ตอนนี้นอกจากเราจะผวากับเชื้อไวรัสโควิด-19
กันแล้ว พอเข้าสู่ฤดูฝนก็ควรระวังโรคยอดฮิตที่มักจะโผล่มาทักทายกันในช่วงนี้คือ “ไข้หวัดใหญ่”
หรือ ‘Influenza’ อาการไข้หวัดใหญ่ต่างกับไข้หวัดธรรมดา
คือมักมีไข้สูงติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในเด็กจะมีไข้สูงเกินกว่า 39-40 องศาเซลเซียสติดต่อกัน
3-4 วัน ไอเจ็บคอ คัดจมูกน้ำมูกไหล ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลียหรือเหนื่อยมาก
ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย และเบื่ออาหาร
ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อที่มีร่างกายแข็งแรงสามารถเป็นแล้วก็หายได้ภายใน 5-7 วัน แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และทำให้เสียชีวิตได้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
มีรายงานจากกองควบคุมโรคเผยถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี
2563 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 13 เมษายน 2563 มีผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 95,994
ราย ส่วนข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่าปี 2562 ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ถึงปีละ
250,000 –
500,000 คน ซึ่งน่ากลัวและอันตรายไม่น้อยกว่าโควิด-19 เลย
วิธีป้องกันโดยการฉีดวัคซีนเพื่อทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่มากขึ้น
โดยวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ประกอบด้วย เชื้อไวรัส 3-4 สายพันธุ์ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดในช่วงนั้นของแต่ละปี
โดยสายพันธุ์ A ที่แบ่งเป็น A/H1N1
และ A/H3N2 เป็นสายพันธุ์หลัก แต่หลายปีที่ผ่านมาพบว่าเริ่มมีการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์
B ขึ้นในสายพันธุ์ Victoria และ Yamagata รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งทั้งสายพันธุ์ Aและ B
ก็เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตเหมือนกัน องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด
4 สายพันธุ์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ครอบคลุมมากขึ้นจากเดิม
อย่างไรก็ตาม Center of Disease Control and Prevention ก็แนะนำให้ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง
เนื่องจากปกติแล้วร่างกายของคนเราจะสร้างภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนสูงสุดที่ 8-6 เดือน หลังจากนั้นจะเริ่มลดประสิทธิภาพลงเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
อีกประการคือสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดมีความหลากหลายมากขึ้นทุกปี
วัคซีนที่จะฉีดในแต่ละปีก็มาจากการคาดการณ์แนวโน้มของการระบาดใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ต่างไปจากเดิมด้วย
อย่างเช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปี 2020 นั้นประกอบด้วย ไวรัสชนิด A H1N1 สายพันธุ์ Brisbane
และ H3N1 สายพันธุ์ South Australia ส่วนไวรัสชนิด B สายพันธุ์Washington และสายพันธุ์ Phuket
ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรฉีดวัคซีนไข้หวีดใหญ่
คือ เด็กเล็ก อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 5 ปี, ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่
65 ปีขึ้นไป, สตรีมีครรภ์ หรือหลังคลอดไม่เกิน
2 สัปดาห์, ผู้มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคเบาหวาน
หัวใจ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
ปัจจุบันทุกโรงพยาบาลรัฐและเอกชนมีบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั้งนั้น
แต่ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกัน ส่วนสะดวกที่ไหนหรือเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ สามารถตรวจสอบราคาก่อนตัดสินใจได้
อาทิ
Ø รพ.บำรุงราษฎร์ ราคาเข็มละ 1,230 บาท
บริการฉีดถึงบ้าน วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
Ø รพ.เปาโล ราคาเข็มละ 900 บาท (รวมค่าแพทย์/ไม่รวมค่าบริการ)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
Ø รพ.เพชรเวช ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
ราคา 950 บาท
Ø รพ.ธนบุรี ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ ราคา
850 บาท
รวมทั้งมีโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไปใน 7 กลุ่มเสี่ยงฟรี ลงทะเบียนผ่าน LINE ID : @ucbkk ตั้งแต่ 1 พ.ค.- 31 ส.ค. 2563