สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19
ในมาเลเซียถือว่าวิกฤติไม่น้อย เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ ใกล้หลักหมื่นเข้าไปทุกที
ส่งผลให้รัฐบาลมาเลเซียต้องประกาศใช้มาตรการห้ามพลเมืองจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด
19 เกิน 1.5 แสนรายเข้าประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ
วิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายการทำงานของรัฐบาล และเป็นจังหวะที่ทำให้มองเห็นจุดอ่อน ทั้งปัญหาความไม่สอดคล้องกันระหว่างอุปสงค์และอุปทานแรงงาน กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่ซับซ้อน ความอ่อนด้อยทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นประเด็นที่จะนำไปสู่การปฏิรูป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระบุว่า รัฐบาลมาเลเซียเตรียมประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ในอีก
9 เดือนข้างหน้า หรือประมาณต้นปี 2564 ประกอบด้วย 3 แผน คือ
แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาว, แผนงบประมาณปี 2564 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 12 (12 MP)
โดยแผน 12 MP จะถือเป็นแผนยุทธศาสตร์และมาตรการที่สำคัญที่จะกำหนดทิศทางของมาเลเซียในอีก
5 ปี ข้างหน้า หรือราวปี 2564-2568 ตามวิสัยทัศน์ Share Prosperity Vision 2030 และวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ 2030
ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สร้างโอกาสให้ภาคประชาชน
Datuk Sri Mustapa รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของมาเลเซีย กล่าวว่า
การเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น
เพราะจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นอ่อนแอ
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการปฏิรูป
จากก่อนหน้านี้มีการแข่งขันรุนแรงขึ้นในช่วงหลายวรรษที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียได้พยายามดำเนินมาตรการหลายด้าน
ในการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทั้ง การจัดทำโครงการที่มีชื่อว่า MyMudah เพื่อสร้างความคล่องตัวให้ระบบราชการ
ลดปัญหาความยากง่ายในการเข้ามาประกอบธุรกิจในมาเลเซีย ซึ่งต้องใช้เวลา 17 วัน
ถือว่านานมากเมื่อเทียบกับสิงคโปร์และฮ่องกงที่ใช้เวลาเพียง 1.5 วัน หรือเกาหลีใต้ที่ใช้เวลา
8 วัน
ขณะที่ปัญหาทักษะแรงงานชาวมาเลเซีย
ซึ่งมีทักษะต่ำเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด
มาเลเซียจึงเป็นประเทศที่พึ่งพาแรงานต่างชาติ โดยในปี 2562
มีจำนวนแรงงานต่างชาติในภาคเกษตรกรรมคิดเป็นสัดส่วน 32% ภาคก่อสร้าง 23%
ภาคการผลิต 22% และภาคบริการ 10% ของการจ้างงานทั้งหมด
ซึ่งแนวทางการแก้ไขของรัฐบาลพยายามปรับปรุงระบบ Portal บริการจัดหางานแห่งชาติ
เพื่อจัดหาตำแหน่งงานให้ตรงตามความต้องการและทักษะของแรงงานมากที่สุด
ส่วนการแก้ไขจุดอ่อนด้อยทางเทคโนโลยีนั้น
รัฐบาลได้พัฒนาโดยเพิ่มการใช้เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติสามารถเข้าถึงธุรกิจต่างๆ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดการพึ่งพาแรงงานที่มีทักษะต่ำ
ไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลมาเลเซียยังตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้าและบริการจากร้านค้าปลีกและร้านค้าออนไลน์สำคัญในแคมเปญ
Buy
Malaysia 2020 อย่างน้อย 513
ล้านริงกิต เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
โดยแคมเปญนี้ได้ดึงผู้ประกอบการค้าปลีกออนไลน์ชั้นอย่าง Shopee
Malaysia นำเข้าร่วม
เพื่อช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
19 ให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้
ตัวอย่างทั้งหมดนี้เป็นโมเดลขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของมาเลเซีย ซึ่งไทยต้องจับตามมองอย่างชิด เพราะมาเลเซียไม่ใช่เพียงเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน แต่ยังเป็นคู่แข่งด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งต้องการดึงดูดการลงทุนจากประเทศเช่นเดียวกับไทย
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<
โควิดแช่แข็งอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียน
โควิดทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘ยางแผ่นดิบขาดตลาด’