป็น Gateway to ASEAN ทำให้กว่างซีมีบทบาทสำคัญในระบบงานขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อการค้าระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะโมเดลการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแบบไร้รอยต่อ (Multi - modal Transportation)
ระหว่างเรือกับรถไฟบริเวณท่าเรืออ่าวเป่ยปู้ และรถไฟระหว่างประเทศ (กว่างซี - เวียดนาม)
แทนที่ช่องทางเดิมที่เคยใช้มณฑลชายฝั่งทะเลจีนตอนใต้และตะวันออก
นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากยุทธศาสตร์การเปิดสู่ภายนอก ที่รัฐบาลกลางมอบให้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบกกับทางทะเลแห่งภาคตะวันตก (New Western Land and Sea Corridor - NWLSC) และเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) ช่วยให้กว่างซีเป็น ‘ขุมทอง’ ที่น่าหมายปองของธุรกิจการขนส่ง – โลจิสติกส์ทั้งในและต่างประเทศ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
สถิติงานขนส่งระหว่างประเทศของเขตฯ กว่างซีจ้วง ปี 2563
- ปริมาณขนถ่ายสินค้า 300 ล้านตัน (+17%) มากเป็นอันดับ 2
ของพื้นที่จีนตอนใต้ รองจากท่าเรือกว่างโจว
- ปริมาณขนถ่ายตู้สินค้า 5.05 ล้าน TEUs
(+32%)
ติดอันดับที่ 10 ของท่าเรือเลียบชายฝั่งทะเลของจีน และอันดับที่ 40 ของโลก
ที่สำคัญ ปริมาณขนถ่ายตู้สินค้าขยายตัวสูงเป็นอันดับ 1
ของท่าเรือเลียบชายฝั่งทะเลของจีน
- เที่ยวขบวนรถไฟขนส่งตู้สินค้าที่ท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้มีจำนวน 4,607
เที่ยว เมื่อเทียบกับปี 2560 เติบโต 25 เท่า
ปริมาณตู้สินค้าที่ขนส่งผ่านโมเดลเรือ+รางมีจำนวน 3 แสน TEUs และขบวนรถไฟเที่ยวประจำมีวันละ 15 เที่ยว
- เที่ยวขบวนรถไฟข้ามแดนจีน(กว่างซี) - เวียดนาม ผ่านด่านรถไฟผิงเสียง
มีจำนวน 1,264 เที่ยว (+23.2%)
- เวลาที่ใช้ผ่านพิธีการศุลกากรเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ เช่น
พิธีการศุลกากรนำเข้าใช้เวลา 5.56 ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศใช้เวลา 34.91
ชั่วโมง และยูนนานใช้เวลา 14.02 ชั่วโมง ขณะที่พิธีการส่งออกใช้เวลา 0.77 ชั่วโมง
ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศใช้เวลา 1.78 ชั่วโมง และยูนนานใช้เวลา 0.12 ชั่วโมง
เพื่อพัฒนางานขนส่งรูปแบบต่างๆ ให้เกิดความสมดุล
เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างตัวเลือกที่มีความหลากหลาย ยกระดับประสิทธิภาพบริการ
และอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ทางการกว่างซีได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนางานขนส่ง
– โลจิสติกส์ เพื่อตอบสนองและรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เช่น
การพัฒนางานขนส่งทางบกข้ามแดนและด่านชายแดน
การฟื้นฟูการเดินรถขนส่งสินค้าโดยตรงและโมเดลการขนส่งด้วยรถยนต์แบบ Door to Door ระหว่างจีน (กว่างซี) กับเวียดนาม
การเพิ่มจำนวนด่านชายแดนที่ใช้ขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกอีก 2 ด่าน ได้แก่
ด่านผิงเมิ่งในเมืองไป่เซ่อ ซึ่งติดกับจังหวัดกาวบั่งของเวียดนาม
และด่านอ้ายเตี้ยนในเมืองฉงจั่ว ซึ่งติดกับจังหวัดลางเซินของเวียดนาม
และการศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดเส้นทางขนส่งทางถนนระหว่างประเทศระหว่างจีน (กว่างซี
)กับเวียดนาม 3 เส้นทาง
การพัฒนางานขนส่งสินค้าทางอากาศ
การเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินระหว่างนครหนานหนิงกับประเทศสมาชิกอาเซียน
และประเทศเอเชียใต้เพิ่มอีก 1 - 2 เส้นทาง ปัจจุบันมีเส้นทางขนส่งทางอากาศไปยังนครโฮจิมินห์และกรุงมะนิลาแล้ว
รวมถึงการฟื้นฟูเส้นทางบินสู่เมืองหลวงของประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งกรุงพนมเปญ
เวียงจันทน์ และกรุงฮานอย
การพัฒนางานขนส่งทางรถไฟ
การผลักดันให้มีบริการขบวนรถไฟข้ามแดนจีน (กว่างซี )กับเวียดนามมากกว่า
230 เที่ยวขบวน การพัฒนาให้มีบริการขบวนรถไฟควบคุมอุณหภูมิความเย็นสู่ภาคเหนือเป็นประจำ
ทั้งขบวนรถไฟขนส่งพืชผักสดจากเมืองไป่เซ่อ
ขบวนรถไฟขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารแช่เย็นแช่แข็งจากเมืองฝางเฉิงก่าง
และขบวนรถไฟขนส่งผลไม้สดจากเมืองผิงเสียง
การพัฒนาโมเดลการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multi-Modal Transportation)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยในการทำการค้ากับพื้นที่จีนตอนใน
หรือใช้ช่องทางดังกล่าวขนส่งสินค้าไปยังเอเชียกลางและยุโรปแบบไร้รอยต่อ
(เรือ+รถไฟ) ปัจจุบันมีบริการเที่ยวเรือขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือชินโจวกับท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพของไทยด้วยแล้ว
ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งทางเรือที่มีระยะทางสั้นที่สุดระหว่างจีนกับไทย
โดยระบบงานขนส่งดังกล่าวสามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้หลายประเภท
ทั้งตู้คอนเทนเนอร์แบบที่มีเครื่องทำความเย็น (Reefer)
สำหรับการขนส่งผลไม้และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่แข็ง และตู้คอนเทนเนอร์แบบ Open
Top ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าเทกอง
นอกจากนี้ผู้ประกอบการไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่รัฐบาลกลางได้มอบให้เขตฯ
กว่างซีจ้วง โดยเฉพาะเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี)
และเขตทดลองการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามแดน การใช้ประโยชน์จากด่านนำเข้าสินค้าที่ต้องได้รับการอนุมัติเป็นกรณีพิเศษ
(เช่น ผลไม้ เนื้อสัตว์ เมล็ดธัญพืชและข้าว) การใช้ประโยชน์เส้นทางขนส่งทางบก (R8 R9 และ R12) และทางทะเล
รวมถึงศูนย์โลจิสติกส์ต่างๆ ในเขตฯ
กว่างซีจ้วงเพื่อเป็นแพลตฟอร์มกระจายสินค้าไปทั่วประเทศจีนได้อีกด้วย โดยในปี 2563 เขตฯ
กว่างซีจ้วงเป็นผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ รองจากมณฑลกวางตุ้ง มณฑลเจียงซู
มณฑลเจ้อเจียง นครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลซานตง
แหล่งอ้างอิง :
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<