เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนความเคยชินเดิมๆ
แม้แต่การสัมผัสเงินสด เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
ประเด็นนี้ทำให้น่าจับตาว่า สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society จะยิ่งเติบโตและขยายตัวคลอบคลุมรวดเร็วยิ่งขึ้น กลายเป็น New
Normal ด้วยเช่นกัน
เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคของคนทั้งโลกหลังวิกฤตครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก
จากผลสำรวจพบว่าคนไทยกว่า 7 ใน 10 หรือ 69% มีแนวโน้มจะหันมาใช้การจ่ายเงินแบบดิจิทัลแทนการใช้เงินสดแบบเดิม
ทั้งผลจากวิกฤตโควิด-19 นี้ทำให้คนไทยต้องล็อกดาวน์อยู่บ้าน
และมีเวลาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หันมาซื้อของออนไลน์แทนการเดินช้อปปิ้งที่ห้างมากกว่าปกติ
ซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรม E-Commerce ของไทยในช่วงโควิด-19
นี้กระตุ้นให้คนหันมาใช้เงินออนไลน์ โอนผ่านบัญชีต่างๆ
เพื่อจับจ่ายสินค้ามากกว่านักช้อปทั่วโลกเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของคนไทยนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลกถึง 35% โดยคนไทยมากกว่าครึ่งชื่นชอบที่จะจ่ายเงินซื้อสิ่งเหล่านี้โดยไม่ใช้เงินสดมากกว่า
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
New Normal ใหม่ๆ
ส่งเสริมให้สังคมไร้เงินสดเกิดเร็วขึ้น
จากรายงานของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ
ทำให้รู้ว่าโรคโควิด-19 นี้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ
ของคนในสังคมเยอะมาก หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการใช้เงินสด
โดยคนทั่วไปจะหันมาจ่ายเงินสดน้อยลง และเปลี่ยนมาจ่ายสินค้าและบริการอื่นๆ
ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ซึ่งพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นจากการที่คนทั่วไปถูกสั่งให้ทำงานที่บ้าน
และมีการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างอยู่บ้านเยอะ
การเข้าเว็บออนไลน์เพื่อช้อปปิ้งต่างๆ จึงมากขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งการที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ปิด
จึงมีช่องทางเดียวที่จะทำให้ได้สินค้าและบริการเหล่านั้นมาไว้ในครอบครอง
นั่นคือการใช้บริการจ่ายเงินออนไลน์ผ่านแอปฯ หรือกระเป๋าตังค์ e-wallet ต่างๆ
และนอกจากนี้การจ่ายเงินออนไลน์ยังช่วยลดโอกาสในการแพร่เชื้อไวรัสได้อีกด้วย
ธุรกิจต้องสร้างช่องทางจ่ายเงินออนไลน์เป็นช่องทางหลัก
ด้วยความที่ New Normal ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป
ธุรกิจน้อยใหญ่เองก็ต้องปรับตัวตาม โดยสิ่งที่จะทำให้คุณได้รับความนิยมมากขึ้น
ก็คือการเพิ่มช่องทางการชำระเงินเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
รวมถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องของราคา เพราะผู้บริโภคได้เรียนรู้ถึงความเสี่ยงของการไม่มีเงินสดติดมือแล้ว
พวกเขาจะระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น
ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะนำเสนอบริการ
สินค้า และโปรโมชั่นที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปรโมชั่นช้อปปิ้งออนไลน์ หรือบริการจัดส่งสินค้าต่างๆ
ซึ่งเป็นความต้องการที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
เพราะถึงแม้ผู้ที่ใช้บริการซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดจะเป็นกลุ่ม
Gen Y ก็จริง แต่ในขณะเดียวกันผู้สูงอายุอย่าง Baby
Boomer เองก็ปรับตัวและหันมาเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ดังนั้นโอกาสในการขายจะเพิ่มมากขึ้นแน่นอนถ้าคุณเปลี่ยนตัวเองตาม
New Normal และกระแสที่สังคมต้องการในปัจจุบัน
ด้วยความที่เทรนด์การใช้จ่ายต่างๆ
ของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป ทำให้การหันมาช้อปปิ้งออนไลน์
และเลือกใช้จ่ายแบบไร้เงินสดนั้นเพิ่มขึ้น
จึงเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องปรับแผนการทำธุรกิจให้เป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภค
มีช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย
ในขณะเดียวกันก็ออกโปรโมชั่นส่งเสริมการขายออนไลน์ให้มากขึ้น
เช่น มีส่วนลด และราคาพิเศษต่างๆ
ก็จะสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นกว่าเดิม จาก New Normal ที่เกิดขึ้น
อีกประเด็นที่น่าจับตาคือ E-wallet ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลากหลายรายมากขึ้น ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถใช้กลยุทธ์ร่วมส่งเสริมการใช้ จัดโปโมชั่น และรายการส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อจูงใจในการใช้จ่ายมากขึ้น และคาดว่าจะเป้นกระเป๋าเงินที่เติบโตเร็วมากหลังโควิด-19 ซึ่งผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะคน Gen Y และ Gen Z นิยมใช้
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<