คนไทยส่วนมากนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นเพียง
3 ช่วงเท่านั้นคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อไปดูดอกซากุระบาน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี(ฤดูใบไม้ร่วง)
และช่วงหิมะตกในฤดูหนาว
แต่หารู้ไม่ว่าฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั้นเป็นช่วงที่ทั้งประเทศจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสของดอกไม้นานาพันธุ์
(กรกฎาคม – สิงหาคม )
ลองจินตนาการว่าถ้าคุณได้ยืนอยู่ในทุ่งท่ามกลางดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดที่ชูช่อบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมไปทั่วตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้าโดยมีด้านหลังเป็นภูเขา สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด
จะมีความสุขเพียงใด
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme

ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) เป็นฟาร์มที่โด่งดังมาก
สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี เพราะถือว่าเป็นจุดชมทุ่งลาเวนเดอร์สีรุ้งที่งดงามที่สุดของเมืองเลยทีเดียว เนื่องจากได้ฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ(Tokachi
mountain) มาเพิ่มความงดงามให้เป็นภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ภายในฟาร์มมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงไอศกรีมกลิ่นลาเวนเดอร์อันเลื่องชื่อซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดเช่นกัน ส่วนของที่ระลึกที่ควรซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกลาเวนเดอร์ ที่มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายความเครียด นอนหลับสบาย รวมถึงครีมบำรุงที่ช่วยลดอาการคันหรือบวมแดง ผื่นผิวหนังอักเสบ ผิวไหม้แดด
อีกสถานที่หนึ่งที่แนะนำคือ Highland Furano เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟูราโน ภายในมีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก จุดขายอีกอย่างของที่นี่คือการได้นอนแช่ออนแซ็นแล้วชมวิวสวย ๆ ของทุ่งดอกไม้ไปด้วย
แต่ใช่ว่าที่ฮอกไกโดจะมีสถานที่เพียง 2 แห่งที่สามารถชื่นชมกับดอกไม้เท่านั้น เพราะความจริงในช่วงฤดูร้อนนั้น เป็นช่วงของดอกไม้นานาพันธุ์จะเบ่งบานไปทั่วทั้งเกาะ อาทิ ดอกพิงค์มอส หรือคนญี่ปุ่นเรียก “ชิบะซากุระ” ดอกป๊อปปี้ ดอกทิวลิป ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกอาจิไซ (Ajisai) ซึ่งถ้าได้ไปเห็นจะอะเมซซิ่งมากเพราะขนาดดอกใหญ่เกือบเท่าใบหน้าเลยทีเดียว ดอกผีเสื้อ ดอกเรปซีด (Rapeseed) ดอกลิลลี่ เป็นต้น
เพียงแค่เดินเล่นอยู่ในเมืองซับโปโรก็สามารถพบเห็นและชื่นชมดอกไม้เหล่านี้ได้ตามสวนสาธารณะทุกแห่ง หรือตามริมทางเดินที่มีการนำไม้ดอกใส่กระถางมาประดับให้บรรยากาศของเมืองสดใสต้อนรับฤดูร้อนอันสดใส หรือนั่งรถไฟไปชานเมืองซับโปโรก็มีทุ่งดอกไม้หลายแห่งที่ขึ้นชื่อให้เดินเล่นชมความงามเช่นกัน
อีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำให้ไปชื่นชมกับทุ่งดอกไม้ไปพร้อม
ๆ กับชมภูเขาไฟฟูจิไปด้วย นั้นคือทะเลสาบคาวากูจิโกะ
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว
คาวากูจิโกะ
เป็นหนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ แต่ถือว่าทะเลสาบแห่งนี้อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิที่สุด
เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ที่มีภูเขาไฟฟูจิอลังการตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามทะเลสาบเลย
โดยมีสวนโออิชิ (Oishi
Park) เป็นไฮไลต์ของที่นี่
ฤดูร้อนของสวนโออิชิจะสะพรั่งไปด้วยดอกไม้ทั้งทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยไม่แพ้ฟูราโน รวมถึงดอกไม้หลากสีสันของฤดูร้อนที่พร้อมใจกันมาเบ่งบานชูช่ออวดกันใกล้ ๆ ภูเขาไฟฟูจิที่ยอดเขายังพอมีน้ำแข็งเกาะอยู่เล็กน้อย แต่วิวที่แปลกกว่าหน้าหนาวคือภูเขาไฟฟูจิมีเมฆลอยคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
ที่สวนแห่งนี้นอกจากทุ่งดอกไม้แล้วยังขึ้นชื่อเรื่องปลูกสมุนไพรต่าง
ๆ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย
จนกลายเป็นการจัดงานประจำปี Kawaguchiko Herb Festival สำหรับปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่
14 มิถุนายน – 7 กรกฏาคม
ภายในงานนอกจากจะเป็นช่วงพีคของทุ่งลาเวนเดอร์และดอกไม้อื่น ๆ แล้ว
ยังมีงานออกร้านโดยคนในชุมชนนำผลิตภัณฑ์ที่ทำเองในแพคเกจจิ้งสวย ๆ
มาจำหน่ายอีกด้วย
หนีฝนบ้านเราไปชมสีสันของดอกไม้เบ่งบานที่ญี่ปุ่นกันเถอะ