กลยุทธ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ
โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการณ์ต่างๆ กลยุทธ์ที่ดี ถูกจังหวะเวลา
และตอบสนองตรงจุดตามความต้องการของลูกค้า
จะเป็นโอกาสที่ทำให้ธุรกิจสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ หรือเติบโตได้ ซึ่งกรณีนี้ขอหยิบยกการใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสได้อย่างเหมาะเจาะ
โดยบริษัท PANERA BREAD COMPANY เป็นร้านค้า CHAIN STORE สไตล์อเมริกันจำหน่ายอาหารแบบ QUICK MEAL เช่น เบเกอรี่ พาสต้า สลัด แซนวิช ซุปและเครื่องดื่มต่างๆ มีสาขามากกว่า 2,000 แห่งทั่ว สหรัฐอเมริกาและแคนาดา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่รัฐ MISSOURI และยังเป็นบริษัทในเครือของ JAB HOLDING ที่เป็นเจ้าของ AU BON PAIN อีกด้วย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
PANERA ได้พยายามปรับกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมอาหารอย่างรวดเร็ว เพื่อความอยู่รอดในช่วงวิกฤต
COVID-19 พยายามขจัดอุปสรรคสำคัญ คือ ‘การแย่งชิงช่องทางการจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภค’ ระหว่าง FRESH DIRECT INSTACART และ AMAZON โดยบริษัท PANERA และร้านค้าในเครือทั้ง 2,000
แห่ง จึงได้ผันตนจากร้านจำหน่ายอาหารแบบ QUICK FOOD หรืออาหารจานด่วน มาเป็น ‘GROCERY’ หรือโชห่วย โดยชื่อ
“PANERA GROCERY”
รวมทั้งได้มีการเพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นภายในร้าน
เช่น นมผง โยเกิร์ต มะเขือเทศ อะโวคาโดและอื่นๆ
โดยทางร้านจะจัดส่งสินค้าผ่านเครือข่ายของ PANERA ซึ่งมีบริการกว่า 10,000 ราย
โดยจะสามารถรับสินค้าที่ร้านในสาขาต่างๆ รับแบบ DRIVE THROUGH เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าโดยใช้เวลาส่งมอบไม่เกิน 40 นาที
และผู้จัดส่งจะไม่มีการสัมผัสอาหารใดใด เช่นเดียวกับการขับรถไปรับสินค้าที่ร้าน
นาย NIREN CHAUDHARY (CEO) ของบริษัท
PANERA เล็งเห็นปัญหาความขาดแคลนสินค้าอุปโภคและบริโภคเป็นจำนวนมาก
และความต้องการสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน จึงได้นำมาปรับกลยุทธ์ของบริษัท PANERA
โดยใช้โอกาสในเรื่องช่องทางการจำหน่ายที่มีเป็นจำนวนมากของบริษัทมาใช้ประโยชน์ดังกล่าว
โดยหวังว่าเมื่อลูกค้าสั่งขนมปังและแอปเปิ้ลแล้ว พวกเขาอาจจะสั่งอย่างอื่นเพิ่ม
เช่น ซุปหรือสลัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทไม่ขาดทุน
ดังเช่นเมื่อเดือนที่ผ่านมาบริษัทต้องปิดร้านประมาณ 300 ร้าน
หรือประมาณ 15% ของร้านทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเพื่อการรักษาพนักงานที่มีอยู่บริษัท จึงจำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โปรแกรมจำหน่ายสินค้า GROCERY ของบริษัทนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่ออุดช่องโหว่ของการสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้านที่มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ เมื่อผู้บริโภคจำนวนมากเปลี่ยนการพฤติกรรมซื้ออาหารเกือบทั้งหมดที่ร้าน GROCERY ส่งผลให้อุปทานอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายอาหารได้รับผลกระทบ โปรแกรมดังกล่าวยังได้ช่วยเหลือเกษตรและฟาร์มปศุสัตว์ในการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค ตลอดจนเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ค้าส่งสินค้าอาหารให้กับร้านอาหารอีกด้วย บริษัท PANERA ได้เริ่มโปรแกรมดังกล่าวเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะได้มีการติดตามผลประเมินภายหลังวิกฤติอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าท่ามกลางการระบาดของไวรัส
COVID-19 ผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจต่างๆ
ในประเทศไทย ก็ต่างพยายามหาช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากที่สุด
โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่ต้องพึ่งพิงบริการจัดส่งอาหารของแพลตฟอร์ม Delivery
คนกลาง ซึ่งย่อมมีค่า Gross Profit (GP) หรือส่วนแบ่งจากยอดขายอาหาร
ทั้งยังต้องบวกค่าส่งจากผู้บริโภคด้วย
อาจทำให้ต้นทุนอาหารที่สั่งออนไลน์ต่อมื้อสูงขึ้น
แต่ผู้บริโภคเองก็ไม่สามารถจะมีทางเลือกมากนักในช่วงนี้
จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ร้านค้า ร้านอาหารสามารถแก้ไขตรงจุดนี้ได้
ฝากไปคิดต่อ ไม่แน่ธุรกิจคุณอาจเป็นผู้เปลี่ยนแปลงสิ่งเดิมๆ ในสังคมก็ได้
อ้างอิง : GROCERY FORBE.COM
สคต. ณ นครนิวยอร์ก