แม่กำปองเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขาสูง
ซ่อนตัวอยู่ในสายหมอกท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของป่าเขียวขจี น้ำตกและลำธารใส
วันหนึ่งเมื่อสายหมอกจางลง มีนักท่องเที่ยวที่บังเอิญผ่านไปพบเสน่ห์ของแม่กำปองแล้วโพสต์ลงในโลกออนไลน์ เผยความงดงามของแม่กำปองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แห่กันไปเพื่อพิสูจน์ว่ายังมีสวรรค์น้อย ๆ บนโลกใบนี้อยู่อีกเหรอ???
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
บ้านแม่กําปอง เชียงใหม่ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่เพียงแค่ 6.22 ตารางกิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตรเท่านั้น แม่กำปองมีประชากรเพียง 362 คนมีบ้านเรือนเพียงแค่ 132 หลังคาเรือน อาชีพหลักของชาวชุมชนคือ การทำเมี่ยง (ชา) อาชีพรองคือ การปลูกกาแฟ ค้าขาย และรับจ้าง
ผู้เขียนไปเยือนแม่กำปองครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนช่วงที่นักท่องเที่ยวยังเพิ่งจะตื่นตาตื่นใจกับมนตร์เสน่ห์ของที่นี่ ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ลัดเลาะขึ้นเขาด้วยความสูง 1,500 เมตรจากน้ำทะเลไม่นาน ก็มาเจอถนนดินลูกรังเล็ก ๆ เพียงเส้นเดียวที่ลดเลี้ยวไปตามซอกมุมของหมู่บ้าน เพราะมาช่วงหน้าฝนแม่กำปองจึงเงียบสงบไร้นักท่องเที่ยว ทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง
ถ้าจะบอกว่าแม่กำปอง สวยงาม สงบ เหมือนสวรรค์น้อย ๆ บนโลกใบนี้ ถือเป็นคำเอ่ยอ้างที่ไม่น่าจะเกินจริง
บ้านเรือนแต่ละหลังเป็นบ้านไม้เก่า ๆ สร้างอยู่ตามบนเนินเขา ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ดูสงบร่มรื่นมาก ที่นี่อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 28องศาเซลเซียส อากาศจึงเย็นและชื้นเพราะมีน้ำตกอยู่ใกล้ ๆ จึงทำให้บ้านทุกหลังมีหญ้ามอสส์สีเขียวจับจองอยู่เต็มหลังคาไปหมด อดนึกถึงภาพหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโกะ ประเทศญี่ปุ่นที่มีหิมะปกคลุมหลังคาไม่ได้ พิสูจน์ว่าของเมืองไทยเราก็สวยไม่แพ้กัน
ที่สำคัญคือที่นี่มีลำธารเล็ก ๆ
ไหลลัดเลาะไปตามบ้านเรือนแทบทุกหลัง
ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลเอื่อย ๆ เหมือนมีเสียงเปียโนคลอเบา ๆ ช่างโรแมนติกมาก
ลองคิดดูว่าจะหาที่ไหนที่มีลำธารไหลผ่านหน้าบ้านแบบนี้ได้บ้าง ขนาดตามหมู่บ้านจัดสรรหรือโรงแรมยังต้องลงทุนขุดสระหรือลำธารเอาไว้หลังบ้านให้ลงว่ายน้ำได้
แค่เดินเล่นรอบ ๆ มองดูบ้านเรือนสูดอากาศบริสุทธิ์ในป่าที่มีระบบนิเวศน์สมบูรณ์ เมื่อยก็แวะจิบกาแฟร้อน ๆ มองดูป่าเขียวขจีที่ไกลสุดลูกหูลึกตา แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
สำหรับสายบุญแนะนำ วัดคันธาพฤกษา หรือ วัดแม่กำปอง เป็นวัดเก่าแก่หนึ่งเดียวของหมู่บ้าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2473 บริเวณวัดร่มครึ้มด้วยไม้ใหญ่ มีวิหารเก่าแก่สร้างจากไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สัก เป็นลวดลายแบบล้านนา และที่เรียกว่า unseen คือพระอุโบสถที่ตั้งอยู่กลางลำธารสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี
ถัดจากวัดถ้าเดินเล่นไปเรื่อย ๆ จะเจอน้ำตกน้ำตกแม่กำปองก ซึ่งเป็นต้นน้ำที่จะไหลไปเป็นลำธารผ่านหมู่บ้าน น้ำตกแห่งนี้จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปีแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า แต่ถ้ามาช่วงหน้าฝนน้ำตกก็จะสวยงามกว่าฤดูอื่นๆ เพราะน้ำไหลแรง
นักท่องเที่ยวมาเยือนแม่กำปองจะเดินเที่ยวแค่ 1 วัน
หรือจะค้างสักหนึ่งคืนก็ได้
เพราะหมู่บ้านเล็ก ๆ เดินชิว ๆ วันเดียวก็ได้ครบทุกอย่าง
แต่ถ้าอยากจะสัมผัสกับวิถีชีวิตในชุมชนก็ควรจะนอนพักสัก 1 คืน
ซึ่งปัจจุบันแม่กำปองมีโฮมสเตย์สวย ๆ ของชาวบ้านผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ถ้ามาหน้าฝนราคาก็ไม่แรง คืนละ 500 บาทรวมอาหารเช้าก็ยังหาได้อยู่