ปัจจุบันพลาสติกชีวภาพเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้น ประเทศทั่วโลกต่างตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยเฉพาะ"ญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นผู้นำด้านนี้ เพราะภูมิประเทศมีลักษณะเป็นเกาะล้อมรอบด้วยทะเล ประกอบกับที่ผ่านมาญี่ปุ่นเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมพลาสติกของโลก โดยมีขนาดเป็นอันดับ 2 รองจากจีนการดูแลสิ่งแวดล้อมจึงถือว่าสำคัญมาก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
พลาสติกชีวภาพ
หรือ Bioplastic หมายถึงพลาสติกที่ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติ
เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด และอ้อย
ที่มีการออกแบบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายใต้สภาวะจากการทำงานของจุลินทรีย์ในธรรมชาติ
ทั้งนี้ พลาสติกชีวิภาพมีทั้งแบบที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ หรือ (Compostable
Plastic) ซึ่งมีทั้งที่ผลิตจากพืชบางชนิด
และผลิตจากปิโตรเคมี เช่น PLA และ
สลายตัวไม่ได้ทางชีวภาพ หรือ (Non Compostable Plastic) ซึ่งผลิตจากพืชแต่ไม่สามารถย่อยสลายได้
เช่น ภาชนะสำหรับอาหารร้อนและเย็น (Bio-PP) และถุงพลาสติสำหรับอาหารร้อนและเย็น
(Bio-PE)
ตลาดพลาสติกชีวภาพในประเทศญี่ปุ่นขยายตัวก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง (ตารางประกอบ) นับจากปี 2014 กระทั่งถึง ปี 2017 มีปริมาณ 47,780 ตัน จากการนำไปใช้สำหรับในภาคครัวเรือและภาคอุตสาหกรรม จากกระแสการรณรงค์ของทั่วโลกที่ให้ควาสำคัญกับท้องทะเล และกระแสการควบคุมการใช้พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง ประกอบกับญี่ปุ่นต้องเผชิญสภาพอากาศร้อนและอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2018 ทำให้ตลาดพลาสติกชีวภาพเติบโตมากขึ้น ถึง 51,285 ตัน โดยเฉพาะขวดน้ำ Bio-Pet
เพิ่มมาตรการคุมเข้มจัดการขยะพลาสติก
อย่างไรก็ตาม
ข้อมูลจากสำนักนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการวางยุทธศาสตร์ในการดูแลปัญหาขยะพลาสติกด้วย
โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI)
ออกประกาศมาตรการลดการใช้ถุงพลาสติกในกลุ่มผู้บริโภค
โดยการเก็บค่าธรรมเพิ่มหากผู้บริโภคต้องการถุง เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อ 1 เมษายน
2562 และกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ก็เริ่มมีมาตรการแบ่งสรรงบประมาณ
เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้กระบวนการผลิตพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้
และการให้เงินสนับสนุนกับบริษัทที่หันมาใช้กระดาษแทนพลาสติก
ล่าสุดเมื่อวันที่
31 พฤษภาคม 2562
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกกลยุทธ์ใหม่สำหรับการหมุนเวียนทรัพยากรสำหรับผลิตพลาสติก
หรือที่เรียกว่า Resource Circulation for Plastics โดยแผนดังกล่าวจะดำเนินการ
3 ด้าน คือ การลดการผลิตและการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (Reduce)
เพื่อลดการสร้างขยะนี้ให้ได้
25% ภายในปี 2030
รวบรวมและนำพลาสติกที่รีไซเคิลได้กลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน(Reuse
และ
Recycle) โดยมีเป้าหมายจะต้องทำได้
60% ของบรรจุพภัณฑ์ทั้งหมดในปี 2030 พร้อมทั้งเพิ่มการใช้ทรัพยากรที่ใช้แล้วสามารถทดแทนกันได้ ( Renewable
Resource) เพื่อให้เพิ่มขึ้น 2
เท่าจากปัจจุบันที่มีปริมาณ 2 ล้านตันในปี 2030
นอกจากนี้ยังมีมาตรการจัดการพลาสติกตามชายฝั่งทะเล
การพัฒนามาตรฐานสู่ระดับสากล
การริ่เริ่มโครงสร้างพื้นฐานที่มีศึกษาผลกระทบจากไมโครพลาสติก การให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาวิจัยและพัฒนาสินค้าที่ทำจากพลาสติกชีวภาพ
ในส่วนของภาคเอกชนต่างก็ตอบรับมาตรการส่งเสริมของภาครัฐและได้นำเสนอนวัตกรรมการเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติก เช่น บริษัท KANEKA Corporation ได้ขยายการลงทุนพลาสติกชีวภาพเพิ่ม 100 เท่า หรือ 1 แสนตันต่อปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัท Ichikawa Kankyo Engineering จำกัด ได้รีไซเคิลพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง และรีไซเคิลพลาสติกผสมขั้นสูง หรือบริษัท Mitsubishi Chemical Holding Corporation ผลิตโพลิเมอร์ขั้นสูงที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตแก้วกระดาษ และประกาศร่วมลงทุนกับบริษัทด้านวัสดุและเคมีภัณฑ์ จัดตั้งกองสตาร์ทอัพพัฒนาวัสดุขึ้น ด้วยเงินลงทุนกว่า 6,000 ล้านเยน
จากความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นทั้งหมดนี้
จะเป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องหันมาตระหนักถึงการใช้พลาสติกชีวภาพมากขึ้น
โดยจะส่งผลต่อการสั่งซื้อนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกรวมถึงไทย
ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของญี่ปุ่น
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และแผนระยะยาว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าญี่ปุ่น
และเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันเอาไว้ให้ได้
เศรษฐกิจหมุนเวียน เมกะเทรนด์ของโลก