จะมีโซลูชั่นแบบไหนบ้างที่ทำให้เกิดการนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) ได้? ซึ่งจากข้อมูลปี 2562 คนไทยนำถุงพลาสติกกลับบ้านมากกว่า 5,000 ล้านถุงในแต่ละปี และนับเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากที่ส่วนใหญ่ถุงดังกล่าวไม่ได้เกิดการนำกลับมาใช้ซ้ำมากนัก แม้ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยเองก็มีนโยบายในการลดการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งทุกคนต่างยกความผิดให้ถุงพลาสติกเป็น ‘ผู้ร้าย’ ทำลายสิ่งแวดล้อมโลก เป็นต้นเหตุของการเกิดภาวะเรือนกระจกไปโดยปริยาย ขณะที่มองอีกมุมกลับเห็นว่า ถุงพลาสติกอาจจะช่วยโลกได้มากกว่า ‘ถุงผ้า’ หรือ ‘ถุงกระดาษ’ ด้วยซ้ำ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ข้อมูลจากรายงานของนักวิจัยจาก Nanyang Technology University (NTU) ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งได้ทำโมเดลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของถุงช้อปปิ้งชนิดต่างๆ
และรายงานว่าสำหรับการใช้งานในตัวเมืองอย่างสิงคโปร์นั้น
ถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวที่ทำจาก high-density polyethylene (HDPE) ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ทำพลาสติกขวดน้ำแบบขุ่นนั้น สร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าถุงกระดาษหรือถุงผ้าฝ้ายชนิดใช้ซ้ำได้
รายงานระบุอีกว่า ถุงพลาสติกชนิดใช้ซ้ำได้ที่ทำจาก
polypropylene หรือ PP ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกคุณภาพที่นำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆ
ถือเป็นถุงชนิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด
ตามมาด้วยถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียว
ในขณะที่ถุงกระดาษและถุงผ้านั้นมีผลกระทบในการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนและการปล่อยสารพิษในการผลิตที่สูงกว่าการผลิตถุงพลาสติก
การศึกษานี้สอดคล้องกับงานวิจัยอื่นๆ
ที่มีมาก่อนหน้านี้ นั่นคือเมื่อคำนึงถึงกระบวนการทั้งหมดในการผลิตแล้ว
ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของถุงกระดาษและถุงผ้าฝ้ายนั้นมีสูงกว่าถุงพลาสติกมาก
โดยในกรณีของถุงผ้าฝ้ายนั้นเริ่มตั้งแต่การปลูกฝ้ายที่ต้องใช้น้ำมันในการทำการเกษตร
ทั้งการเตรียมพื้นที่ การปลูก และการเก็บเกี่ยว มีการใช้น้ำสำหรับปลูก
และยากำจัดศัตรูพืช ไปจนถึงขั้นตอนการทำเส้นใยฝ้ายและการผลิตเป็นถุง
การผลิตถุงกระดาษนั้นก็เช่นกัน คือต้องเริ่มกระบวนการตั้งแต่การปลูกต้นไม้และการใช้น้ำในกระบวนการผลิต
จากงานวิจัยดังกล่าวได้พยายามบ่งชี้ว่า
“ถุงพลาสติกชนิดใช้ซ้ำได้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดถ้าหากพวกมันถูกใช้ซ้ำอย่างน้อย
50 ครั้ง อย่างไรก็ตามหากถุงพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวถูกนำไปจัดการอย่างถูกต้องแล้ว
ก็จะเป็นตัวเลือกที่สร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าถุงประเภทอื่น”
ทีนี้มาดูประเภทของถุงพลาสติกที่ใช้งานโดยทั่วไปตามลักษณะการใช้งานออกเป็น
4 ประเภท ได้แก่
1. ถุงพลาสติกเย็น เป็นถุงที่ใช้บรรจุสิ่งของที่มีอุณหภูมิปกติหรือมีความเย็น
ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลีเอทธิลีน (Polyethylene :
PE) ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันของเหลวซึมผ่านเข้าออก
2. ถุงพลาสติกร้อน เป็นถุงที่ใช้บรรจุอาหารและของร้อน ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน (Polypropylene : PP) มีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูงถึง
110 องศาเซลเซียส
3. ถุงพลาสติกชนิดมีหูหิ้ว เป็นถุงที่ใช้บรรจุสิ่งของทั่วไป
ไม่เหมาะกับการใช้บรรจุอาหารและของร้อน ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลีเอทธิลีน (Polyethylene : PE) โดยส่วนใหญ่มักนำพลาสติกที่ใช้แล้วมาหลอมละลายใหม่
(Recycle) มาผสมด้วย
4. ลามิเนต เป็นถุงพลาสติกที่เกิดจากการนำแผ่นพลาสติกต่างชนิดมาประกบกัน
ใช้บรรจุอาหารเพื่อเก็บถนอมไว้เป็นเวลานานโดยไม่ให้คุณภาพเปลี่ยนแปลงไป
แบ่งได้อีกหลายชนิด ได้แก่ ถุงพลาสติกที่ต้มได้, ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุอาหารแบบสุญญากาศ,
ถุงพลาสติกที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารแห้ง, ถุงพลาสติกชนิดต้มในน้ำเดือดและทำให้เป็นสุญญากาศได้,
ถุงพลาสติกชนิดกันแสงสว่าง ความชื้น และก๊าซ
โดยพลาสติกเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้เกิดการใช้ซ้ำได้
รวมทั้งการนำไปรีไซเคิล แต่อย่างที่หลายท่านทราบดีว่า ปัจจุบันมีความท้าทายหลายประการในการรีไซเคิลพลาสติก
ซึ่งอาจมีต้นทุนที่สูง ขณะที่มาตรการกึ่งบังคับในการลดใช้พลาสติกสำหรับร้านค้าปลีก
ก็เป็นเพียงแนวทางในการลดการใช้ถุงพลาสติกลง
แต่อาจไม่ได้ลดการทำลายสิ่งแวดล้อมก็เป็นได้ เนื่องจากกระบวนการผลิตถุงผ้า
ถุงกระดาษ ก็มีส่วนทำให้เกิดมลภาวะและจะกลายเป็นขยะในอนาคตได้เหมือนกัน ถ้าไม่มีการนำมาใช้ซ้ำในครั้งต่อๆ
ไป แม้ห้างร้านต่างๆ จะยกเลิก หรือขายถุงให้ลุกค้าในกรณีที่ลูกค้าเรียกร้องก็ตาม
ดังนั้นจึงกลับมาในคำถามเริ่มต้น ‘จะมีโซลูชั่นไหนบ้างที่ทำให้เกิดการนำกลับมาใช้ซ้ำ’ ในระดับประชาชนทำไปได้อย่างแท้จริง เพราะนี่จะเป็นทางออกสำหรับปัญหาขยะพลาสติกล้มเมือง
จนต้องหาวิธีนำไปฝังกลบหรือทำแม้แต่การนำไปรีไซเคิล ซึ่งก็เป็นต้นทุนใหม่ที่เกิดขึ้นอีกด้วย
นี่จึงเกิดเป็นแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy) คือการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ด้วยกระบวนการใช้ซ้ำ หมุนเวียนกลับมาใช้
และการรีไซเคิลแปรรูปเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า
ซึ่งมีความยั่งยืนกว่าและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน และจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากขึ้น ทั้งในระดับนานาชาติ
องค์กร สังคม และระดับบุคคลที่ควรปลุกฝังให้เกิดขึ้น
แหล่งอ้างอิง :
https://www.plasticstoday.com/
https://www.plasticbag2015.com/