สภาข้อมูลอาหารระหว่างประเทศ วิเคราะห์และคาดการณ์หลังทำการสำรวจด้านอาหารและสุขภาพในช่วงยุค
COVID-19 ในปี 2563 พบว่าคนอเมริกันร้อยละ 54
และคนอเมริกันผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปร้อยละ 63
สนใจการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้คนอเมริกันร้อยละ
43 นิยมรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ เพิ่มขึ้นจากปี 2561-2562 ร้อยละ
38 และ 36 ตามลำดับ
ขณะเดียวกันมีการบริโภคอาหารบางประเภทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งน่าจะชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเทรนด์อาหารในตลาดสหรัฐอเมริกาในปี 2564
โดยผลิตภัณฑ์อาหารที่คนอเมริกันบริโภคเพิ่มขึ้นอันดับแรกๆ ได้แก่ โปรตีนจากพืช เพิ่มขึ้นร้อยละ 28, บริโภคนมจากพืช เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และบริโภคพืชทดแทนเนื้อสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับปี 2562 สำหรับการบริโภคอาหารประเภทของคบเคี้ยวคิดเป็นร้อยละ 26 และอีกร้อยละ 74 พยายามลดอาหารที่มีน้ำตาล
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าว
จะส่งผลต่อความต้องการสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐฯ ในอนาคต โดยตัวบ่งชี้ 4
เทรนด์หลักจากการสำรวจ พบว่าในปี 2563 ผู้บริโภคสหรัฐนิยมบริโภคอาหารดังต่อไปนี้
1. อาหาร plant-based หรืออาหารที่ผลิตขึ้นจากพืชเป็นส่วนประกอบหลักอย่างน้อยร้อยละ
95 อาทิ พืช ผัก ผลไม้ ฯลฯ จะขยายตัวและมีวางจำหน่ายในตลาดมากขึ้น
2.
ผู้บริโภคนิยมอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีและอาหารเสริมเพิ่มภูมิต้านทาน
3. ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ
เครื่องดื่ม Driftwell ของบริษัท Pepsi
ที่ช่วยผ่อนหลายและช่วยให้หลับสบาย
4. มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์อาหาร
เพื่อให้ข้อมูลและองค์ความรู้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น
ขณะเดียวกันก็ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับเกี่ยวกับวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตอาหาร
กระบวนการผลิต การขนส่ง ฯลฯ ซึ่งบนบรรจุภัณฑ์อาหารจะมีรหัส QR codes ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
COVID-19 ตัวเร่งกระแสสุขภาพมากแรง
นอกจากชี้ให้เห็นถึงเทรนด์อาหารที่กำลังมาแรงแล้ว
ผลการสำรวจของสภาข้อมูลอาหารระหว่างประเทศ ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ นครชิคาโก นำข้อมูลบางส่วนมาเผยแพร่แก่ผู้สนใจ ยังพบว่าผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องถึงสถาบันครอบครัว
ประเด็นที่น่านำมาพิจารณา คือหลังเกิดการแพร่ระบาดของโรค สมาชิกในครัวเรือนอเมริกันได้ร่วมกันเรียนรู้การปรุงอาหารมากขึ้น
โดยคนที่อายุระหว่าง 18-23 ปีจะหันมารับประทานผักและโปรตีนจากพืชมากขึ้น
เช่น dry beans, lentils, tofu หรือการทำเบอร์เกอร์ด้วยผัก
ขณะเดียวกันก็ลดการรับประทานอาหารประเภทจานด่วน
หรือแฮมเบอร์เกอร์ลง
โดยผู้บริโภคบางส่วนหันไปรับประเทศอาหารที่ผลิตในชุมชนหรือในย่านใกล้เคียงที่พักอาศัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับซัพพลายเชน รวมทั้งการขนส่งสินค้าในช่วงต้นของการระบาดของไวรัส
COVID-19
แต่กระแสรักสุขภาพ กับ COVID-19 เป็นตัวเร่งทำให้ผู้บริโภคอเมริกันหันมาใส่ใจกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
เป็นแรงผลักดันให้เกิดความนิยมในการบริโภคโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว รวมถึงเห็ด และสาหร่ายทะเล
และการนำพืชมาทำเป็นอาหารทดแทนเนื้อสัตว์
อาหารผลิตจากพืชจึงถือเป็นสินค้าที่มีอนาคตสดใสอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสโลกกำลังมุ่งไปสู่ไปการกินเพื่อสุขภาพ ความนิยมในอาหารผลิตจากพืชขยายตัวจากครัวเรือน
และตลาดแบบ Niche หรือตลาดเฉพาะกลุ่ม
ไปสู่ตลาดหลักของประเทศ (Mainstream) อย่างรวดเร็ว
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากที่โรงงานผลิตอาหารในสหรัฐฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสทางการตลาด หลายบริษัทจึงได้ลงทุน วิจัย พัฒนา พร้อมนำเสนอสินค้าอาหารทำจากพืชมาทดแทนเนื้อสัตว์กันมากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจและผู้ประกอบการไทยควรนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจขยายฐาน ต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารไทยเจาะตลาดสหรัฐอเมริกา