ประเทศในอาเซียนต่างกำหนดทิศทางประเทศในด้านการค้า
การลงทุน ที่คล้ายคลึงกันนั่นคือการพัฒนาเชิงพื้นที่เพื่อกระตุ้นการลงทุนต่างชาติ
ซึ่งเป็นโอกาสดีที่อาเซียนเป็นฐานการผลิตของโลกทำเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เติบโตสวนกระแสการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
ในที่นี้เลยถือโอกาสไปส่องการพัฒนาเชิงพื้นที่ของเพื่อนบ้าน คือ สปป.ลาว ซึ่งมีน่าสนใจหลายที่ แต่ที่ดูร้อนแรงและนักลงทุนไทยให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ คือ “เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของ สปป.ลาว ตั้งอยู่ที่แขวงสะหวันนะเขต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 หรือก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ในปีนี้ แบ่งพื้นที่การลงทุนด้านต่าง ๆ ออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
โซน A กำหนดให้เป็นเขตศูนย์กลางทางการค้าและการบริการ
เช่น ร้านค้าปลอดภาษี โรงพยาบาล ร้านอาหาร ศูนย์การประชุม และสวนสนุก มีพื้นที่
1,906.25 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตนครไกสอนพมวิหาน
โซน B กำหนดให้เป็นเขตศูนย์บริการขนส่งและกระจายสินค้า
(Logistics) มีพื้นที่ 125 ไร่
ต่อมามีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมในเขต B1
มีพื้นที่ 2,206.25 ไร่ ตั้งอยู่ที่เมืองอุทุมพอน รวมมีพื้นที่ 2,331.25 ไร่
โซน C กำหนดให้เป็นเขตอุตสาหกรรมและการค้า มีเนื้อที่
1,462.5 ไร่ ปัจจุบันมีบริษัทต่าง ๆ เข้ามาลงทุนในเขตแล้ว จำนวน 55 บริษัท อาทิ
บริษัท Aeroworks Co., Ltd (เนเธอร์แลนด์
– ชิ้นส่วนตกแต่งภายในอากาศยาน) บริษัท Toyota Boshoku
Lao Co., Ltd (ญี่ปุ่น – ที่คลุมเบาะรถยนต์) บริษัท Celestica Lao Co., Ltd. (แคนาดา –
ผลิตและประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์โทรคมนาคม อุปกรณ์คอมพิวเตอร์)
และบริษัท Urai Paints Lao Co., Ltd (ไทย
– สีทาบ้าน)
โซน D กำหนดให้เป็นเขตที่อยู่อาศัยและบ้านจัดสรร
เพื่อรองรับนักลงทุน แรงงานที่เข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน
และเป็นที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาพื้นที่ในเขตโซน A มีเนื้อที่ 550 ไร่
ตั้งอยู่ในเขตนครไกสอนพมวิหาน
ปัจจุบันมีบริษัทต่าง ๆ เข้ามาลงทุนแล้ว 97 บริษัท มูลค่าการลงทุนกว่า 10,540 ล้านบาท ทุนจดทะเบียน 4,528 ล้านบาท คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 2561 จะมากกว่า 13,440 ล้านบาท
สิทธิประโยชน์ที่เอื้อต่อการลงทุน
- การยกเว้นภาษีนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ผลิตภายในโครงการ
- นักลงทุนต่างประเทศสามารถลงทุนได้ร้อยละ 100
โดยไม่ต้องร่วมทุน
- สิทธิการเช่าที่ดิน 75 ปี และสามารถต่อได้
- สิทธิการยกเว้นค่าเช่าที่ดินสูงสุด 12 ปี
- การยกเว้นภาษีกำไร 2-10 ปี
(ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ) จากนั้นภาษีจะถูกกำหนดไว้ที่ร้อยละ 8 -10
- ภาษีบุคคลธรรมดาเสียในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ
ร้อยละ 5 จากทั่วไปที่จะเสียอยู่ที่อัตราร้อยละ 10)
- มีศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน
(One Stop Service)
นอกจากนี้ สปป.ลาว
ยังได้รับสิทธิพิเศษทางด้านการค้า อาทิ สิทธิพิเศษทั่วไป (Generalized System of Preferences – GSP) จาก
38 ประเทศ
สิทธิพิเศษของประเทศกำลังพัฒนาที่สมัครใจให้สิทธิพิเศษแบบฝ่ายเดียวแก่ประเทศด้อยพัฒนา
สิทธิพิเศษภายใต้เขตการค้าเสรี (Free trade areas – FTAs)
ดังนั้นนักลงทุนที่เข้ามาดำเนินกิจการในเขตจึงได้สิทธิประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางด้านการค้าของ
สปป.ลาว
แขวงสะหวันนะเขตได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน
เพราะนอกจากจะดึงดูดการลงทุนแล้ว ยังเพิ่มการจ้างงานให้กับชาวลาวได้มากขึ้น
ปัจจุบันมีแรงงานที่ทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด 4,236 คน เป็นแรงงานชาติ 119
คน และแรงงานลาว 4,117 คน
แขวงสะหวันนะเขตจึงพยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคในเขตให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
และเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการแก่ผู้ลงทุน
เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน จึงเป็นอีกช่องทางการลงทุนของนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะสร้างโอกาสจากสิทธิประโยชน์และนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนของรัฐ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์กับทั้งผู้ลงทุนและสปป.ลาว หรือ win-win ทั้งสองฝ่าย
อีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย
ในช่วงหลังของปี 2562 จะมีเขื่อนไฟฟ้ากว่า 20
แห่งในลาว ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมกำลังการผลิตติดตั้งไม่ต่ำกว่า 2,000
เมกะวัตต์ ซึ่งเขื่อนไฟฟ้าเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ
สปป. ลาว ให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.7
ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับที่สภาแห่งชาติลาวรับรอง
ภายหลังมีการปรับลดแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม 5 ปี (2559 – 2563) ของรัฐบาล สปป.
ลาว จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 6.7
และอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวได้ในระดับร้อยละ 7 ในช่วงหลังของปี 2562 –
2563
ทั้งการส่งเสริมการลงทุนโครงการใหญ่ๆ
ให้มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงานล่าสุด เช่น
การแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางของโครงการก่อสร้างทางด่วนนครหลวงเวียงจันทน์ – วังเวียง
โครงการก่อสร้างทางด่วนศูนย์การค้า Lao-ITECC – ดงหมากคาย
และโครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีน ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าร้อยละ 80 – 90
และจะให้สำเร็จตามแผนงานพร้อมเปิดใช้งานในปี 2564
ไม่ธรรมดาสำหรับเศรษฐกิจของ สปป.ลาว หลังจากนี้
เพราะเปิดรับเต็มที่เน้นพัฒนาในทุกด้าน ตัวเลขจีดีพีปีนี้หรูแน่นอน !!!
อ้างอิง : สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต